Article 103

ยิงดับอีกศพกำนันดังนราฯ

รัฐบาลยังคงเดินหน้าสางปัญหา ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่างไม่ลดละ แต่ดูเหมือน สถานการณ์รุนแรง ที่เกิดขึ้นรายวัน ต่อเนื่องมานานเกือบ 9 เดือน จะไม่มีวี่แววสงบลงง่ายๆ เพราะบรรดากลุ่มโจร ก่อการร้ายยังฉวยโอกาสลอบกัด สร้างสถานการณ์ป่วนเมือง โหมไฟใต้ให้ลุกโชนต่อไป ล่าสุด ประกบยิงกำนันดีเด่นสังเวยชีวิตไปอีกศพ เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 1 ต.ค. ร.ต.ท.สุวิชญ์ ภู่สถิตย์ ร้อยเวร สภ.อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งเหตุคนถูกยิงตายที่ถนนสายสุไหงปาดี-สากอ บ้านดอเฮะ หมู่ 3 ต.ริโก๋ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ นำกำลังไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบศพนายสะมะแอ สีระโก อายุ 58 ปี กำนันตำบลริโก๋ นอนหงายอยู่โคนเสาไฟฟ้าริมถนน สภาพศพสวมกางเกงขายาว ใส่เสื้อยืดสีฟ้ามีเสื้อแจ็กเกตสีน้ำเงินสวมทับ ถูกยิงด้วยปืน 11 มม. ที่ศีรษะ 2 นัด ข้างศพพบรถ จยย.ทะเบียน กลษ 619 นราธิวาส ล้มตะแคงอยู่ บนพื้นพบปลอกกระสุนปืนตกอยู่ 2 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายสะมะแอ ผู้ตาย ไปหาเพื่อนพูดคุยธุระกันเสร็จแล้วขี่รถ จยย.กลับบ้าน ที่บ้านบาลูกา หมู่ 3 ต.ริโก๋ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้าย 2 คน ขี่รถ จยย.ตามประกบ คนนั่งซ้อนท้ายชักปืนออกมาจ่อยิง 2 นัดซ้อน จนรถล้มลงขาดใจตายคาที่ ก่อนที่คนร้ายจะเร่งเครื่องเผ่นหนีไป สำหรับสาเหตุคาดว่า เป็นการแก้แค้นของกลุ่มโจรก่อการร้ายในพื้นที่ เนื่องจากนายสะมะแอเป็นกำนันมาตั้งแต่ปี 2533 และ เคยได้รับคัดเลือกเป็นกำนันดีเด่น โดยเฉพาะเป็นผู้ต่อต้านการก่อความไม่สงบ ในพื้นที่ภาคใต้มาตลอด พยายามให้ ความร่วมมือกับทางราชการระดมชาวบ้าน ออกติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุหลายครั้ง นอกจากนี้ยังเป็นหัวหน้าชุดวิทยากรรวมพลังแผ่นดินด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายก รัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมผู้บริหารที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก่อนที่จะเปิดเผยว่า ที่ประชุมได้สรุปว่า ปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไขคือ ความรู้สึกของสังคมและพี่น้องประชาชนที่เกิดความไม่ไว้วางใจว่าเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้จะได้รับการแก้ไข โดยสะท้อนออกมาทางสื่อมวลชน บางคนถึงขนาดวิเคราะห์ เลยไปว่า อาจจะต้องแตกแน่ หรือการที่มีหนังสือพิมพ์ พาดหัวข่าวใหญ่หลายฉบับว่า มีเยาวชนเข้าตีและบุกยิงฐานทหาร ทั้งที่ไม่ใช่เลย แต่เป็นเพียงเด็กสนุกสนานแถวนั้น ภาวะนี้ถือว่าเป็นอันตรายมาก ต้องทำทุกวิถีทางที่จะแก้ ปัญหาความเชื่อมั่น โดยต้องให้ข้อมูลที่ตรงไปตรงมา

