Article 128


ใต้ลอบฆ่าอีก2ศพอดีตรตต.-ลูกจ้างเร่งล่าถล่มโรงพัก

สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เข้าสู่ภาวะวิกฤติอีกครั้ง หลังจากกลุ่มโจรก่อการร้ายเปิดฉากโจมตีเจ้าหน้าที่รัฐโหมไฟใต้ ให้ปะทุรุนแรงอีกระลอก เมื่อวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา ทั้งยิงถล่มที่ว่าการอำเภอกะพ้อ และโรงพัก สภ.อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี สังเวยชีพเจ้าหน้าที่ อส. และตำรวจ รวม 2 ศพ นอกจากนี้ ยังบุกปล้นปืนผู้ใหญ่บ้านและชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านที่ จ.นราธิวาส รวมทั้งลอบวางระเบิดป่วนเมืองอีกหลายจุด ส่งผลให้ไฟใต้ลุกโชนรุนแรงต่อไป ไร้วี่แววจะมอดดับลงง่ายๆ

ล่าสุดโจรใต้ปฏิบัติการลอบกัดอีกครั้ง เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 13 ต.ค. ร.ต.อ.เดชา เลิศเดชานนท์ ร้อยเวร สภ.อ.ระแงะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนถูกยิงตายอยู่ในรถยนต์ ที่บ้านบาโงสะโต หมู่ 7 ต.บาโงสะโต จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ไมตรี แสงอรุณ ผกก. นำกำลังตำรวจ อส. และนาวิกโยธิน ไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุห่างจากถนนไปประมาณ 10 เมตร พบรถยนต์โฟร์วีลไดรฟ์ยี่ห้อแลนด์โรเวอร์ดิสคัฟเวอร์รี่ สีบรอนซ์ ทะเบียน 3 ฐ-7937 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ใต้ต้นชมพู่ หน้าบ้านเลขที่ 63 สภาพรถกระจกหน้าและกระจกข้างถูกยิงแตกกระจาย บนพื้นพบปลอกกระสุนปืนอาก้าและ 11 มม. ตกอยู่จำนวนหนึ่ง ส่วนในรถพบผู้เสียชีวิต 2 ศพ ทราบชื่อนายสถาพร กล่ำพลบ อายุ 43 ปี คนขับ เป็นลูกจ้างกรมทางหลวง อยู่บ้านเลขที่ 105/63 หมู่ 6 ต.บางรัก พัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี และที่เบาะนั่งข้างคนขับ พบศพ ร.ต.ต.จารึก สุวรรณสวน อายุ 62 ปี อดีตตำรวจทางหลวงที่เกษียณอายุราชการ ทั้ง 2 ศพถูกยิงพรุนทั้งร่าง

ต่อมา พล.ต.ท.มาโนช ไกรวงศ์ ผบช.ภ.9 พล.ต.ท. พงศพัศ พงษ์เจริญ ผบช.ประจำ ตร. ทำหน้าที่ประสานงานสำนักนายกรัฐมนตรี นำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ จากนั้น ร่วมกันแถลงว่า ก่อนเกิดเหตุ ร.ต.ต.จารึกได้รับคำสั่งจาก พล.ต.ต.ไมตรี ศรีวัชรานนท์ ผบก.กต.ตร. เจ้าของรถยนต์ ให้ไปหาซื้อลองกอง ร.ต.ต.จารึกจึงให้นายสถาพร เป็นคนขับรถมารับลองกองที่ติดต่อซื้อจากนายอาหามะ ปลูแว อายุ 37 ปี ลูกเขยของนางต่วนเมาะ ต่วนตีมุง อายุ 63 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุเอาไว้ก่อนแล้ว เมื่อมาถึง นายสถาพรได้ถอยรถเข้าไปจอดห่างจากบ้านประมาณ 5 เมตร เมื่อดับเครื่องยนต์ยังไม่ทันลงจากรถ ปรากฏว่าได้มีคนร้าย 4 คนนั่งซ้อนรถจักรยานยนต์ 2 คัน มาจอดริมถนน แล้วคนนั่งซ้อนท้ายคนหนึ่งถือปืนอาก้า ส่วนอีกคนถือปืน 11 มม. เดินปรี่เข้าไปที่รถยนต์ แล้วกราดยิงใส่ผู้ตายทั้งคู่จนเสียชีวิตคาที่ ก่อนวิ่งไปขึ้นรถที่เพื่อนติดเครื่องรออยู่ พร้อมยิงปืนขู่ขึ้นฟ้าไม่ให้คนติดตาม ก่อนพากันหลบหนีไป

