ซุกไดนาไมต์กะฆ่าหมู่พระโชคดี-ไม่บึม
เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 19 ต.ค. ร.ต.ต.ยศ ชาวลาว ร้อยเวร สภ.อ.ศรีสาคร รับแจ้งมีวัตถุระเบิดวางไว้ข้างกระถางต้นไม้ หน้าร้านขายอาหารเชิงสะพานศรีสาคร จึงรายงานให้ พ.ต.อ.สราวุฒิ เนตรสว่าง ผกก. นำกำลังชุดเก็บกู้ระเบิด "เหยี่ยวดง" ของ นปพ.จ.นราธิวาส ไปตรวจสอบ พบกล่องทัปเปอร์แวร์ขนาดกว้าง 6 นิ้ว ยาว 10 นิ้ว สูง 4 นิ้ว ภายในมีดินระเบิดไดนาไมต์ ผสมปุ๋ยแอมโมเนียไนเตรทและน้ำมันโซล่า พร้อมเชื้อปะทุ สายไฟ ถ่านไฟฉาย ตะปู ลูกปราย เศษโซ่เลื่อยยนต์ ต่อเข้ากับวงจรโทรศัพท์มือถือ เจ้าหน้าที่เข้าไปเก็บกู้ไว้ได้ อย่างปลอดภัย ท่ามกลางความโล่งอกของทุกคน
สอบสวนนางปราณีต แก้วพิทักษ์ อายุ 43 ปี เจ้าของร้าน ให้การว่า ปกติทุกเช้าจะมีชาวบ้านมาซื้ออาหาร ตักบาตรให้พระสงฆ์ที่ออกบิณฑบาตโดยมีทหารคุ้มกัน ก่อนเกิดเหตุขณะกำลังนิมนต์พระครูปลัดภูมิพัฎ เจ้าอาวาสวัดศรีสาคร กับพระลูกวัดอีก 6 รูป เพื่อตักบาตรที่หน้าร้าน โดยมีชาวบ้านอีกกว่า 10 คน ยืนคอยตักบาตรอยู่ด้วย ปรากฏว่าได้ยินเสียงดัง "ปุ" ขึ้นที่กระถางต้นไม้ หน้าร้านก่อนมีควันสีขาวพวยพุ่งขึ้นมา จึงหันไปมองแต่ไม่สนใจมากนัก ทิ้งช่วงไปประมาณ 10 วินาที ก็มีเสียงเหมือนเดิมดังขึ้นมาอีก เมื่อเดินไปดูก็ต้องตกใจเมื่อพบกล่องระเบิด ทำให้ชาวบ้านที่คอยตักบาตรพากันวิ่งหนีกันอลหม่าน
พ.ต.อ.สราวุฒิ เนตรสว่าง ผกก.สภ.อ.ศรีสาคร กล่าวว่า คาดว่าคนร้ายลอบนำระเบิดไปวางไว้ในช่วงเช้ามืด แล้วยืนดูลาดเลาอยู่บริเวณใกล้เคียง เมื่อเห็นพระสงฆ์มาบินฑบาต มีทหารเดินคุ้มครอง และมีชาวบ้านมาใส่บาตร จึงใช้โทรศัพท์มือถือกดชนวนระเบิดหมายสังหารหมู่ แต่ต่อวงจรผิดพลาดทำให้ระเบิดไม่ทำงาน ไม่เช่นนั้น จะต้องเกิดโศกนาฏกรรมมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายคนแน่นอน
รายต่อมาประกบยิงคนงานเสียชีวิตที่ จ.ยะลา เมื่อเวลา 07.30 น. ขณะที่นายประเสริฐ ภู่ประเสริฐสรรค์ อายุ 30 ปี คนงานโรงไม้ยางพาราบริษัทสามดาวพาราวู้ด จำกัด บ้านเจาะบันดัง หมู่ 9 ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา ขี่รถ จยย.ออกจากบ้านไปทำงานตามปกติ เมื่อผ่านไปถึงหมู่ 5 ต.บันนังสตา ถูกคนร้าย 2 คนขี่รถ จยย. ตามประกบ ชักปืนยิงใส่ที่กลางหลังและลำตัวด้านซ้ายรวม 3 นัด จนรถเสียหลักล้มลงเสียชีวิตคาที่ หลังเกิดเหตุ พ.ต.ท.สมพร โสะหาบ สารวัตรเวร สภ.อ.บันนังสตา ไปสอบสวน คาดว่าสาเหตุมาจากเรื่องส่วนตัวหรือไม่ ก็เป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มโจรก่อการร้าย
