โจรใต้ใช้วิธีใหม่ป่วนทำลายต้น'ลองกอง'

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 ต.ค. นายสมชาย คำจันทร์ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 280 หมู่ 1 ต.ธารโต อ.ธารโต จ.ยะลา เข้าแจ้ง ร.ต.ต.ปิยวุฒิ พงษ์ไพบูลย์ ร้อยเวร สภ.อ.ธารโต ว่า ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวน ลักลอบทำลายต้นลองกอง ภายในสวน เสียหายกว่า 10 ไร่ โดยใช้มีดฟันลำต้นแล้วใช้น้ำยา ผสมน้ำมันโซล่าราดซ้ำ ทำให้ยืนต้นตาย นอกจากสวนของตนแล้วยังมีสวน ผลไม้ของนายอภัย คำจันทร์ อายุ 45 ปี น้องชายถูกคนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกัน ทำลายเสียหายกว่า 3 ไร่ รวมค่าเสียหายไม่ต่ำกว่า 5 แสนบาท จึงได้มาแจ้งความและขอให้ทางการช่วยเหลือ

ต่อมานายประยงค์ วงศ์สวัสดิ์ อายุ 46 ปี ครูโรงเรียนนิคมสร้างตนเองธารโต 6 นายพรชัย ศรีเทพ นักการโรงเรียนเดียวกันและนางดรุณี พุ่มคำ อายุ 43 ปี ชาวสวน ต.บ้านแหร อ.ธารโต เข้าแจ้ง ร.ต.ต.ปิยวุฒิด้วยว่าถูกคนร้ายลอบทำลายสวนลองกองด้วยวิธีเดียวกัน เสียหายรวมกันกว่า 30 ไร่ ค่าเสียหายไม่ต่ำกว่า 8 แสนบาท ในเบื้องต้นสันนิษฐานฝีมือโจรสร้างสถานการณ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านั้น ร.ต.ต.ปิยวุฒิ พงษ์ไพบูลย์ ร้อยเวร สภ.อ.ธารโต รับแจ้งมีคนถูกยิงที่ถนนหมู่ 8 บ้านเจาะ-ซีโป๊ะ ต.บ้านแหร ไปสอบสวนที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.สิทธิพน ธรรมสถิตย์พร ผกก.และกำลัง พบแต่รอยคราบเลือดกับปลอกกระสุน 9 มม. 3 ปลอก ส่วนผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสนำส่ง รพ.ธารโต ทราบชื่อ นายเพียรศักดิ์ จำศักดิ์ อายุ 46 ปี อยู่หมู่ 5 ต.บ้านแหร ถูกยิงเข้าที่กกหูขวา สอบสวนทราบว่า ขณะนายเพียรศักดิ์ขี่รถ จยย.ไปสวนลองกองถูกคนร้าย 2 คน ซ้อนรถ จยย.ตามประกบยิงสาหัส

ส่วนที่ อ.เบตง จ.ยะลา กำลังทหารราบที่ 11 เดินทางเข้าพื้นที่จำนวนหนึ่งเพื่อปฏิบัติภารกิจเฝ้าตรวจตามแนวชายแดน เพื่อป้องกันการลักลอบเข้า-ออกของกลุ่มผู้ไม่หวังดีในช่วงเดือนถือศีลอด นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.เบตงและทหารพรานที่ 4104 ยะลาได้เข้าตรวจค้นในพื้นที่ล่อแหลมตามเป้าหมายตามที่มีสายข่าว รายงานพร้อมตั้งจุดตรวจลอยเพื่อสร้างความกดดันให้กับกลุ่มโจร

ด้าน พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผบช.ประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำหน้าที่ประสานงานสำนักนายกรัฐมนตรี พล.ต.ต.ปริญญา ขวัญยืน ผบก.ภ.จ.ยะลา เดินทางไปบ้านท่าวัง หมู่ 4 ต.พร่อน อ.เมืองยะลา เพื่อตรวจเยี่ยมบ้านเรือนราษฎรผู้ยากไร้ที่อยู่ในสภาพทรุดโทรมเพื่อซ่อมแซมตามนโยบายของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จุดแรกไปเยี่ยมบ้าน ของนางนิวอ ดือราแม อายุ 68 ปี เลขที่ 36/1 จากนั้นได้ไปเยี่ยมโรงเรียนมุสลิมศึกษาที่อยู่ในพื้นที่ ตามที่คณะครูสอนศาสนา และนักเรียนเชิญชวน ขณะที่นายมะหะมุ ดือเร๊ะ กำนัน ต.พร่อน กล่าวว่า เห็นด้วยที่รัฐบาลยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือผู้ยากจน โครงการนี้จะช่วยให้ชาวบ้านเข้าใจในรัฐบาลมากยิ่งขึ้น