พล.อ.ชวลิต กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังหยิบยกกระแสพระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงแสดงความห่วงใยว่า อย่าได้ปล่อยให้มีการประทุษร้ายประชาชนเหมือนที่ผ่านมาอีกเลย และขอให้มีความรักสามัคคี สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ที่ผ่านมาพวกเรามีปัญหา ต่อไปนี้การปฏิบัติต้องอย่าลืมพระราชเสาวนีย์ที่เน้นย้ำให้มีความรักสามัคคี ไม่เฉพาะพวกเรากันเอง แต่ต้องเร่งสร้าง ความสามัคคีระหว่างพี่น้องมุสลิมกับเราด้วย นอกจากนี้ ที่ประชุมยังยอมรับด้วยว่าสาเหตุหลักของปัญหาคือ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนท้องถนนที่มีคน 2 คนขี่มอเตอร์ไซค์ไปก่อเหตุร้าย ดังนั้น รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องได้ตัดสินใจแล้วว่า ต้องเร่งรัดแก้ไขปัญหาให้ เด็ดขาด โดยจะมีมาตรการที่ชัดเจนออกมา

สำหรับมติของที่ประชุม พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า มี 3 ข้อ ข้อแรกคือ จะถือว่าความแตกต่างทางชนชาติ ศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี ที่ดำรงอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ ไม่ใช่ปัญหาของประเทศอีกต่อไป แต่ถือเป็นโอกาสที่จะอาศัยพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นประตูสู่ประเทศมุสลิม ที่มีประชากรกว่า 2,500 ล้านคน ข้อสอง ต้องเร่งวางโครงการที่จะสร้างให้เกิดวิถีชีวิตที่ดำเนินต่อไปได้ของพี่น้องมุสลิมอย่างเรียบร้อย มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี รวมทั้งต้องทำให้วิถีชีวิตของคนพุทธและมุสลิมกลับมาดำเนินไปได้ดังเดิม ไม่ใช่ คนพุทธต้องสวดศพตอนบ่ายสองโมง และข้อสาม ในการปฏิบัติการครั้งนี้จะถือเป็นภารกิจความรับผิดชอบของทุกส่วนราชการ ต้องทำให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว ทุกคนในกระบวนการต้องรับผิดชอบ ถ้าทำไม่ได้ก็หาคนที่ดีกว่ามาทำ

"ถ้าแก้ปัญหาไม่ได้ ต้องรับผิดชอบตั้งแต่ผมลงไปเลย โดยเฉพาะผม ถ้ามีการแบ่งแยกความรับผิดชอบกันอย่างชัดเจนอย่างนี้แล้ว ยังทำไม่สำเร็จมันก็น่ารังเกียจที่จะยืนอยู่ตรงนี้ ส่วนคนอื่นๆ ก็คงจะค่อยๆทยอยกันไป ถ้าในโอกาสอันใกล้ยังไม่ประสบความสำเร็จ พวกเราก็ ต้องมีความรับผิดชอบทั้งต่อนายกรัฐมนตรี และพี่น้องประชาชน ถ้าถามว่ากำหนดเส้นตายแสดงความรับผิดชอบเมื่อไหร่ เอาเป็นว่าจะดำเนินการให้เร็วที่สุด ใช้มาตรการที่เข้มข้นขึ้น มีความเด็ดขาดมากขึ้น" พล.อ.ชวลิต กล่าว

รายงานแจ้งว่า ที่ประชุมใช้เวลาส่วนใหญ่ในการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่อง ความเป็นเอกภาพในการทำงาน รวมถึงความรับผิดชอบของแต่ละหน่วยงาน ทั้งในระดับเจ้าหน้าที่ และระดับนโยบาย เพราะพบว่าที่ผ่านมามีปัญหาในเรื่องดังกล่าวมาก อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมไม่ได้มีการพูดคุยถึงการปรับแผนการทำงานแต่อย่างใด

ด้านนายโภคิน พลกุล รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ได้กำชับให้ทำแผนที่ภูมิศาสตร์สารสนเทศด้วยดาวเทียม เพื่อใช้ประเมินพื้นที่จุดเสี่ยงการก่อเหตุ โดยให้แล้วเสร็จ และสามารถเริ่มดำเนินการได้ภายในวันที่ 1 พ.ย. ขณะนี้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยส่งเจ้าหน้าที่ลงไปในพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลปัญหา ส่วนเรื่องการนำคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดและโต๊ะอิหม่ามเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ จ.นราธิวาส นั้น เป็นการเข้าเฝ้าตามประเพณีที่ปฏิบัติเป็นประจำทุกปี

