Article 7
ทหาร-ตำรวจ สู้ตาย
ยิงโจรใต้! ด้บผยอง 107ศพ
นักรบวัยรุ่น ที่หลงผิด หลายร้อยคน บุกโจมตี ฐานปฏิบัติการตำรวจ - ทหาร ใน 3
จังหวัด ภาคใต้ ประกอบด้วย ยะลา ปัตตานี และ สงขลา รวม 12 จุด แต่หนนี้ ต้องมาพบ จุดจบ เมื่อ ชุดหัวหอก ที่ บุกปล้น ปืน จากที่ว่าการ กิ่ง อ. กรงปินัง พลาด
ทำให้ เจ้าหน้าที่วิทยุ แจ้งเตือนภัย ได้ทัน
ส่งผลให้ กลุ่มก่อการร้าย ต้องสังเวย คมกระสุน ล้มตาย เป็นใบไม้ร่วง
ชุดสุดท้าย หลังจากยึด ป้อมตำรวจ ได้
ถูกลุยตี เอาคืน ต้องล่าถอย เขัาไป ปักหลักสู้ ในมัสยิดกรือเซะ
โบราณสถาน ศักดิ์สิทธิ์ ของ ชาวปัตตานี ถูกปิดล้อมเกือบ 9 ชั่วโมง จึงพ่ายแพ้ ราบคาบ รวมถูกเช็กบิล ทั้งหมด 107 ศพ ถูกจับเป็น 17 คน ฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐ พลีชีพ 5 นาย บาดเจ็บ 15 นาย ขณะที่ พล.อ. ชัยสิทธิ์
ระบุ ส่วนใหญ่ เป็นวัยรุ่น ที่ติดยา ถูกปั่น หัวหลอก ให้มาตาย
พบหลักฐาน ระบุชัด เป็นสมาชิก กลุ่มเจไอ สั่งทุกหน่วย ปักหลักพร้อม ระวัง การกลับมา ล้างแค้น จิ๋ว ไม่สบอารมณ์ พัลลภ สั่งให้ ห้ามยุ่ง พื้นที่ ชายแดนใต้ เด็ดขาด
ในหลวง ทรงห่วงใย เรียก ผบ.ทบ. เข้าวัง ถวายรายงานด่วน
มัสยิดกรือเซะ ศาสนสถานสำคัญ ของ ชาวมุสลิม อายุกว่า 200 ปี ตั้งเด่น ตระหง่านอยู่ บนพื้นที่ บ้านกรือเซะ ต.ตันหยงลุโละ อ.เมืองปัตตานี มีลักษณะ การก่อสร้างอาคาร ด้วยอิฐถือปูน ขนาด 15 x 30 เมตร สูง 6.50 เมตร เสาทรงกลม เลียนรูปแบบ เสากอธิค ตามแบบสถาปัตยกรรมยุโรป ช่วงประตู หน้าต่าง มีทั้งแบบโค้งแหลม และ มีที่คล้ายกับ อิฐ สมัยทวาราวดี ปะปนอยู่บ้าง บริเวณฐาน ของ มัสยิด ส่วนสำคัญ หลังคา มัสยิด ยังทำก่อสร้าง ไม่เสร็จ
เนื่องจาก ทุกครั้ง ที่เริ่มก่อสร้าง จะต้องมีเหตุการณ์ ทำให้ยอด หลังคา พังลงมา ทุกครั้ง จนชาวบ้าน เชื่อกันว่า เป็นเพราะ คำสาป ของ เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ที่เคยสาบแช่ง พี่ชาย ซึ่งเป็นผู้สร้าง มัสยิด แห่งนี้ไว้ เมื่อราว พ.ศ. 2159-2167 ได้กลายเป็น จุดสนใจ ของชาวโลก อีกครั้ง
เมื่อช่วงเช้า ประมาณ 05.30 น. วันที่ 28 เม.ย. ขณะที่กลุ่มชาวบ้าน กำลังทำ พิธีละหมาด กันอยู่ ภายใน มัสยิดอย่างสงบ
ได้มี กองกำลังติดอาวุธ แต่งกาย ชุดกางเกงทหาร เสือขาว โพกผ้า
แบบนักรบ