สำหรับปมสังหารโหด ตำรวจคาดว่าน่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์ ของกลุ่มโจรก่อการร้ายในพื้นที่ หลังเกิดเหตุตำรวจร่วมกับทหารนาวิกโยธิน และ อส. ออกตามล่าสกัดจับตามเส้นทางต่างๆ ที่คาดว่าคนร้ายใช้หลบหนี รวมทั้งใช้สุนัขดมกลิ่นร่วมตามล่าด้วย แต่ยังไม่พบวี่แวว จึงนำศพผู้ตายทั้ง 2 ไปเก็บไว้ที่ โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อรอให้ พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ รอง ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ผ่าชันสูตร จากนั้นในช่วงบ่าย พล.ต.ท.พงศพัศให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า ตอนนี้ตำรวจพอรู้เบาะแสบางส่วนของคนร้ายกลุ่มนี้แล้ว เนื่องจากชาวบ้านในพื้นที่ให้ความร่วมมือ เพราะไม่อยากให้เหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นในพื้นที่ ทำให้กระทบต่อการท่องเที่ยวและการค้าขายลองกองที่ประสบปัญหา ราคาตกต่ำอยู่แล้วยิ่งย่ำแย่ไปอีก

ที่ โรงพยาบาลปัตตานี เมื่อเวลา 10.30 น. นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี พร้อม ด้วย พล.ท.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี แม่ทัพภาคที่ 4 เดินทางไปเยี่ยม อส. 2 นายที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์โจมตีที่ว่าการอำเภอกะพ้อ คือ นายมะซารี เจ๊ะดะ อายุ 35 ปี และนายอาทิตย์ อนันต์ อายุ 34 ปี นอกจากนี้ ได้เข้าเยี่ยมนายสัญญา ธรรมโชติ อายุ 39 ปี พนักงานรถไฟสถานีรถไฟตาแปด อ.เทพา จ.สงขลา และ นายบรรณสรณ์ ตันติฐานาภิวัฒน์ อายุ 36 ปี ลูกจ้างบริษัท พิธานพาณิชย์ สาขายะรัง จ.ปัตตานี ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุความไม่สงบในพื้นที่ โดยมอบกระเช้า และเงินพระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ รายละ 5 หมื่นบาท นายพลากร กล่าวว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เดินทางมาเยี่ยม ผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 4 ราย ได้รับคำชี้แจงจากแพทย์ว่าได้ดูแลรักษาอย่างดีที่สุด ขณะนี้อาการดีขึ้นตามลำดับ คาดว่าจะหายภายในเวลาไม่นาน นอกจากนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้นำเงินพระราชทานอีก 1 ล้านบาท มอบให้กับ พ.ญ.พรจิตร จันทรัศมี ผอ.โรงพยาบาลปัตตานี เพื่อเป็นเงินสำรองไว้ซื้อยา เวชภัณฑ์ หรือเครื่องมือพิเศษ สำหรับรักษาเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ถูกลอบทำร้าย

สำหรับความคืบหน้าการตามล่ากลุ่มโจรลอบโจมตีที่ว่าการอำเภอกะพ้อและ สภ.อ.กะพ้อ พล.ต.ต.ธนเจริญ สุวรรณโณ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี เผยว่า กำลังตำรวจและทหารได้ลงพื้นที่รอยต่อกับ อ.กะพ้อ คือ อ.ทุ่งยางแดง อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี และ อ.รามัน จ.ยะลา เพื่อหาเบาะแสความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนร้าย พร้อมทั้งเข้าตรวจค้นแหล่งต้องสงสัยเพื่อหาหลักฐาน รวมทั้งจัดชุดลาดตระเวนตามป่าเขา เชื่อว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุอาจจะแทรกซึมในคราบของประชาชน นอกจากนี้ได้ประสานไปยังกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในหมู่บ้านให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ในการเฝ้าจับตาชาวบ้านที่ต้องสงสัย และบุคคลแปลกหน้าที่อาศัยในหมู่บ้าน ขณะเดียวกันได้แจ้งเจ้าหน้าที่ในเขตรอยต่อ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส และ อ.รามัน จ.ยะลา เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีแนวร่วมอยู่จำนวนมาก ให้เพิ่มความระมัดระวังที่ตั้งโดยใช้รั้วลวดหนามและที่กำบัง เพื่อป้องกันการโจมตี และสับเปลี่ยนการทำงาน พร้อมรายงานความคืบหน้าทุก 24 ชม.