ต่อมา พล.ต.ท.พงศพัศเดินทางไปติดตามโครงการสร้างบ้าน 1 ตำบล 1 หลังที่ ต.ลำใหม่ อ.เมืองยะลา ตามยุทธศาสตร์ในการพัฒนา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมเปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีมีนโยบายให้ตำรวจชุดมวลชนสัมพันธ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ร่วมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายปกครองและทหาร เข้ามาดูแลพี่น้องประชาชนในเรื่องที่อยู่อาศัยเป็นหลัก จากการสำรวจพบว่ามีบ้านเรือนที่ต้องสร้างทั้งหมด 200 หลัง ในพื้นที่ 3 จังหวัด ชายแดนภาคใต้ คือ ปัตตานี 101 หลัง นราธิวาส 58 หลังและยะลา 41 หลัง สำหรับเหตุการณ์ฆ่าเจ้าหน้าที่ หรือประชาชนรายวันเป็นเพียงบุคคล เพียงกลุ่มเดียวและประชาชน ส่วนใหญ่เข้าใจ ในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจมากขึ้น

ที่ จ.ปัตตานี เมื่อเวลา 13.30 น. ขณะที่นายเถกิงอินทรชูติ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49 หมู่ 3 ต.มะกรูด อ.โคกโพธิ์ ปลัด อบต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ ขับรถปิกอัพอีซูซุ ทะเบียน กข 7473 ปัตตานี ออกจากที่ทำงาน ผ่านถนนสายนาเกตุ-คลองช้าง หมู่ 4 ต.นาเกตุ ถูกคนร้าย 2 คนซ้อน จยย.ฮอนด้าแซงขวาแล้วใช้ปืนไม่ทราบขนาดยิงใส่ 1 นัด แต่กระสุนพลาดไปโดนกระโปรงหน้ารถ หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.ชัยทัต อินทนูจิตร ผกก.สภ.อ.โคกโพธิ์ พร้อมกำลัง ไปตรวจสอบสั่งตามล่าคนร้าย แต่ไร้วี่แววคาดฝีมือโจรป่วนเมือง

ส่วนคดีนายสวัสดิ์ เจียะคง อายุ 49 ปี อาจารย์2 ระดับ 7 โรงเรียนพัฒนาอิสลาม อ.เมืองปัตตานี ถูกลอบยิงแต่รอดพ้นคมกระสุนฉิวเฉียดนั้น ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายแวอับดุลเลาะ มะรูดิง ผู้จัดการโรงเรียนพัฒนาอิสลาม ว่า หลังเกิดเหตุนายสวัสดิ์ขอลาพักโดยไม่มีกำหนด โรงเรียนยังเปิดตามปกติ ตนรู้สึกเสียใจที่เกิดเหตุ กับนายสวัสดิ์ เพราะเป็นคนดี ชาวบ้านรัก ไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งกับใคร จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ต่างยืนยันว่าคนร้าย ไม่ใช่คนในพื้นที่ สำหรับผู้ต้องสงสัย 2 คน ที่ถูกจับจะประสานผู้เห็นเหตุการณ์ไปชี้ตัวด้วย

ผู้สื่อข่าวประจำ จ.นราธิวาส รายงานว่า พล.ต.ท. มาโนช ไกรวงศ์ ผบช.ภ.9 สั่งการด่วนถึงหัวหน้าโรงพักทุกแห่งใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เพิ่มมาตรการเข้มงวดในการปฏิบัติหน้าที่รวมถึง การปรับแผนรับมือกลุ่มผู้ไม่หวังดีจำนวน 70 คน ล้วนเป็นระดับแกนนำที่ลักลอบเดินทางจากประเทศที่ 3 เข้ามาแทรกซึมสมทบกับอดีต ขจก.ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อก่อเหตุร้าย โดยจะใช้แนวร่วมในพื้นที่ตามหมู่บ้านและตำบลต่างๆ กว่า 200 ตำบลเป็นผู้ลงมือตามแผนการที่วางไว้ ทั้งลอบสังหารเจ้าหน้าที่และประชาชน การโจมตีฐานปฏิบัติการที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ล่อแหลม