ปาเลสไตน์
กว่า 30
คน ขับ
รถกระบะ 3 คัน
อ้อมมาจอด
ด้านหลัง
มัสยิด แล้วตั้งแถว
จัดเป็น ชุดๆ
ละ 5 คน จำนวน
3 ชุด รวม
15 คน แล้วเดินลุย
ออกมา ยังหน้าป้อม
ตำรวจ ที่ตั้งรักษาการณ์
อยู่บริเวณ
หน้ามัสยิด ซึ่งในเวลานั้น
มีกำลังเจ้าหน้าที่
5 นาย เข้าเวร
ปฏิบัติ หน้าที่อยู่ เมื่อเห็น
กลุ่มคนร้าย
เดินเข้ามา
จึงตะโกน
สอบถามว่า
จะไปไหน
กลับไม่มี
เสียงตอบ แต่มี
เสียงปืนเอ็ม 16
ดังขึ้น
จากกลุ่ม
ชายฉกรรจ์
กระสุนพุ่ง
เข้าใส่ร่าง
ส.ต.ต.ณรงค์ชัย พลเดช ตำรวจคอมมานโด
จนล้มลง
กองกับพื้น
เสียชีวิต
ทันที
เจ้าหน้าที่
ตำรวจ อีก 4 นาย
เมื่อเห็นเพื่อน
ถูกยิง เสียชีวิต
แบบไม่ทัน
ตั้งตัว จึงกระโดดหนี
ออกจาก ป้อมตำรวจ
หลบกระสุน
และ คมมีด
ที่กรูกัน
เข้ามา หมายเอาชีวิต
แล้วขอกำลัง
สนับสนุนจาก
หน่วยทหาร
เฉพาะกิจ
ที่อยู่ห่าง
ออกไป 1 กิโลเมตร
และ เจ้าหน้าที่
ตำรวจ สภ.อ.
เมืองปัตตานี
ระหว่าง รอกำลัง
สนับสนุน
มานั้น เจ้าหน้าที่
ยังเฝ้า สังเกตุการณ์
ดูอยู่ พบว่า
กลุ่มคนร้าย
ลงมือเผา
ป้อมตำรวจ
รถจักรยานยนต์
ของ ตำรวจ
4 คัน วอดไป
กับตา จากนั้น
ไม่นาน กำลังเสริม
ทั้งทหาร
และ ตำรวจ
อาวุธครบมือ
เคลื่อนพลมา
ชุดแรก กว่า 50 นาย มาประจันหน้า
เมื่อคนร้าย
เห็นกำลัง
ที่ด้อยกว่า
จึงเปิดฉาก
ยิงเปิดทาง
หนีเข้า บริเวณ
ใกล้เคียง
ป้อมตำรวจ
คือ ที่ทำการ
อบต.ตันหยงลุโละ
5 คน บ้านหลังหนึ่ง
ของราษฎร
5 คน และ
มัสยิด 5 คน
หลังจากนั้น
กลุ่มคนร้าย
ที่หนีเข้าไป
ตั้งหลัก
ในที่ทำการ
อบต. ตันหยงลุโละ
บ้านประชาชน
และ มัสยิด เปิดฉากยิงและ
ขว้างระเบิด
ใส่เจ้าหน้าที่
อย่างหนัก
จึงมี การยิงตอบโต้กัน
เป็นระยะๆ
ทำให้ 1ในคนร้าย
เสียชีวิต
ทันที 1 ราย
และ กำลังเจ้าหน้าที่
ทำได้เพียง
ปิดล้อม พื้นที่ไว้
ชั่วคราว ไม่กล้าบุก
เข้าไป แต่อย่างใด
เนื่องจาก
ต้องรอ กำลังสนับสนุน
ที่จะมา สบทบ
จนกระทั่ง
เวลาผ่านไปประมาณ
30 นาที กำลังสนับสนุน
ทั้งเฮลิคอปเตอร์
2 ลำ
รถถังหุ้มเกราะ
รุ่น วี 150
จำนวน 10 คัน
ตำรวจทหารจากหน่วยรบพิเศษ
จ.ลพบุรี
และ ทหารราบ
ค่ายอินทยุทธบริหาร
จ.ปัตตานี
พร้อมอาวุธ
ครบมือ รวมแล้ว
กว่า 1,000 นาย
ได้เข้ามา
ปิดล้อม บริเวณ
โดยรอบ ของมัสยิด
ซึ่งใช้วิธี
การปิดล้อม
เป็นชั้นๆไป
และ เป็นเวลาเดียวกัน
ที่เสียงปืน
จากที่ทำการอบต.