ที่ สภ.อ.กะพ้อ ช่วงเช้าวันเดียวกัน พ.ต.อ. สามารถ วิชัยขัทคะ ผกก.สภ.อ.กะพ้อ จัดกิจกรรมเนื่องในวันตำรวจ โดยกล่าวกับตำรวจของโรงพักที่มาร่วมงานกว่า 20 นายว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าได้รับความสูญเสียทั้งชีวิตและสถานที่ แต่ด้วยจิตใจ ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ย่อมไม่ยอมแพ้หรือท้อถอย เราต้องรวมพลังกันเพื่อให้เกิดความสงบสุขในพื้นที่ให้ได้ โดยเฉพาะดูแลความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน รวมถึงสถานที่ราชการ และขอให้ทุกคนสร้างขวัญและกำลังใจให้กันและกัน พร้อมทั้งระมัดระวังตัว ในการปฏิบัติหน้าที่ด้วย

ต่อมาเวลา 13.00 น. พล.ต.ต.บุญเรือง ผลพานิชย์ รอง ผบช.สำนักงานวิทยาการตำรวจ พล.ต.ต.บัญฑิต สิงศิรารักษ์ ผบก.กองวิทยาการภาค 4 นำกำลังเจ้าหน้าที่วิทยาการ เดินทางไปตรวจสอบสถานที่คนร้ายบุกโจมตี ที่ว่าการอำเภอกะพ้อ และ สภ.อ.กะพ้อ เพื่อตรวจพยานหลักฐานที่พบ ประกอบด้วยกระสุนปืน หมวกไหมพรม และล่าสุดพบกระสอบสีขาวอีก 1 ใบ เพิ่มเติม คาดว่าเป็นของคนร้ายใช้เตรียมขนอาวุธปืน โดย พล.ต.ต.บัญฑิต กล่าวว่า เพิ่งมารับตำแหน่งใหม่ จะมีการปรับปรุงฐานข้อมูลในการตรวจสอบวัตถุพยานต่างๆ โดยเฉพาะกระสุนปืนที่เก็บได้ในจุดเกิดเหตุ เพื่อสนับสนุนประกอบคดีของเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเสริมในการตรวจสอบหลักฐาน เช่น สถาบันนิติวิทยาศาสตร์

ที่โรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ อ.เมืองยะลา นายบุณยสิทธิ์ สุวรรณรัตน์ ผวจ.ยะลา เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารโรงเรียนและครูสอนศาสนาใน จ.ยะลา ว่า เพื่อให้เป็นแนวทางตามพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงให้ทุกคนมีความรักความสามัคคี และเข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ทางจังหวัดได้พยายามเน้นย้ำให้ผู้บริหารโรงเรียนสอนศาสนาอิสลาม จัดทำแฟ้มประวัติครูสอนศาสนาที่โรงเรียนและนักเรียนทุกคน และส่งให้สำนักงานจังหวัดยะลาเพื่อตรวจสอบประวัติอย่างละเอียด เนื่องจากจะเปลี่ยนแปลงปรับปรุง โรงเรียนปอเนาะใหม่ โดยเฉพาะหลักสูตรการเรียนการสอนคัมภีร์สอนศาสนาอิสลามที่ถูกบิดเบือนไป ท่านจุฬาราชมนตรีได้จัดทำหนังสือคัมภีร์ที่ถูกต้องตามหลักศาสนาที่แท้จริงเอาไว้แล้ว เพื่อให้นำไปบรรจุอยู่ในหลักสูตรการเรียนการสอนต่อไป

