ลูก 'สุลต่าน' ขอแต่งงานสาวสวยลูกอดีตส.ส.

ผู้สื่อข่าวรายงานวันที่ 20 ต.ค. ว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ทางสุลต่านรัฐกลันตัน ประเทศ มาเลเซีย คือสุลต่านตวนกูอิสมาแอล และชายารายออานิส ออกบัตรเชิญไปถึงบุคคลสำคัญ ทั้งในประเทศมาเลเซีย และ จ.ปัตตานี รวมทั้งจังหวัด ใกล้เคียงของภาคใต้ ประมาณ 15,000 คน ไปร่วมงานแต่ง ระหว่างตวนกูมูฮัมหมัด ฟารีส อายุ 35 ปี ลูกชายของสุลต่านรัฐกลันตัน กับ น.ส.กังสดาร หรือ "ตวนกูสุไบด๊ะ" พิพิธภักดี อายุ 24 ปี ลูกสาวของนายวัยโรจน์ พิพิธภักดี อดีต ส.ส.ปัตตานี เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ ที่ลาออกไปอยู่พรรคไทยรักไทย ซึ่งงานแต่งงาน จะจัดขึ้นที่วังอิสตานา นัครี กูบังเกรียน รัฐกลันตัน ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2547 สร้างความปลาบปลื้มใจ ให้กับผู้ที่ได้รับเชิญให้ไปร่วมเป็นแขกในพิธีเป็นอย่างมาก และมีการกล่าวขวัญ ถึงความโชคดีของสาวไทยรายนี้อย่างกว้างขวาง

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 5/2 ถนนเจริญประดิษฐ์ อ.เมืองปัตตานี ซึ่งเป็นบ้านของนายวัยโรจน์ พิพิธภักดี ทราบว่านายวัยโรจน์ไปทำธุระในกรุงเทพฯ พบแต่เพียงนางเยาวลักษณ์ พิพิธภักดี ภรรยา โดยนางเยาวลักษณ์ได้นำภาพถ่ายคู่ ระหว่างตวนกูมูฮัม-หมัด ฟารีส ลูกชายของสุลต่านรัฐกลันตันกับ น.ส.กังสดาร รวมทั้งบัตรเชิญแต่งงานมาให้ดู เพื่อยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง โดยบัตรเชิญจัดทำอย่างสวยงาม ด้วยกระดาษสีเหลือง มีภาพของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวในชุดมุสลิม มีผ้าคลุมผม ซึ่งแสดงออกถึงวัฒนธรรมของชาวมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมกันนี้ นางเยาวลักษณ์เปิดเผยความเป็นมาด้วยสีหน้าตื้นตันใจว่า น.ส.กังสดารลูกสาวเรียนจบจากมหาวิทยาลัยมหิดล คณะวิทยาศาสตร์ เข้าทำงานครั้งแรกที่บริษัทเมืองไทยประกันชีวิต กรุงเทพฯ พบรักกับฝ่ายชายครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 ส.ค. 2545 ขณะทั้งสองฝ่ายไปร่วมงานแต่งงานของลูกสาวนายทวีศักดิ์ อับดุลบุตร อดีต ส.ส.ปัตตานี ซึ่งจัดขึ้นที่วังยะหริ่ง อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี

หลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายก็คบหากันเรื่อยมา โดยฝ่ายชายประทับใจในตัวของลูกสาว พร้อมกับขอให้สุลต่านตวนกูอิสมาแอล ผู้เป็นพ่อมาสู่ขอ ประกอบกับแม่ของฝ่ายชายเองเป็นลูกสาวของตวนกูฮามิด พิพิธภักดี พี่ชายของนายวัยโรจน์ ถือเป็นเครือญาติสายเลือดเดียวกัน จึงไม่ขัดข้องที่จะให้ทั้งสองได้แต่งงานกัน ส่วนสินสอดนั้นไม่ได้เรียกร้องอะไร สุดแล้วแต่อีกฝ่ายจะดำเนินการ เพราะหากเรียกไปจะกลายเป็นขายลูกสาวกิน ขณะนี้ได้เตรียมงานไปมากแล้ว ฝ่ายชายเป็นผู้ดำเนินการเองทั้งหมด ซื้อผ้าจากประเทศสิงคโปร์มาให้ช่างในเมืองไทย ตัดชุดเจ้าสาว ในราคา 2 แสนบาท เพราะต้องการให้เป็นสากล ส่วนของ ชำร่วยเป็นเครื่องเบญจรงค์ สั่งทำในเมืองไทยเช่นกันจำนวน 3 ล้านบาท ในส่วนของฝ่ายเจ้าสาวได้แจกบัตรเชิญ 300 ใบ มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีด้วย

นางเยาวลักษณ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของ น.ส. กังสดาร ขณะนี้ทางฝ่ายชายได้นำไปพักอยู่ในวังสุลต่านรัฐกลันตัน เพื่อเรียนรู้ขนบธรรมเนียมประเพณี และการใช้ชีวิตในวัง รวมทั้งเตรียมตัวในการเป็นเจ้าสาว โดยในวันแต่งงานทางฝ่ายชายจะนำภาพคู่กับลูกสาว ทำเป็นโปสเตอร์ขนาดยักษ์ติดทั่วรัฐกลันตัน เพื่อให้ประชาชนชาวมาเลเซียได้ทราบ เท่าที่ทราบทางฝ่ายชายดูแลลูกสาวเป็นอย่างดี อยากได้อะไรก็จะจัดหามาให้ และย้ำเสมอว่า งานแต่งจะต้องยิ่งใหญ่ ในขณะที่แม่ของฝ่ายชายเองก็รักลูกสะใภ้มาก เพราะนอกจากจะเข้ามาเป็นสะใภ้แล้ว ยังเป็นสายเลือดเดียวกันด้วย จึงคอยดูแลเอาใจใส่ตลอดเวลา