และ บ้านประชาชน เงียบลง
จึงเข้าไป
ตรวจสอบ พบคนร้าย
หลบหนี ไปแล้ว
ทำให้เหลือ
จุดที่ คนร้าย
ตั้งมั่นอยู่
เพียงแห่งดียว
คือ ในมัสยิดกรือเซะ
จนกระทั่ง
เมื่อเวลา
11.00 น. พล.อ.วัลลภ
ปิ่นมณี รองผอ.กมอ.รน.
พร้อม พล.อ.
ชัยสิทธิ์
ชินวัตร
ผบ.ทบ.และ
เจ้าหน้าที่
ระดับสูง
ได้เดินทางมา
อำนวยการ วางกลยุทธ์
ปราบปราม
กลุ่มก่อการร้าย
สั่งการปิด
ถนนสายเอเซีย
บริเวณ หน้ามัสยิดไป
ในรัศมี ยาวกว่า
1กิโลเมตร
โดยให้ เจ้าหน้าที่
ทหาร หน่วยกล้าตาย
ประมาณ 15 นาย
ใช้วิธี คลานต่ำ
เข้าใกล้
มัสยิด มากที่สุด
แล้วกำลัง
ส่วนหลัง
ยิง แก๊สน้ำตา
เข้าไป ในมัสยิด
แต่กลับถูก
กลุ่มคนร้าย
ยิงสวนมา
พร้อมขว้าง
ระเบิด ใส่
ตลอดเวลา
แล้วใช้ ไมโครโฟน
ประกาศลั่น
เป็นภาษาไทย
และ ยาวี
ว่า จะยอม
ขอสู้ตาย
ดีกว่า มอบตัวกับ
เจ้าหน้าที่รัฐ
เจ้าหน้าที่หน่วยกล้าตาย
จึงต้องถอยมา
ตั้งหลักใหม่
พล.อ. วัลลภ
จึงตัดสินใจ
อย่างเด็ดขาด
สั่งการให้
ใช้จรวด อาร์พีจี
และปืนเอ็ม
79
ยิงถล่ม
เข้ากลาง
มัสยิด รวมแล้ว
กว่า 20 นัด
จนทำให้
หลังคา มัสยิด
พังทลายลง
พร้อมกับ
สิ้นเสียงปืน
ของ กลุ่มคนร้าย
เจ้าหน้าที่
ต้องหมอบคลาน
อยู่บริเวณ
โดยรอบ ของมัสยิด
นานกว่า
30 นาที
หลังจาก
เปิดฉาก ยิงถล่ม
ด้วยอาร์พีจี
และ เอ็ม 79
จนแน่ใจว่า
ไม่มี เสียงปืนดังขึ้น
ภายในมัสยิด
จึงได้ส่ง
หน่วยกล้าตาย
15 นาย พร้อมอาวุธครบมือ
คืบคลานเข้าไปอีก
พบว่า ไม่มี
เสียงปืนดังขึ้นอีก
และ เห็นศพ
คนตาย นอนเกลื้อนอยู่
เต็มพื้น
ปะปนกับ เศษปูน
ที่พังทลาย
ลงมา
แต่เจ้าหน้าที่
ก็ยังไม่แน่ใจ
ถึงความปลอดภัย
เนื่องจาก
เกรงว่า อาจจะมี
การซุกระเบิดไว้ใต้ศพ
จึงต้องใช้
วิธีการ นำเชือก
ผูก ขาศพ
แต่ละศพรวมแล้ว
31 ราย ดึงออกมา
ทีละศพ
ผลปรากฎว่า
ไม่มีระเบิด
ซุกซ่อนอยู่
แต่อย่างใด
กำลังเจ้าหน้าที่
จึงเข้าเคลียร์
พื้นที่ ภายใน
มัสยิด พร้อมกับ
ยึดอาวุธ
ปืนสงคราม
อาทิเช่น
ปืนเอ็ม 16 อาก้า
กระสุนปืน
อีกจำนวนหนึ่ง
และ นำศพ
ทั้งหมดไป
ตรวจสอบ หารายละเอียดเพิ่มเติม
ที่โรงพยาบาล
ค่ายอินทยุทธบริหาร