มีรายงานว่า หน่วยข่าวกรองความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้แจ้งเตือนไปยังสถานีตำรวจอำเภอบันนังสตา อำเภอธารโต และกิ่งอำเภอกรงปินัง จ.ยะลา ให้มีความพร้อมสามารถตอบโต้คนร้ายได้ทันที เนื่องจากทราบว่านายอัสมิน ยามา ราษฎร กิ่ง อ.กรงปินัง แกนนำคนสำคัญของกลุ่มขบวนการ จะนำพรรคพวกที่เป็นแนวร่วมในพื้นที่บุกโจมตีสถานีตำรวจ และสถานที่ราชการใน 3 อำเภอดังกล่าว ขณะนี้ทราบว่านายอัสมินได้นำอาวุธปืนสงคราม หลายกระบอกมาซุกซ่อนอยู่ในพื้นที่แล้ว เพื่อเตรียมเริ่มปฏิบัติการบุกโจมตีก่อนเดือนรอมฎอน หรือเดือนถือศีลอดของชาวมุสลิม ก่อนวันที่ 16 ต.ค.นี้

เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองได้วิเคราะห์ถึงเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ว่า มีการซ่องสุมของขบวนการ นำโดยนายอิสมะแอ ยะหลง แกนนำ คนสำคัญ พร้อมด้วยอุสตาซในพื้นที่ ออกเชิญชวนกลุ่มแนวร่วม ที่ยังหลงเหลือหลังจากเหตุนองเลือดวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา พยายามสร้างอิทธิพลขึ้นมาใหม่ จนถึงตอนนี้คาดว่ามีแนวร่วมอยู่เกือบหมื่นคน คาดว่าอาจมีการก่อเหตุในพื้นที่ซ้ำขึ้นอีก ขณะเดียวกัน อาจมองได้อีกแง่หนึ่งคือการลองของ หลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้ปรับ ครม. และแต่งตั้ง พล.อ.สิริชัย ธัญญสิริ รอง ผบ.ทหารสูงสุด ไปทำหน้าที่ ผอ.กองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงกลุ่มขบวนการพยายามแย่งชิงประชาชนในพื้นที่ เพราะขณะนี้มีประชาชนร้อยละ 95 ที่ให้การสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐ โดยกลุ่มแนวร่วมที่ก่อความไม่สงบในพื้นที่ส่วนใหญ่ จะเป็นเยาวชน ที่เป็นเป้าหมายหลักคือ เด็กจบ ป.6 ที่ด้อยการศึกษาและไม่มีงานทำ มีอายุระหว่าง 18-20 ปีขึ้นไปเข้ามาเป็นแนวร่วม

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการแก้ปัญหา 3 หวัดชายแดนภาคใต้ ที่ยังเกิดเหตุการณ์รุนแรงรายวัน ว่า การประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่บ้านพิษณุโลก เมื่อวันที่ 12 ต.ค. ได้ตอกย้ำถึงความร่วมมือของทุกฝ่าย เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องการความสามัคคี ทุกคนมีความรู้ มีข้อมูล และมีศักยภาพ การประสานการทำงานร่วมกันต้องวางแผนชัดเจน ดังนั้น เอกภาพเป็นเรื่องสำคัญ คณะกรรมการกองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กอ.สสส.จชต.) ที่มี พล.อ.สิริชัย ธัญญสิริ รอง ผบ.ทหารสูงสุด เป็นประธาน ได้เตรียมงานไว้หมดแล้ว คงเริ่มทำงานตามแผนปฏิบัติได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ฝ่ายก่อความไม่สงบมีการวางแผนเป็นขั้นเป็นตอนไว้อย่างดี พ.ต.ท.ทักษิณตอบว่า ความจริงไม่มีอะไร ต้องยอมรับว่าพื้นที่กว้าง เราก็เผลอ พวกนี้จะเล่นลูกเผลอไม่เล่นลูกปะทะ ในที่ประชุม สมช.ทุกฝ่ายก็รู้ปัญหาตัวเองและปรับปรุงให้พร้อมทำงาน ต้องเตรียมการให้ดีกว่านี้ สนองตอบเหตุการณ์ได้เร็ว ทำงานเชิงรุกทั้งด้านสันติและปราบปรามไปพร้อมกัน เมื่อถามถึงเหตุการณ์ที่ สภ.อ.กะพ้อ ถูกโจมตีถือเป็นการส่งสัญญาณว่าจะมีการก่อการใน 3 จังหวัดอีกหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณตอบว่า คงไม่ถึง ขนาดนั้น เพราะใน 1 จังหวัดจะมีหัวหน้าแก๊ง 1 คน และมีกลุ่มอยู่ เมื่อถามว่าเหตุที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับช่วงเดือนรอมฎอนหรือไม่ นายกรัฐมนตรีตอบว่า เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นธรรมดา เราไม่กลัว และหลังจากตั้งทีมทำงาน ที่เข้มแข็งแล้วทุกอย่างจะดีขึ้น ที่ผ่านมาการข่าวของเราค่อนข้างดี แต่บังเอิญว่าเอกภาพในการทำงานยังมีจุดอ่อนอยู่