ด้านความเคลื่อนไหวที่กระทรวงยุติธรรม นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ในส่วนของกระทรวงยุติธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษเข้าไปร่วมคลี่คลายคดีสำคัญๆ ทั้งคดีปล้นปืน ผู้มีอิทธิพล รวมทั้งหาข้อมูลเชิงลึก สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โดย พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ลงไปช่วยเสริมการทำงานของหน่วยงานในพื้นที่ ทั้งพนักงานสอบสวน ตำรวจวิทยาการ การออกตรวจสถานที่เกิดเหตุ และการตรวจพิสูจน์หลักฐาน ส่วนกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เข้าไปเสริมสร้างกลไกด้านความเชื่อมั่น ในกระบวนการยุติธรรมควบคู่กันไป ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหาต้องใช้หลายวิธี และระดมหลายหน่วยงานเข้ามาช่วยอย่างเต็มที่ ยืนยันว่าจะส่ง พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ลงไปร่วมงานในพื้นที่เหมือนเดิม

ขณะที่ พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า สาเหตุที่เดินทางกลับกรุงเทพฯ เพราะครบกำหนดระยะเวลา 1 เดือน อีกส่วนหนึ่งเพราะเจอปัญหาและอุปสรรคค่อนข้างมาก ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องส่วนตัว เป็นปัญหาที่มีมานานแล้ว ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาและ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รับทราบแล้ว ได้ข้อสรุปคือ กระทรวงยุติธรรมได้รับมอบหมายให้เป็นหนึ่ง ในคณะทำงานแก้ไขปัญหาความรุนแรงใน 3 จังหวัดภาคใต้ ในส่วนของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ มีหน้าที่เก็บหลักฐานในคดีที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน และสืบหาร่องรอย แกะรอยย้อนหลังคดีอาชญากรรมที่ผ่านมาด้วย หมอและนักวิทยาศาสตร์อาจลงไปดูในระยะแรก แต่ต่อไปจะใช้วิธีบูรณาการอบรมเจ้าหน้าที่ โดยให้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) เป็นหลักในการทำงาน

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ผบ.ทบ. เปิดเผยเกี่ยวกับนโยบายการทำงานแก้ไขปัญหาภาคใต้ว่า หลักๆ ของแนวทางการทำงานเหมือน พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีต ผบ.ทบ. เพียงแต่จะดูเรื่องการบริหารจัดการ เข้มงวดในการปฏิบัติให้มากขึ้น ส่วนงานด้านข่าวคิดว่ามีเอกภาพอยู่แล้ว แต่อาจเข้าไปบูรณาการ โดยมอบหมายให้ พล.ท. ไวพจน์ ศรีนวล ผช.เสธ.ทบ.ฝ่ายข่าว ไปดำเนินการ ต้องดูการใช้กำลังที่ไปปฏิบัติงานอย่างเข้มงวดและให้ใกล้ชิดมากขึ้น นอกจากนี้ มอบหมายให้ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผช.ผบ.ทบ. อดีต ผบ.หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ลงไปอยู่ในพื้นที่ประจำ เพราะเป็นผู้ที่ทราบปัญหาภาคใต้เป็นอย่างดี อยากขอความร่วมมือกับทุกฝ่าย รวมทั้งประชาชนขอร้องให้อยู่กันอย่างผาสุก ตอนนี้อาจมีเรื่องไม่เข้าใจกันบ้าง คงต้องร่วมมือกันทุกฝ่าย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ช่วงบ่ายเมื่อวานที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางโดยเครื่องบินของกองทัพอากาศ ไปถึงสนามบิน จ.นราธิวาส โดยมีนายวิชม ทองสงค์ ผวจ. นราธิวาส นำข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ทั้งฝ่ายปกครอง ทหาร และตำรวจ ให้การต้อนรับ จากนั้นนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะเดินทางไปเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงอยู่ระหว่างแปรพระราชฐาน ที่พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ อ.เมืองนราธิวาส ท่ามกลางกำลังทหารและตำรวจคอยคุ้มกันอย่างเข้มงวด นอกจากนี้ พ.ต.ท. ทักษิณ หารือร่วมกับตำรวจและทหารในพื้นที่ กำชับให้ทุกหน่วยงาน รักษาความปลอดภัยเพื่อสร้างขวัญ และกำลังใจให้กับประชาชน ตามพระราชเสาวนีย์ รวมทั้งมอบหมาย ให้ปรับแผนการรักษาความปลอดภัย หลังพบว่าคนร้ายเปลี่ยนรูปแบบการก่อเหตุ.