Maanii as an Adult.....

By

Ratchanee Sripraiwan

 

แล้ว...เราก็ได้พบกัน    

(มานะ มานี พ.ศ. 2544)

รัชนี ศรีไพรวรรณ

            แพทย์หญิงมานี รักเผ่าไทย ออกจากห้องคนไข้คนสุดท้ายเมื่อเวลา 16.55 น. พยาบาลที่รออยู่หน้าห้องรายงานว่า มีสุภาพสตรีคนหนึ่งมาคอยพบอยู่ที่ห้องพักร่วมสองชั่วโมงแล้ว มานีรู้สึกตื่นเต้นจนแทบระงับไม่ไหว เธอขอบใจนางพยาบาลคนนั้นพลางถอดเสื้อคลุมและส่งเครื่องมือแพทย์ให้ แล้วรีบเข้าไปล้างมือในห้องน้ำที่อยู่ใกล้ที่สุด มานีรู้ดีว่าสุภาพสตรีคนนั้น คือชูใจเพื่อนรักที่ไม่ได้พบกันเลยตลอดเวลา 17 ปี แม้จะได้ส่งข่าวคราวโทรศัพท์ถึงกันและได้เห็นภาพถ่ายอยู่เสมอ ก็ไม่ดีใจพบกันในวันนี้

            เมื่อเรียนจบชั้นประถมปีที่ 6 แล้ว พ่อของมานีก็ส่งเธอไปเรียนต่อระดับมัธยมศึกษาที่กรุงเทพมหานครเช่นเดียวกับมานะ ส่วนชูใจเรียนต่อที่โรงเรียนประจำอำเภอแล้วทั้งสองก็ไม่ได้พบกันอีกเลย เพราะย่าของชูใจเป็นประธานบริษัทเครื่องหนังที่ร่ำรวยเขาเป็นหมัน จึงรักชูใจเหมือนลูกแท้ๆ ของเขา ชูใจมีชีวิตที่สุขสมบูรณ์ เธอเรียนต่อด้านการออกแบบเครื่องหนัง และทำงานในบริษัทของพ่อเลี้ยง นั่งเอง และแต่งงานกับลูกชายของรองประธานบริษัทซึ่ทำงานอยู่ด้วยกัน

            วันนี้ชูใจมีโอกาสได้กลับมาประเทศไทย เพื่อไปร่วมฉลองพิธีการแต่งงานของปีติที่จังหวัดลำปาง ในอีกสองวันที่จะถึงนี้ ปีติเรียนสำเร็จจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้พบกับเจ้าสาวของเขาระหว่างเรียนด้วยกัน เจ้าสาวของปีติเป็นลูกสาวสวนผู้มั่งคั่งของจังหวัดลำปาง

            เมื่อมานีผลักบังตาเข้าไป สุภาพสตรีที่นั่งกระวนกระวายอยู่โผเข้ามากอด ทั้งสองกอดกันแน่นหัวเราะพลางร้องไห้พลางด้วยความดีใจที่สุดขีด

            “มานีจ๋า ฉันคิดถึงเธอเหลือเกิน”

“ฉันก็เหมือนกันจ้ะ ชูใจ เธอน่าจะชวนปีเตอร์มาด้วย” มานีพูดถึงสามีของชูใจ ชูใจคลายวงแขนออก จ้องมองเพื่อนรักทั้งๆ ที่น้ำตายังนอนหน้า “ปีเตอร์หรือจ้ะ เขาอยากมาจะแย่ แต่ตอนนี้ไม่ว่าง คราวหน้ามานีแต่งงาน ฉันพาเขามาด้วยแน่ๆ”

            มานีหัวเราะ ใช้ผ้าเช็ดหน้าน้ำตาให้ชูใจและตนเอง จูงเพื่อนไปนั่งที่เก้าอี้ “ฉันคงไม่มีวันนั้นหรอกจ้ะ”

            “อะไรกัน เธอน่ะทั้งสวย ทั้งดี จันทรเขาเล่าให้ฟังหมดแล้วล่ะ”

            “อ้าว ไปพบจันทรกับเพชรมาแล้วหรือ นี่เธอมานานแล้วซี ไหนว่าจะนอนพักซักงีบ เครื่องลง เมื่อตีสี่โมงไม่ใช่หรือ”

            “ใครจะไปงีบลงล่ะจ้ะ หัวใจมันร่ำร้องอยากพบเพื่อนๆ อากับอาสะใภ้ไปหาฉันที่โรงแรมเมื่อแปดโมง ฉันก็เลยมากับอา ไปบ้านอา ไปกราบคุณแม่ของเธอ คุณพ่อยังไม่กลับจากทำงาน ไปบ้านปีติเจอแต่แม่ของปีติเหมือนกัน แล้วก็ไปบ้านจันทรกับเพชร ร้านของเขาใหญ่โตดีนะ น้าของเขาก็มอบให้จันทรกับเพชรดูแลร้าน ลูกคนเล็กของเขาน่ารักนะ อีกสองคนไปโรงเรียนเลยยังไม่ได้พบ ถ้าฉันไม่มีทางจะมีลูกได้ ฉันจะขอลูกของจันทรไปเลี้ยง ไม่รู้เขาจะให้หรือเปล่า” ชูใจคุยจ้ออย่างมีความสุข

            “คงให้นะ เพราะจันทรกับเพชรก็รักและไว้ใจชูใจมาก เออ... เสียดายครูไพลินกับคุณอาทวีปย้ายไปอยู่ที่อื่นเสียแล้ว เธอเลยไม่ได้พบ”

            “นึกถึงความหลังแล้วก็มีความสุขจัง ถ้าย่ายังอยู่ก็ดีนะ ยายของปีติก็เสียแล้ว พี่มานะอกหักแล้วยังหาใหม่ไม่ได้หรือจ้ะ ติดยศพันตรีแล้วไม่ใช่หรือ กลับมาเยี่ยมบ้านบ่อยไหม แล้วพี่เขาจะไปลำปางกับเราไหมจ้ะ”

            มานีหัวเราะเบาๆ “พี่มานะเขามีคนรักใหม่แล้ว แต่ไม่รู้จะแต่งงานกันเมื่อไหร่ อาจจะได้พาปีเตอร์มาเร็วๆ นี้ก็ได้นะ วันนี้วันศุกร์พี่มานะไม่ได้ พรุ่งนี้เขาจะมาแต่เช้าไปกับเราด้วย”

            “พี่วีระซินะ น่าสงสาร คนดีๆ ไม่น่าจะเป็นอย่างนี้เลย” ชูใจรำพึงอย่างสลดใจ

            “เขามีภรรยาไม่ดีจ้ะ เลยกลายเป็นคนขี้เมาหยำเป เสียสติ เลอะเลือน เพชรต้องดูแลลุงกับป้าแทน เพชรเป็นคนดีมาก ฐานะของเขาดีทีเดียว น้องๆ ก็ได้เรียนสูงๆ ทุกคน”


Maanii Readers