กรณีกลุ่มผู้ไม่หวังดีได้ลอบวางระเบิดหวังสังหารพระสงฆ์ขณะออกบิณฑบาตที่ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส แต่โชคดีระเบิดไม่ทำงานนั้น พล.ต.ต.กมล โพธิยพ ผบก. ภ.จ.นราธิวาส ได้สั่งเพิ่มกำลังตำรวจนอกเครื่องแบบคุ้มกันพระสงฆ์ออกบิณฑบาตอีก 1 ชุด หากคนร้ายก่อเหตุสามารถที่จะตอบโต้ได้ทันท่วงที สำหรับการตั้งจุดสกัดได้จัดชุด ปฏิบัติการพร้อมอาวุธครบมือ ซุ่มดูพฤติการณ์ของคนร้ายโดยวางกำลังห่างจุดตรวจประมาณ 50 เมตร เพื่อเป็นชุดจู่โจมหากคนร้ายก่อเหตุร้ายขึ้น

ขณะที่นายพร้อม จันทรัตน์ อดีตประธานสมาพันธ์ ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า เหตุร้ายที่เกิดขึ้นยังมีอย่างต่อเนื่อง แม้เจ้าหน้าที่จะปรับกลยุทธ์ต่างๆ แต่ พฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ยังสร้างความไม่พอใจให้แก่ชาวบ้าน ส่งผลเสียในด้านความร่วมมือ โดยเฉพาะตามจุดตรวจเจ้าหน้าที่มักจะใช้พฤติกรรมไม่เหมาะสมเข้าตรวจค้น อีกทั้งการสื่อภาษากันไม่รู้เรื่องและใช้วาจาที่หยาบคาย ส่วนของการ จัดระเบียบโรงเรียนปอเนาะของนายอารีย์ วงศ์อารยะ รมช.ศึกษาธิการ ตนอยากฝากให้มีการตรวจประวัติครูให้ละเอียด โดยเฉพาะเรื่องวุฒิการศึกษา ส่วนใหญ่จบการศึกษาจากต่างประเทศ ต้องตรวจสอบว่าจบสาขาอะไร สถาบันใดและมีความเชื่อถือได้แค่ไหนเพียงไร เป็นที่ยอมรับของนานาประเทศหรือไม่

ทางด้าน จ.สตูล พล.ท.ไพศาล กตัญญู แม่ทัพภาคที่ 1 พล.ต.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รองแม่ทัพภาคที่ 1 และคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมกำลังทหารจากทหารราบ 11 รอ. ที่ไปช่วยภารกิจ ดับไฟใต้ที่หน่วย ฉก.เพชราวุธ ร.11 รอ. ส่วนหน้า อ.ควนโดน จ.สตูล กำลังทหารชุดนี้มีหน้าที่ดูแลชายแดนไทย-มาเลเซียตั้งแต่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาสถึง อ.เมืองสตูล

ที่กระทรวงมหาดไทย นายโภคิน พลกุล รมว. มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีการระบุว่ากลุ่มก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ใช้แผน 7 พยายามปลดปล่อยรัฐปัตตานีให้เป็นอิสระให้ได้ผลสำเร็จภายในสิ้นปีนี้ว่า ข่าวนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่มีการพยายามมานานพอสมควร เราเองพยายามที่จะแยกหน่วยปฏิบัติงานของเขาจากส่วนสมอง และส่วนปฏิบัติการเพื่อไม่ให้เชื่อมต่อกันได้ จุดเชื่อมต่อคือครูสอนศาสนา เราพยายามที่จะเอาชนะด้านความคิดของเขาให้ได้ ในส่วนตัวแล้วคิดว่าแผนนี้คงไม่ ประสบผล อย่างไรก็ตาม เราต้องฟังหูไว้หู ไม่ประมาทนำข้อมูลต่างๆมาประกอบกัน เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ ให้ดีที่สุด

ขณะที่ พล.อ.สัมพันธ์ บุญญานันต์ รมว.กลาโหม กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้อนุมัติงบประมาณเพื่อไปเลี้ยงเครื่องดื่มให้แก่ชาวไทยมุสลิมที่อยู่ช่วงถือศีลอด โดยจะนำไปตั้งในมัสยิดทุกแห่งในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 1,700 แห่ง พร้อมอนุมัติให้เงินงบประมาณมัสยิดละ 5,000 บาท เพื่อให้ผู้บริหารในมัสยิดจัดของตามความต้องการของประชาชน ส่วนเหตุไม่สงบในพื้นที่ต้องทำให้สงบ อาจจะต้องมีการใช้ความรุนแรง แต่สำหรับประชาชนที่อยู่กินปกติสุข เราใช้พระราโชบาย ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือ เข้าถึง เข้าใจ และเข้าพัฒนา

