Article 102


3นร.ปอเนาะบุกฐานทหารโดนยิงบาดเจ็บ

กรณีที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงแสดงความห่วงใย ต่อความปลอดภัย ในชีวิตและทรัพย์สิน ของประชาชน ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ต้องเผชิญหน้ากับความรุนแรง มาตลอดระยะเวลากว่า 9 เดือนนั้น เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 30 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาลนายโภคิน พลกุล รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่า ขอให้ทุกฝ่ายหันหน้ามาร่วมกันแก้ปัญหา โดยในส่วนของกระทรวงมหาดไทย ก็ทำอย่างเต็มที่อยู่แล้ว เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ที่ผ่านมา ได้มอบนโยบายให้ ผวจ.แสดงความห่วงใย แสดงความรักและให้กำลังใจพี่น้องประชาชน และเพื่อนข้าราชการทุกคน ที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขอให้เป็นกำลังใจ และช่วยเหลือซึ่งกันและกันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในวันที่ 1 ต.ค. นี้ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง จะนัดประชุมเพื่อพิจารณาทบทวนสิ่งต่างๆที่ผ่านมาและดูว่า ในอนาคตจะเป็นอย่างไรบ้างเพื่อวางแนวทางแก้ปัญหาให้ถูกทาง

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงห่วงปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า คนไทยโดยเฉพาะข้าราชการต้องน้อมรับใส่เกล้าใส่กระหม่อม ในการที่จะไปทำหน้าที่ของตัวเองด้วยความเข้มแข็ง กล้าหาญ เสียสละ อดทน เพื่อยุติปัญหาโดยเร็วที่สุด ซึ่งตนมีแผนงานที่รองรับไว้แล้ว แต่ต้องขอใช้เวลาอีกเล็กน้อยในการที่จะ ลงมือปฏิบัติ ทั้งนี้ก็จะเป็นการดำเนินการในทุกอย่างพร้อมๆกัน โดยเฉพาะต้องมีการปรับระบบการสั่งการ และรวบรวม ยุทธศาสตร์ เพื่อให้การทำงานได้ผลโดยเร็ว จะพยายามปิดเกมให้เร็ว ซึ่งการปิดเกมให้เร็วนั้นก็ต้องขอความเข้าใจจากสื่อด้วย เพราะตนน้อมรับพระราชกระแสรับสั่งที่จะต้องทำทุกอย่างด้วยความทุ่มเท เสียสละ กล้าหาญ และอดทนต่อปัญหาทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวถามว่าจนถึงขณะนี้มีการประเมินสถานการณ์ ไปในทิศทางใด เพราะมีคนที่เสียชีวิตไปค่อนข้างมากแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณตอบว่า มันเป็นเรื่องที่เขาจ้องทำคนที่เผลอ จ้องทำคนที่ไม่มีกำลังต่อสู้อยู่ตลอดเวลา ภายในสัปดาห์นี้จะมีการปรับการทำงาน และจะทำงานเข้มข้นอย่างต่อเนื่อง โดยจะเน้นเชิงรุกลึกลงไปอีก โดยในวันที่ 1 ต.ค. จะเดินทางไปดูการทำงานใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่จะไม่ได้ออกตรวจพื้นที่ คงจะเรียกเจ้าหน้าที่มาพบมากกว่า เพราะคงไม่มีเวลาพอ คงจะเอาไว้กลับจากการเยือนประเทศเวียดนาม ก่อนจะมาพิจารณาว่าจะลงไปดูพื้นที่อีกครั้งหรือไม่

ส่วนที่กองบังคับการตำรวจภูธร จังหวัดปัตตานี เมื่อเวลา 13.30 น. วันเดียวกัน พล.ต.ท.มาโนช ไกรวงศ์ ผบช.ภ. 9 ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ของจังหวัดปัตตานี ตั้งแต่ระดับสารวัตรขึ้นมาจนถึงระดับ ผบก.เพื่อมอบนโยบายการค้นหาที่มาข่าว ความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนร้ายในพื้นที่ เนื่องจากที่ผ่านมาก่อนจะเกิดเหตุร้ายแรง ขึ้นมักจะมีการปล่อยข่าวออกมาก่อน นอกจากนี้ยังกำชับให้เร่งสืบสวน สอบสวนคลี่คลายคดีต่างๆ ที่เกิดขึ้นซึ่งก็รวมไปถึงคดีสังหาร นายรพินทร์ เรือนแก้ว ผู้พิพากษาศาลจังหวัดปัตตานี ซึ่งมีการออกหมายจับผู้ต้องหาอีก 3 คน แต่ยังไม่พบตัว

สำหรับเหตุการณ์รุนแรงยังคงมีเกิดขึ้น อย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 01.45 น. คืนวันที่ 30 ก.ย. ร.ต.ต.สมศักดิ์ แสงสิน ร้อยเวร สภ.อ.เมืองยะลา รับแจ้งจากโรงพยาบาลศูนย์ยะลาว่า มีคนไข้ถูกยิงบาดเจ็บมารักษาตัว จึงรุดไปตรวจสอบ ทราบชื่อนายอับดุลตอเล็บ ยะโก๊ะ อายุ 19 ปี ถูกยิงด้วยกระสุนปืนเอ็ม 16 บริเวณขาทั้ง 2ข้าง รวม 4 นัด นอกจากนี้ยังมีบาดแผลถูกลวดหนาม เกี่ยวตามตัวและแขนทั้ง 2 ข้าง เลือดไหลซิบๆ แพทย์นำตัวเข้าห้องผ่าตัดผ่าเอา กระสุนออก และนำตัวไปพักฟื้นในห้องไอซียูเพื่อรอดูอาการ