ต่อข้อถามถึงเหตุการณ์ปล้นปืนของชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) บางจุดยังมีเงื่อนงำอยู่ พ.ต.ท.ทักษิณ ตอบว่า กำลังสอบสวนอยู่ เป็นการทำงานร่วมกันทั้งฝ่ายตำรวจ เจ้าหน้าที่จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ฝ่ายทหาร และฝ่ายการข่าว เมื่อถามว่า การมอบปืนให้อาสาสมัครจะกลายเป็นดาบสองคมหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ ตอบว่า ตอนนี้กำลังดู เพราะในทุกองค์กรต้องมีทั้งคนดีและคนไม่ดีอยู่ ต้องระมัดระวัง ขณะนี้ก็ได้มีการตรวจเช็กปืนทั้งหมด คิดว่าในสัปดาห์นี้คงจะเรียบร้อย

ส่วนกรณีที่จะไปร่วมประชุมกับนายอับดุลลาห์ อาหมัด บาดาวี นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นั้น พ.ต.ท.ทักษิณเผยว่า จะพูดคุยกันหลายเรื่อง โดยเฉพาะการพัฒนาร่วมกัน ในเขตพื้นที่ชายแดนทั้งสองฝั่ง ที่จะทำให้เกิดการจ้างงานและเศรษฐกิจดีขึ้น จะมีผลทำให้ด้านสังคมดีขึ้นด้วย ส่วนเรื่องการลดความรุนแรงในพื้นที่ และการติดตามตัวคนร้ายที่หลบหนีเข้าไปในประเทศมาเลเซียนั้น มีการประสานงานช่วยเหลือกันอยู่แล้ว ถ้าจับตัวได้ที่มาเลเซีย เขาก็จะเชิญเราไปร่วมสอบและแจ้งผลสอบสวนให้ทราบ โดยตัวการใหญ่ ที่ก่อการในพื้นที่มีอยู่ไม่กี่คน แต่มันฝึกฝนคนระดับล่าง แกนนำเหล่านี้ไม่ใช่มีเฉพาะคนหัวรุนแรงอย่างเดียวแต่มีเรื่องผลประโยชน์ด้วย และมีหลายกลุ่ม ทั้งเรื่องน้ำมันเถื่อนและยาเสพติด เป็นการทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ส่วนคนเข้าไปร่วมก็เป็นเด็กวัยรุ่นที่ถูกหลอกถูกชักชวนไปในทางที่ผิด

นายโภคิน พลกุล รมว.มหาดไทย กล่าวถึงไฟใต้ระลอกใหม่ที่คนร้ายใช้ปืนของราชการก่อเหตุว่า ต้องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการ อยากขอร้องสื่อมวลชนว่าในการสืบสวนสอบสวนและการให้ข้อมูล ขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เป็นผู้ดำเนินการเพื่อความเหมาะสม ทั้งนี้อยากให้เจ้าหน้าที่มีเวลาวิเคราะห์เหตุการณ์แล้วค่อยชี้แจง เพราะปฏิบัติการทางจิตวิทยาเป็นเรื่องสำคัญ มิฉะนั้น ผู้ก่อความไม่สงบ จะฉวยโอกาส อย่างไรก็ตาม ในส่วนของอาสาสมัครรักษาดินแดนที่บาดเจ็บและเสียชีวิต ทางการจะช่วยเหลือทุกด้าน รวมถึงช่วยเหลือด้านการศึกษาแก่บุตรด้วย