ต่อไป รวมระยะเวลา
ปฏิบัติ การถล่ม
กลุ่มก่อการร้าย
ในมัสยิด
กรือเซะ นานกว่า
8ชั่วโมง
30นาที
มีรายงานว่า
ระหว่าง
เจ้าหน้าที่
ปิดล้อม พื้นที่
มัสยิดอยู่นั้น มีประชาชน
กว่า 10,000
คน มายืนเฝ้า
สังเกตการณ์อยู่
ด้วยความสนใจ
ทุกคน ต่างเฝ้ามองอยู่
ที่จุด เพียงแห่งเดียว
คือ มัสยิด
กรือเซะ ที่พี่น้อง
ชาวมุสลิม
ทุกคนต่างให้
ความเคารพนับถือ
เป็นอย่างมาก
และเมื่อ
เจ้าหน้าที่
ได้เปิดฉาก
ยิงถล่ม กลุ่มก่อการร้าย
ประชาชน
ทุกคน ต่างเบื้อนหน้าหนีกัน
อย่างพร้อมเพรียง
แต่ทุกคนต่างเข้าใจ
ถึงความจำเป็น
ของ เจ้าหน้าที่
สำหรับ กลุ่มคนร้าย
ประมาณ 20คน
ชาวบ้าน
ระบุกันว่า
ได้เข้ามา
ขออาศัยนอน
ที่มัสยิด
กรือเซะ เมื่อกลางดึก
วันที่ 27 เม.ย.
ที่ผ่านมา และ
เมื่อช่วงเช้ามืด
เดินทางออกไป
แล้วกลับมา
อีกครั้ง
ได้ก่อเหตุ
ยิงถล่ม เจ้าหน้าที่ตำรวจ
ที่ป้อมยาม จนเกิดเหตุ
บานปลาย ดังกล่าว
ดีเดย์ รุ่งอรุณ
แห่ง ความตาย
สถานการณ์
จังหวัด ชายแดนใต้
ที่ปะทุมา
อย่างต่อเนื่องหลายเดือน
ในที่สุด
ก็มาถึง จุดสำคัญ
ที่พลิกผัน
ให้เจ้าหน้าที่
บ้านเมือง
เป็นฝ่ายมีชัย
เหนือกลุ่มโจร
แบบชนิด ขุดราก
ถอนโคน เมื่อเวลา
05.30 น. วันที่
28 เม.ย. ผู้สื่อข่าว
รายงานจาก
จ.ยะลา
ว่า กลุ่มคนร้าย
ไม่ทราบจำนวน
แบ่งสาย ออกเป็น
กลุ่มๆละ
15-30 คน ใช้ จยย.และ
รถปิกอัพ
เป็นพาหนะ
ติดอาวุธ
ปืนยาว และ
มีด กระจายกัน
บุกโจมตี
เจ้าหน้าที่
หลายจุด ประกอบด้วย
จุดแรก
ที่ว่าการ
กิ่ง อ. กรงปินัง
คนร้าย
บุกเข้าปล้น
ปืน เอ็ม 16
จำนวน 6 กระบอก
ปืนเอ็ม 79
จำนวน 1 กระบอก
ปืนลูกซอง
5 กระบอก และ
กระสุน จำนวนมาก
แต่คนร้าย
ถูกยิง เสียชีวิต
3 ศพ
ลุยกันแหลก
ขจก. ตายเกลื่อน
เมื่อได้ อาวุธ
คนร้าย หลบหนี
มุ่งหน้าไป
ทางฐาน ปฏิบัติการ
กองร้อย 4151
ซึ่งเป็นจุด
ที่สอง อยู่ห่างไป
ประมาณ 200 เมตร
แต่ถูก ทหาร
ที่รักษาการณ์
กราดยิง เสียชีวิตล้มตาย
หน้าฐาน จำนวน
7 ศพ คนร้าย
ที่เหลือ
ล่าถอยเข้าไป
ในมัสยิด
ซีรอยีลฮูดา
หมู่ 1 ต.ห้วยกระทิง
บ้านกูวา
ฝ่ายทหาร
นำโดย ร.อ.