จากการสอบสวนนายอับดุลตอเล็บ ที่พอจะให้ปากคำได้ระบุว่า เป็นนักเรียนโรงเรียนปอเนาะแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครยะลา ก่อนจะถูกยิงได้แวะไปหาเพื่อนใกล้ฐานปฏิบัติการของทหารกองร้อยชุดเฉพาะกิจที่ 4151 บ้านปุโรง ปรากฏว่ามีเสียงปืนดังกึกก้องขึ้นหลายสิบนัด ตนถูกกระสุนบาดเจ็บ เพื่อนจึงพามาส่งโรงพยาบาลดังกล่าว คาดว่าน่าจะเป็นกระสุนของฝ่ายทหาร ทั้งนี้ในระหว่างการสอบสวนผู้บาดเจ็บ ทาง ร.ท.สุขุม เนตรทับทิม หน.ฉก. ยะลา และผู้บังคับกองร้อย ฉก.ที่ 4151 นำกำลังรุดมาร่วมตรวจสอบผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาล โดยระบุว่า น่าจะเป็น 1 ในกลุ่มคนร้ายที่พยายามจะบุกเข้าไปในฐาน

ร.ท.สุขุมกล่าวถึงรายละเอียดว่า เมื่อเวลาตีหนึ่งคืนวันเดียวกัน ขณะที่ทหารรักษาการณ์รอบฐานออกตรวจมาถึงบริเวณ รั้วลวดหนามที่ขึงกั้นติดป่าละเมาะหลังหมู่บ้านปุโรง พบกลุ่มคนกำลังมุดลอดรั้วลวดหนามเข้ามาจึงส่งเสียงเตือน แต่กลุ่มคนทั้งหมดกลับพยายามหลบหนี จึงใช้อาวุธปืนยิงสกัด ถูก 1 ในกลุ่มคนร้ายบาดเจ็บ เมื่อทราบเหตุจากทางวิทยุว่ามีคนถูกยิงส่งมารักษาตัวที่ รพ.ศูนย์ยะลา จึงติดตามมาตรวจสอบและขออายัดตัวไว้สอบสวนต่อไป เบื้องต้นนายอับดุลตอเล็บยังให้การปฏิเสธ อ้างไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุที่คนร้ายลักลอบเข้าไปในฐานของทหาร แต่ทางเจ้าหน้าที่ ยังไม่ปักใจเชื่อ ขออายัดตัวไว้สอบสวน โดยมีทหารจากค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี เดินทางมาสอบปากคำผู้ต้องสงสัยรายนี้

ต่อมาเวลา 09.30 น. วันที่ 30 ก.ย. พ.ต.ท.ปานพิทักษ์ เทพชูแดง รอง ผกก.หน.สภ.กิ่ง อ.กรงปินัง พร้อมกำลัง ได้รุดไปตรวจสอบจุดที่ทหารยิงใส่กลุ่มคนร้าย ที่พยายามจะบุกเข้าไปในฐาน โดยมี ร.ท.สุขุม เนตรทับทิม หน.ชุด ฉก.ที่ 4151 พาตรวจที่เกิดเหตุ พบร่องรอยคนร้ายไม่ต่ำกว่า 4-5 คน นั่งล้อมวงวางแผนอยู่ใต้ ต้นไม้ใหญ่ ห่างรั้วลวดหนามประมาณ 2 เมตร ก่อนจะคืบคลานเข้าไปตัดลวดหนามเป็นช่องโหว่ ขนาดตัวคนลอดผ่านไปได้ แต่โชคไม่เข้าข้าง มีทหารมาตรวจพบเสียก่อนจึงถูกยิงสกัด ก่อนจะหลบหนีไป โดย 1 ในกลุ่มได้รับบาดเจ็บด้วย ซึ่งภายหลังตรวจสอบถึงพบว่าเป็นนายอับดุลตอเล็บ และจากการเค้นสอบนายอับดุลตอเล็บจนถึงรุ่งเช้าของวันเดียวกัน ก็ยอมซัดทอดถึงเพื่อน ที่บุกเข้าไปในฐานของทหารอีก 2 คน ทราบชื่อนายไซนุดดิน ปุโรง และนายมาโส เจ๊ะนิ ทั้งคู่เป็นนักเรียนปอเนาะที่เดียวกับ นายอับดุลตอเล็บ จึงติดตามไปจับกุมตัวมาสอบสวนที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี เพื่อเค้นสอบถึงจุดประสงค์ที่ลอบเข้าไปในฐานของทหาร เบื้องต้นเชื่อว่า น่าจะเป็นการลอบเข้าไปดูลาดเลา ก่อนเตรียมการโจมตีตามที่หน่วยข่าวกรอง เคยแจ้งเตือนไว้ก่อนหน้านี้