ต่อมาเวลา 19.00 น. วันเดียวกัน พ.ต.อ.ชัยทัต อินทนูจิตร ผกก.สภ.อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี พร้อมกำลัง ไปสอบสวนเหตุยิงกันที่ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 ต.ป่าบอน พบแต่รอยคราบเลือดและปลอกกระสุน .38 ซุปเปอร์ ทราบผู้ถูกยิง ได้รับบาดเจ็บสาหัสชื่อนายการิม แบแนะ อายุ 46 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ดังกล่าว ถูกยิง เข้าที่หน้าท้อง 2 นัด นำส่ง รพ.โคกโพธิ์ แล้วส่งต่อ รพ.ปัตตานี สอบสวนทราบว่า ขณะนายการิมนั่งดูทีวีอยู่ในบ้านถูกคนร้าย 2 คนซ้อน จยย.ใช้ปืนยิงทะลุกระจกใส่ 3 นัด แต่นายการิมกัดฟันชักปืนพกประจำกายยิงสวนไป 5 นัด คาดว่าถูกโจร 1 คน บาดเจ็บแต่หลบหนีไปได้.

ที่โรงแรมเจบี หาดใหญ่ จ.สงขลา สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ พระราชทานพระวโรกาสให้นายสมพร ใช้บางยาง ผวจ.สงขลา นำผู้ประกอบการ ธุรกิจในจังหวัด นายกสมาคมจีน 5 สมาคม สโมสรโรตารี สโมสรไลอ้อน ประธานชมรมสมาคมมูลนิธิหาดใหญ่ เหล่ากาชาดจังหวัด ข้าราชการประจำและข้าราชการบำนาญรวม 200 คน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท โอกาสนี้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้พระราชทานพระราชดำรัสแก่คณะผู้เข้าเฝ้าฯว่า ข้าพเจ้ามีความยินดี ที่มีโอกาสมาพบบรรดาข้าราชการและผู้ประกอบการธุรกิจของจังหวัดสงขลา เมืองสงขลาเป็นหัวเมืองชายแดนภาคใต้ที่เป็นศูนย์กลางทาง การเมือง การปกครอง ของราชอาณาจักรไทย มีความสำคัญทั้งด้านการค้าและการทหาร จังหวัดสงขลาจึงมีความสำคัญยิ่งต่อความมั่นคงของชาติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และด้านการเมืองการปกครอง

"เป็นเวลากว่า 30 ปี ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและข้าพเจ้ามาพัก ณ พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ เพื่อเยี่ยมเยียนดูแลทุกข์สุขราษฎร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทาน แนวพระราชดำริโครงการพัฒนาในด้านต่างๆ ช่วยให้ราษฎรมีชีวิตมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเป็นลำดับ ในปีนี้มีการก่อเหตุร้ายขึ้นแทบจะทุกวัน ส่งผลต่อความไม่มั่นใจของราษฎรทุกหมู่เหล่าในภูมิภาคนี้ เป็นอย่างมากตลอดระยะเวลาเกือบ 2 เดือนที่ข้าพเจ้าพักอยู่ที่นราธิวาส ได้ออกไปเยี่ยมเยียนราษฎรได้รับทราบถึง ความทุกข์ยากของราษฎร ข้าพเจ้าเศร้าสลดและเป็นทุกข์ยิ่งนัก เป็นห่วงว่าถ้าปล่อย ให้เหตุการณ์เป็นอยู่อย่างนี้ ราษฎรจะอยู่ อย่างไร"

"พอมาคิดดูว่าชาติบ้านเมืองของเราได้ผ่านหนาวและเผชิญวิกฤติน้อยใหญ่ มาหลายครั้งหลายครา พวกเราคนไทยก็ร่วมใจกันฟันฝ่าจนรอดพ้นมาได้เสมอ ขอเพียงแต่พวกเราล้วนรักสามัคคีห่วงใย เป็นกำลังใจช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน เห็นประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่าหากเราทุกคนไม่ว่าเป็นข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ผู้แทนท้องถิ่น ผู้นำทางศาสนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้นำภาคเอกชนร่วมจิตร่วมใจกันผนึกกำลัง ให้มั่นช่วยกันแก้ไขปัญหาบ้านเมืองด้วยความรอบคอบ ก็จะสามารถนำความสงบร่มเย็นกลับมาสู่บ้านเมืองของเราได้อย่างแน่นอน"