ส่วนที่ จ.ปัตตานี มือปืนสวมชุดดาวะห์เหิมเกริมสุดขีด บุกยิงครูซี 7 ถึงในโรงเรียนแต่โชคดีเหยื่อ รอดพ้นคมกระสุนฉิวเฉียด โดยเมื่อเวลา 08.40 น. พ.ต.ท. วีรชาติ คูหามุข สารวัตรเวร สภ.อ.เมืองปัตตานี รับแจ้งเหตุคนร้ายบุกยิงครู ในโรงเรียนพัฒนาอิสลาม หมู่ 1 บ้านสะนิง ต.บาราเฮาะ จึงรายงานให้ พล.ต.ต.ธนเจริญ สุวรรณโณ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี นำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ มีนักเรียนกว่า 50 คน ยืนมุงดูอยู่ด้วยความตื่นตระหนก พบรถเก๋งโตโยต้าโซลูน่าสีบรอนซ์ทอง ทะเบียน กต 1691 สงขลา จอดอยู่ใต้ต้นไม้ ห่างห้องเรียนราว 30 เมตร มีรอยถูกยิงด้วยกระสุนปืน .38 ที่ขอบประตูข้างคนขับ 2 รู
สอบสวนนายสวัสดิ์ เจียะคง อายุ 48 ปี อาจารย์ 2 ระดับ 7 สอนวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์โรงเรียนดังกล่าว อยู่บ้านเลขที่ 2/10 หมู่ 5 ต.รูสะมิแล อ.เมืองปัตตานี เจ้าของรถยืนรออยู่ด้วยความตื่นตระหนก ให้การว่า ขับรถออกจากบ้านมาสอนหนังสือตามปกติ เมื่อถึงโรงเรียนเข้าไปจอดใต้ต้นไม้ ยังไม่ทันดับเครื่อง มีคนร้ายเป็นชาย 2 คน สวมชุดดาวะห์ ขี่รถ จยย.ฮอนด้า เข้ามาจอดห่างไปราว 15 เมตร คนนั่งซ้อนท้ายลงจากรถเดินปรี่เข้ามาชักปืนยิงใส่ 3 นัดซ้อน โชคดีที่เอี้ยวตัวหลบรอดพ้นคมกระสุนไปได้ฉิวเฉียด และกระสุนบางนัดถูกโครงเหล็กขอบประตูทำให้ยิงไม่เข้า เจ้าหน้าที่คาดว่าคนร้ายสะกดรอยตามมาจากบ้าน แต่ระหว่างทางไม่มีโอกาสลงมือ จนกระทั่งนายสวัสดิ์ขับรถมาถึงโรงเรียนจึงเดินเข้าไปกระหน่ำยิง ท่ามกลางความตกตะลึงของเด็กนักเรียนจำนวนมาก ส่วนสาเหตุน่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์โหมไฟใต้ มีรายงานว่า ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 2 คน อยู่ระหว่างนำตัวไปสอบสวน
หลังเกิดเหตุคนร้ายบุกยิงครูในโรงเรียน กองทัพภาคที่ 4 ส่วนหน้า/หน่วยเฉพาะกิจทักษิณ ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า การแต่งกายของคนร้ายที่สวมชุดดาวะห์ พยายามสร้างสถานการณ์ให้ทุกคนเห็นว่า ช่วงนี้เป็นช่วงเดือนรอมฎอน เป็นเดือนแห่งความประเสริฐของพี่น้องมุสลิมทั่วโลก เป็นเดือนแห่งการถือศีลอดด้วยความมุ่งมั่นบริสุทธิ์ ประพฤติปฏิบัติตนในสิ่งที่ดีงาม ทั้งกาย วาจา และใจ บุคคลทั่วไปอาจเข้าใจผิดได้ เพราะศาสนาอิสลามมุ่งสอนให้ทุกคนเป็นคนดี การกระทำดังกล่าวเป็นคนร้ายที่ไม่มีศาสนา เพราะการลอบทำร้ายคนอื่นถือว่าเป็นบาป มุ่งหวังแต่ประโยชน์ส่วนตนมากกว่าเป็นความเชื่อทางศาสนา แอบแฝงที่จะทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อศาสนาอิสลาม จึงขอความร่วมมือจากประชาชนช่วยสอดส่องดูแลบุคคลที่แต่งกายเลียนแบบ สัญลักษณ์ของศาสนาอิสลามให้ด้วย หากพบเห็นสิ่งผิดปกติให้แจ้งที่หมายเลขโทรศัพท์ 1341