ที่กระทรวงมหาดไทย ตัวแทนชมรมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) วิทยาเขตปัตตานี นำโดย นายสุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ เข้ายื่นหนังสือต่อ รมว. มหาดไทย โดยมีข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล คือ 1.ขอให้เร่งสอบสวนกรณีสังหารนายดุษฎีบุญ ฤทธิสุนทร นักศึกษา มอ.วิทยาเขตปัตตานี โดยเร็วที่สุด และหาผู้ก่อเหตุที่แท้จริง เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย 2.ขอให้วางมาตรการคุ้มครองความปลอดภัย ของนักศึกษา อาจารย์ บุคลากรใน มอ.วิทยาเขต ปัตตานี อย่างรอบคอบ รัดกุม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุ ซ้ำ 3.การดำเนินการใดๆ ของรัฐบาล ต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดความแปลกแยก ของคนในมหาวิทยาลัย ชุมชน และประชาชนทั่วไป เพราะอาจมีผลให้ความขัดแย้งบานปลายขึ้น และขอให้กำลังใจรัฐบาลใช้หลักการปกครอง และหลักสันตินำความสงบสุขกลับมายังจังหวัดชายแดนภาคใต้โดยเร็ว

สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) และสหพันธ์นิสิตนักศึกษาทักษิณ ออกแถลงการณ์ 2 ฉบับ ฉบับแรกเรียกร้อง 4 ข้อคือ 1.ขอให้รัฐบาลทบทวนบทบาทการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในการประกาศกฎอัยการศึก 2.ข้อเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาในภาพรวม ขอให้ผลักดันเป็นวาระแห่งชาติ 3.ขอให้สื่อมวลชนระมัดระวังการนำเสนอข่าว 4.ขอให้กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาทั่วประเทศให้ความสำคัญและสนใจปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้มากขึ้นเพื่อให้เกิดความเข้าใจอย่างแท้จริง และสามารถถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องต่อสังคมต่อไป ส่วนอีกฉบับเป็นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กรณีที่ตำรวจ สภ.อ.เมืองปัตตานี บุกเข้าตรวจค้นหอพักอิบนูอัฟฟาน เลขที่ 67/3 ถนนโรงเหล้าสาย ก. ต.สะบารัง อ.เมืองปัตตานี เมื่อวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยการกระทำและใช้พฤติกรรมไม่เหมาะสม

ที่กระทรวงศึกษาธิการ นายอารีย์ วงศ์อารยะ รมช. ศึกษาธิการ กล่าวภายหลังคณะองค์กรอิสลาม และคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย เข้าพบเพื่อแสดงความยินดีกับตำแหน่งใหม่ว่า ระยะเวลาที่เหลือเป็นช่วงเวลาที่สั้น สิ่งที่ต้องทำคือทำให้พี่น้องภาคใต้เกิดความสามัคคี และทำให้ปัญหาต่างๆหมดไป เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมกำลังถูกจ้องมอง ดังนั้น ต้องแก้ไขให้ คนอื่นมองในทางที่ถูก ให้เห็นว่าเราเป็นประชาชนคนไทยที่มีความมุ่งมั่น รักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เช่นกัน สำหรับการแก้ปัญหาปอเนาะนั้น ในสัปดาห์หน้าจะลงไปพูดคุยกับโต๊ะครู ในสถาบันปอเนาะต่างๆ เพื่อรับทราบแนวทางและความต้องการในการพัฒนาปอเนาะ

บ่ายวันเดียวกัน นายผดุงยศ ดวงมาลา รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) วิทยาเขตปัตตานี เปิดเผยภายหลังเข้ารายงานสถานการณ์ต่อเลขาธิการ คณะกรรมการการอุดมศึกษา ว่า ยอมรับว่าขณะนี้สถานการณ์ค่อนข้างรุนแรง จนสร้างความหวาดผวา ให้แก่นักศึกษาและบุคลากรของมหาวิทยาลัย มีนักศึกษาแสดงความจำนง ขอโอนย้ายที่เรียนและลาออกเกือบ 300 คน นอกจากนี้ยังมีบุคลากรขอโอนย้ายและลาออกอีกจำนวนหนึ่งด้วย และที่กระทบมากที่สุดคืออาจารย์จากต่างประเทศที่มาสอนภาษาประมาณ 20 คน ลาออกเป็นจำนวนมาก เนื่องจากสถานทูตของประเทศต่างๆ ทำหนังสือให้ออกนอกพื้นที่โดยเร็วที่สุด เพราะเห็นว่าไม่ปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มหาวิทยาลัยได้ประสานกับทหารและตำรวจในการ รักษาความปลอดภัยให้แก่นักศึกษาที่จะสอบเสร็จวันที่ 16 ต.ค.นี้

นายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์ภาคใต้ว่า เห็นใจหน่วยงานที่ตั้งขึ้นมาใหม่ที่อาจจะยังไม่เข้ารูปเข้ารอย เวลานี้นายกรัฐมนตรี ควรหยุดเอาชนะทางการเมือง น่าจะเอาเวลาไปทุ่มเทแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง เพราะสถานการณ์ตอนนี้ไม่ธรรมดาแล้ว รัฐบาลจะต้องรู้ว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นใครและพื้นที่ใดที่มีการก่อเหตุร้ายบ่อยๆ ฉะนั้น การข่าวต้องมีความแม่นยำ ภาพที่สะท้อนออกมาวันนี้นั้นยังไม่มีความปลอดภัย ในชีวิตและทรัพย์สิน ดังนั้น รัฐบาลจะต้องหันมาทบทวนการทำงานด้านมวลชนให้มากขึ้น นอกจากนี้ ต้องสร้างเอกภาพในการทำงานให้หน่วยงานต่างๆ ส่วนการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรี หรือผู้รับผิดชอบ แต่ นายกรัฐมนตรี ยังคงลอยตัวอยู่เหนือปัญหาถือเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง อยากเห็นรัฐบาลทำงานมากกว่าพูด หากจะนำมาตรการเด็ดขาดมาใช้ก็ควรระมัดระวังการฝ่าฝืนกฎหมายด้วย ทั้งนี้วิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือการใช้สันติวิธีและการเข้าถึงมวลชนในพื้นที่ ในหลวงเคยตรัสไว้แล้วว่าเป็นยุทธศาสตร์สำคัญ ตราบใดที่รัฐบาลยังไม่สามารถสร้างความมั่นใจในชีวิตทรัพย์สินให้แก่ประชาชนได้ ก็ยากที่จะหาแนวร่วมได้

ต่อมาในช่วงเย็น พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมคณะ เดินทางด้วย เครื่องบินแอร์บัส A319 หรือ "แอร์ ฟอร์ซ วัน" เครื่องบินประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่รัฐบาลเพิ่งซื้อมาราคา 2,000 กว่าล้านบาท จากท่าอากาศยานกรุงเทพไป จ.ภูเก็ต เพื่อประชุมร่วมกับนายอับดุลลาห์ อาหมัด บาดาวี นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่เดินทางมาถึงท่าอากาศยานภูเก็ต เมื่อเวลา 17.15 น. ก่อนพากันเดินทางไปโรงแรมเชอราตัน แกรนด์ ลากูน่า สถานที่ประชุมประจำปีระหว่างนายกรัฐมนตรีไทยกับมาเลเซีย โดยจะมีการหารือถึงความร่วมมือด้านความมั่นคง ความร่วมมือในการแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ความร่วมมือในการอบรมคณะกรรมการว่าด้วยยุทธศาสตร์ การพัฒนาร่วมสำหรับพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย การส่งเสริมความเป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ไทย-มาเลเซีย

ภายหลังการประชุม พ.ต.ท.ทักษิณ และนายอับดุลลาห์ อาหมัด บาดาวี ร่วมแถลงข่าว โดย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า หัวข้อหลักของการหารือคือความร่วมมือกันตามแนวชายแดน โดยเฉพาะความร่วมมือกันแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และการดำเนินโครงการที่มีความสำคัญลำดับสูง ภายใต้กรอบคณะกรรมการว่าด้วยยุทธศาสตร์การพัฒนาร่วม สำหรับพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย ทั้ง 9 โครงการ ที่จะช่วยยกระดับความอยู่ดีกินดีของประชาชนในพื้นที่ การลงนามความตกลงและวางศิลาฤกษ์การก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโกลกแห่งที่ 2 เชื่อมระหว่าง อ.แว้ง จ.นราธิวาส กับรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ในวันที่ 14 ต.ค. เป็นสัญญาณที่ดีในการกระชับความสัมพันธ์ นอกจากนี้ ยังมีการหารือถึงเรื่องการแก้ปัญหาไข้หวัดนกที่จะมีการประสานงานกันอย่างใกล้ชิด