Article 17
ประเด็นร้อน :
ยุทธการชโลมเลือด 8 ชั่วโมงระทึก!!! มิคสัญญี 3 จังหวัดใต้
สถานการณ์ไฟใต้ลุกโชนมาตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค. 47 เมื่อคนร้ายปิดล้อมค่าย ทหาร-ปล้นปืนค่ายกองพันทหารพัฒนาที่
4 จ.นราธิวาส สังหารรั้วของชาติ 4 ศพ หลังจากนั้นดินแดนด้ามขวานทองคุกรุ่นตลอดมา
คนของรัฐและประชาชนพลีชีพเซ่นสังเวยให้กลุ่มผู้ไม่หวังดีต่อชาติบ้านเมืองแทบทุกวัน
จนกลายเป็นดินแดนวิกฤติ-มิคสัญญี เศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวพังย่อยยับ ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ
ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ปรับเปลี่ยนผู้นำหน่วยเข้าไปสยบปัญหา
แต่กลุ่มโจรกลับอหังการเหิมเกริมเด็ดหัวคนของรัฐ รวมทั้งทหาร-ตำรวจ
ตามแผนยุทธการใบไม้ร่วง
ล่าสุดหน่วยข่าวกรองของฝ่ายไทย จมูกเร็วตามดมกลิ่นเจอว่า เจ๊ะกูแม ปูเต๊ะ
หัวหน้าขบวนการ ขจก.มูจาฮีดีนปัตตานี พร้อมลูกสมุนรวม 4
คนแอบเดินทางมาจากประเทศมาเลเซียเข้ามาใน จ.นราธิวาส ทาง อ.แว้ง
โดยหอบเงินจำนวนหนึ่งมาด้วย เพื่อว่าจ้างให้กลุ่มแนวร่วมลงมือปฏิบัติการ
ร้ายครั้งใหญ่ ทางหน่วยข่าวกรองรีบแจ้งให้ ทหาร-ตำรวจตามโรงพัก และจุดตรวจ
รวมทั้งฐานปฏิบัติการทุกแห่งเฝ้าระวังป้องกันเป็นพิเศษ
ในที่สุดแผนปฏิบัติการของกลุ่มโจรดีเดย์ได้ฤกษ์เมื่อเวลา 05.30 น. วันที่ 28 เม.ย.
ด้วยการแบ่งกำลังเป็นชุด ๆ ละ 20-30 คน ใช้รถ จยย.-รถยนต์และเดินเท้ามีมีดสปาต้า
ปืนลูกซอง อาวุธสงครามเอ็ม 16 และอาก้า จู่โจมเข้าโจมตีจุดตรวจ ป้อมยาม
ฐานปฏิบัติการ ของตำรวจ-ทหาร ชนิดปูพรมพร้อม ๆ กัน ในพื้นที่ จ.ยะลา ปัตตานี และ
สงขลา
โดย จุดแรก ที่ว่าการกิ่ง อ.กรงปินัง จ.ยะลา คนร้ายแต่งชุดดำประมาณ
30 คน ทั้งหมดโพกศีรษะด้วยผ้าลายขาว-แดง
มีอาวุธครบมือบุกปิดล้อมถล่มกองร้อยอาสาสมัคร (อส.) และบ้านพักตำรวจ สภ.อ.กิ่ง อ.กรงปินัง
โดยคนร้ายพยายามบุกเข้าไป ยังห้องเก็บอาวุธปืนในกองร้อยอส.
แต่เนื่องจากอาวุธปืนมีการร้อยโซ่ ทำให้คนร้ายเอาไปไม่ได้ จึงถอดใจล่าถอย
ระหว่างนั้นเกิดปะทะกับเจ้าหน้าที่ ทำให้คนร้ายตาย 3 ศพ ตำรวจเสียชีวิต 2 นาย
จุดที่ 2 คนร้ายบุกเข้าโจมตีฐานปฏิบัติการทหาร ร้อย ร.4151 จ.ยะลา
แต่ถูกตอบโต้ชนิดตาต่อตาฟันต่อฟันจากทหารในฐาน กลุ่มโจรถูกปลิดชีพ 13 ศพ
จุดที่ 3 คน ร้ายบุกโจมตีฐานปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรยะลา (นปพ.ยะลา)
ที่จุดตรวจบ้านเนียง อ.เมือง ยะลา แต่ถูกเจ้าหน้าที่ยิงตายเกลื่อน 10 ศพยึดรถจยย.ได้
5 คัน
จุดที่ 4 คนร้ายจู่โจมฐานปฏิบัติการบ้านบัวทอง ของกองกำลังผสมตำรวจ-ทหาร
อ.ธารโต จ.ยะลา จึงถูกยิงตาย 4 ศพ เจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 1 นาย
จุดที่ 5 คนร้ายบุกเข้าตีฐานปฏิบัติการตชด.ตั้งอยู่หมู่ 2 บ้านบาเจาะ
อ.บัน นังสตา จ.ยะลา ถูกยิงตาย 8 ศพ ตำรวจบาดเจ็บ 4 นาย
จุดที่ 6 คนร้ายจู่โจมเข้าตีฐาน ปฏิบัติการ ตชด. หมู่ 4 บ้านบาโงย อ.รามัน
จ.ยะลา เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย
จุดที่ 7 คนร้ายบุกเข้าตีฐานทหาร ตั้งอยู่ ต.ตาเซะ อ.เมืองยะลา
ทหารเสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 1 นาย
จุดที่ 8 คนร้ายโจมตีป้อมยามจุดตรวจ ต.แม่ลาน อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี
ผลการปะทะคนร้ายเสียชีวิต 8 ศพ ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย
จุดที่ 9 คนร้ายโจมตีจุดตรวจตำรวจบ้านเกาะหม้อแกง ต.ท่ากำซำ อ.หนองจิก
จ.ปัตตานี คนร้ายถูกยิง ตาย 2 ศพ ส่วนตำรวจบาดเจ็บ 1 นาย
จุดที่ 10 คนร้ายบุกโจมตีจุดตรวจ ต.โสร่ง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี
ทำให้คนร้ายตาย 2 ศพ เจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 1 นาย
จุดที่ 11 กำลังกองโจร 30 คน มีรถ จยย. และรถปิกอัพเป็นพาหนะ โจมตี
จุดตรวจป้อมยามบ้านกรือเซะ ต.บานา อ.เมืองปัตตานี
และสามารถบุกป้อมยามได้สำเร็จและลงมือเผาป้อมยาม และเผา รถจยย. ของตำรวจอีก 4 คัน
ต่อมาตำรวจ ได้วิทยุขอกำลังทหารเข้าปิดล้อมที่เกิด เหตุ
คนร้ายหลบหนีเข้าไปในมัสยิดกรือเซะ
ผลการปะทะช่วงแรกคนร้ายตาย 10 ศพ ส่วนตำรวจเสียชีวิต 1 นาย
ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ปิดล้อมมัสยิดอยู่นานหลายชั่วโมงก็สามารถปลิดชีพคนร้ายได้อีกประมาณ
30 ศพ
จุดที่ 12 กำลังคนร้ายประมาณ 25 คน มีรถ จยย. 8 คัน เป็นพาหนะ
บุกตีป้อมยามจุดตรวจสามแยกเขาแดง อ.สะบ้า ย้อย จ.สงขลา คนร้ายถูกสังหาร 19 ศพ
อนึ่งสำหรับคนร้ายส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ แต่งกายด้วยชุดดะวะห์
ใช้ผ้าแดง-ขาวโพกศีรษะ เหมือนกับนักรบของปาเลสไตน์
วิเคราะห์การปฏิบัติการโจมตี
กลุ่มโจรก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้
ครั้งนี้ประสบความปราชัยครั้งใหญ่ที่สุด
ซึ่งตามแผนปฏิบัติการได้รวบรวมศูนย์กำลังประมาณ 15 หมู่ หรือประมาณ 150 คน
พุ่งเป้าโจมตีใน จ.ยะลา ปัตตานี และ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา
แต่เจ้าหน้าที่ของรัฐได้สนธิกำลังปฏิบัติการบดขยี้ และสังหารกลุ่มคนร้ายตายเกลื่อน
และจับเป็นได้อีกจำนวนหนึ่ง ในขณะที่เจ้าหน้าที่ของรัฐสูญเสียน้อยมาก
ที่ผ่านมาคนร้ายซุ่มโจมตีในเวลากลางคืน หรือลอบยิงในเวลากลางวัน
แต่มาครั้งนี้ได้ปฏิบัติการยามฟ้าสาง ซึ่งคน
ร้ายคิดผิดเพราะเจ้าหน้าที่ได้เพิ่มกำลัง เข้าไปในพื้นที่จำนวนมาก ประกอบกับ
ได้รับความร่วมมือจากประชาชนใน พื้นที่ทั้งพี่น้องไทยพุทธและไทย
มุสลิมทำให้การข่าวของรัฐรับทราบความเคลื่อนไหวจึงสามารถรับมือได้ทันท่วงที
โดยเฉพาะที่ จ.ปัตตานี คนร้ายกลุ่มหนึ่งได้หนีเข้าไปในมัสยิดกรือเซะ
เป้าหมายก็เพื่อต้องการให้เจ้าหน้าที่ของรัฐเปิดฉากถล่มทำลายมัสยิดแต่ต้องผิดหวัง
เพราะเจ้าหน้าที่ของรัฐได้รับคำชี้นำทางการเมืองว่า
การกระทำเช่นนี้คือการมุ่งร้ายต่อกัน
อย่างไรก็ตามก่อนหน้าคนร้ายจะลง มือปฏิบัติการ 1 สัปดาห์
ก็ได้เกิดปะทะประปรายหลายแห่งใน จ.นราธิวาส ซึ่งเหมือนเป็นแผนลวงของกลุ่มคนร้าย
ดังนั้นพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ใน จ.ยะลา
และปัตตานี ระมัดระวังเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งมาเกิดเหตุ.
สรุปยอดผู้เสียชีวิต
จังหวัดปัตตานี คนร้ายเสียชีวิต 45 ศพ
จังหวัดยะลา คนร้ายเสียชีวิต 43 ศพ
จังหวัดสงขลา คนร้ายเสียชีวิต 19 ศพ
รวมยอดคนร้ายเสียชีวิต 107 ศพ จับตัวคนร้ายได้
17 คน
รวมยอดเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 5 นาย เป็นทหาร
2 นาย ตำรวจ 3
นาย บาดเจ็บ 15 นาย