ต่อมาเวลา 10.00 น. พล.ต.ต.ธนเจริญ สุวรรณโณ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี นำกำลังควบคุมตัว นายแวฮามิ เจ๊ะอาแซ อายุ 21 ปี นายอับดุลเลาะ บากา อายุ 23 ปี และนายกูอาหมัด อามีเด็น อายุ 20 ปี สามผู้ต้องหาคดียิงนายดุษฎี บุญฤทธิสุนทร อายุ 23 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) วิทยาเขตปัตตานี เสียชีวิตเมื่อวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตามจุดต่างๆ ตั้งแต่การวางแผน ลงมือยิง และแยกย้ายหลบหนี โดยแยกผู้ต้องหาขึ้นรถคนละคัน มีกำลังเจ้าหน้าที่คุ้มกันอย่างแน่นหนา ส่วนผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอีก 2 คนคือ นายซาการียา โต๊ะตาหยง กับ นายอันนุงวา กาซอ ผู้บงการ ตำรวจขออนุมัติหมายจับแล้ว โดยนายอันนุงวา กาซอ ยังเป็นผู้บงการสังหาร นายรพินทร์ เรือนแก้ว ผู้พิพากษาศาลจังหวัดปัตตานี เสียชีวิตด้วย อีกทั้งปืนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุทั้ง 2 คดีก็เป็นปืนกระบอกเดียวกัน
นอกจากนี้ยังเกิดเหตุคนร้ายลอบเข้าไปทำลายพืชผลของชาวสวนที่ จ.ยะลา โดยนายวิชัย สงห์ทอง อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 ถนนเทศบาล 2 เขตเทศบาลตำบลคอกช้าง อ.ธารโต จ.ยะลา เข้าแจ้งความที่ สภ.ต. แม่หวาด อ.ธารโต ว่ามีกลุ่มคนร้ายเข้าไปลักลอบตัด และทำลายต้นไม้ มีต้นลองกอง ทุเรียน และเงาะ รวมกว่า 70 ต้น ที่ปลูกไว้ในสวนผลไม้ คาดว่าเป็นฝีมือของแนวร่วมกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่
ด้านนายสุธรรม แสงประทุม รมช.มหาดไทย เปิดเผยถึงความคืบหน้า การจัดระเบียบโรงเรียนปอเนาะว่า ได้ประสานกับ นายอารีย์ วงศ์อารยะ รมช. ศึกษาธิการ ให้เกิดความสอดคล้องและเข้าใจตรงกันในการทำงานว่า โรงเรียนตาดิกาอยู่ในอำนาจของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ส่วนโรงเรียนปอเนาะอยู่ในอำนาจของกระทรวงศึกษาธิการ แต่ได้มอบหมายให้ ผวจ.เป็นผู้ออกใบอนุญาตในฐานะเป็นโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม เบื้องต้นกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงศึกษาธิการ อาจมีการออกคู่มือปฏิบัติร่วมกันเกี่ยวกับสถานศึกษาทั้งโรงเรียนตาดิกา โรงเรียนปอเนาะ และโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม
ต่อมาในตอนค่ำ พ.ต.อ.สมจิตร นาสมยนต์ ผกก.สภ.อ.เมืองปัตตานี พร้อมพวกร่วมกันจับกุมนายนูรูดิง อารีมามะ อายุ 22 ปี นักเรียนโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ จ.ยะลา ผู้ต้องหาใช้ปืนยิงนายสวัสดิ์ เจียะคง อายุ 48 ปี อาจารย์ 2 ระดับ 7 โรงเรียนพัฒนาอิสลาม เมื่อตอนเช้าวันเดียวกัน แต่กระสุนไม่ถูก และจับกุมนายมูฮำหมัด กาหลง อายุ 22 ปี ผู้ต้องหายิงนายแวสะมัน จินารง อายุ 37 ปี รองนายก อบต.บาราเฮาะ บาดเจ็บสาหัสเมื่อเช้าวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา จับกุมตัวทั้งคู่ได้ขณะขี่รถ จยย.ฮอนด้าเวฟ สีฟ้า ทะเบียน กบต 312 ยะลา ไปตามถนนสายปัตตานี-ยะลา อ.เมืองปัตตานี นำไปให้ผู้เสียหายทั้ง 2 คนชี้ตัวได้อย่างถูกต้อง คุมตัวไว้ขยายผลต่อไป