หอกลอง การแจ้งข่าวของมนุษย์แต่สมัยโบราณมานั้นมีหลายรูปแบบ หลายวิธีการ
เท่าที่
วัสดุอุปกรณ์ วิธีการ
และความคิดของคนยุคนั้นจะรังสรรค์ขึ้นมาได้ การแจ้งข่าวอาจทํา
โดยการอาศัยควันไฟ
การอาศัยเสียง เช่น
เป่าเขาสัตว์ การตีเกราะ
ตีกลอง
หรือใช้แสงสะท้อนจากการนําวัสดุผิวเรียบไปตั้งรับแสง เป็นต้น
ชีวิตของผู้คนในย่านตลาด แม้จะได้พัฒนารูปแบบมาเป็นสังคมเมืองแล้วก็ตาม
ก็ยังต้องอาศัยสัญญาณเพื่อแจ้งเหตุเภทภัยต่างๆ
เช่น ไฟไหม้ หรือมีการฉกชิงวิ่งราว
การส่งข่าวให้ทั่วถึงกันทั้งย่านโดยฉับพลัน ย่อมสามารถแก้ไข วิกฤตการณ์นั้นๆ
ได้ทันท่วงที ด้วยเหตุนี้ ในตลาดบกเมืองโบราณจึงสร้างหอกลองไว้ตรงใจกลาง
ของย่าน และให้อยู่บนที่สูง เพื่อให้สัญญาณที่ตีได้ยินไปไกลถึงกันโดยตลอดย่าน
สัญญาณของเสียงกลองนั้น อาจจะต้องต่างกันเพื่อบอกข่าวที่ต่างกัน เช่น ข่าวไฟไหม้
หรือข่าวขโมย
เป็นต้น ในสมัยรัชกาลที่ ๑ มีการกําหนดสัญญาณกลองในพระนคร
เป็นคําคล้องจอง
เช่น อัคนีพินาศ พิฆาตไพรี เป็นต้น
การใช้สัญญาณจากเสียงตีนี้เองที่ทําให้มีคําเรียกหน่วยของเวลาที่ยังใช้กันอยู่
ทุกวันนี้ คือ ทุ่ม (ซึ่งเป็นเสียงกลอง) และ โมง (ซึ่งเป็นเสียงฆ้อง)
เป็นต้นและใน
สมัยต่อมาก็มีการยิงปืน
บอกเวลาเที่ยงที่บริเวณศูนย์กลางพระนคร จนเกิด
คําอุปมาอุปไมยว่า
"ไกลปืนเที่ยง" ซึ่งหมายถึงพวกที่ห่างไกลความเจริญ หรือ
ศูนย์กลางของชุมชน
|