อภิชัย เรืองฤทธิ์
ผบ.ร้อย นำกำลัง
ไล่ล่า กระชั้นชิด
จนเกิด
การปะทะกัน
ดุเดือด นานประมาณ
10 นาที คนร้าย
ถูกยิง เสียชีวิต
หน้ามัสยิด
3 ศพ แต่
เพื่อนช่วยกัน
ลากศพ เข้าไป
ในมัสยิด
อีก 1
ศพถูกยิงตาย
บนเทือกเขา
ห่างจาก หมู่บ้าน
ประมาณ 300 เมตร
นอกจากนั้น
กำลังคนร้าย
ที่โจมตี
สภ.อ.กิ่ง
อ.กรงปินัง
ซึ่งเป็นจุด
ที่สาม ถูก
ตำรวจ ที่รักษาการณ์
ยิงตาย 3 ศพ
ขณะ กำลังจะวิ่ง
เข้าไป ใน
โรงพัก
ยึด ปืนเอ็ม 16
คืนได้ เกือบครบ
หลังจาก เกิดเหตุ
พล.ต.ท. วงกต
มณีรินทร์
ผบช.ก. เดินทางไป
ตรวจสอบ ที่เกิดเหตุ
พบว่า ก่อนลงมือ
กลุ่มคนร้าย
ใช้มัสยิด
รอยีลฮูดา
เป็นที่
รวมพล ภายใน
มัสยิดพบปืน
เอ็ม 16
ที่ถูกปล้นมา
จำนวน 5 กระบอก
พร้อมกระสุนปืน
เอ็ม 16 และ
ลูกซอง จำนวนมาก
นอกจากนั้นยังพบ
ผ้าคลุมศีรษะ
แบบอิสลาม
จำนวนหนึ่ง
ศพคนร้ายที่พบ
ทั้งหมด จะโพกหัว
ด้วยผ้าสีแดง
สลับขาว มีมีดสปาต้า
เป็นอาวุธ
เข้าตี ฐาน ตชด.
ถูกสอยร่วง
8 ศพ
จุดที่ 4 เป็นฐานปฏิบัติ
การร้อย ฉก.ตชด.
4202 บ้านกาจะลาจี
หมู่ 2 ต.บาเจาะ
คนร้าย 8
คน ใช้ จยย.
4 คัน ประกอบด้วย
ฮอนด้าเวฟ
สีน้ำเงิน
ทะเบียน กพษ
ยล 882 จยย.
ยามาฮ่า สีน้ำเงิน
ทะเบียน น.3716
ยะลา จยย.
ฮอนด้าดรีม
สีน้ำเงิน
ทะเบียน
ธ 0431 ยะลา
และ
ยามาฮ่า เมทสีแดง
ทะเบียน ฉ 6596
ยะลา มีอาวุธ
เป็น ปืน มีดสปาต้า
และ ลวดสลิง
ลุยเข้าไป
ในฐาน ฟันตำรวจบาดเจ็บ
4 นาย ประกอบด้วย
ร.ต.อ. พิมลรัตน์
ธรรมาธิปต์
หัวหน้าชุด
ถูกฟัน ที่ศีรษะ
และ ถูกยิง
ที่ต้นขา จ.ส.ต.
ชัยสิทธิ์
จันทโชต
ถูกฟัน ที่ขา
และ ศีรษะ ส.ต.อ.
ปรีชา หนูชู
ถูกยิง
ที่ต้นขา
และ ส.ต.ท.
สุภาพ ทองเพชร
ถูกฟัน ที่ศีรษะ
และ ถูกยิง
ที่ขา ฝ่าย
ตชด. สู้สุดฤทธิ์
ยิงคนร้าย
ล้มคว่ำไป
8 ศพ ที่เหลือ
เผ่นหนีไป
อย่างสะบักสบอม
โจมตี ฐาน
นปพ. ถูกยิง
ตายเรียบ
จุดที่ 5 นปพ.
บ้านเนียง
คนร้าย จำนวน
10 คน ใช้จยย. 5 คัน
เข้าโจมตี
เกิดการปะทะกัน
นาน 20 นาที คนร้ายถูกยิง
ทั้งหมด 10 ศพ
เจ้าหน้าที่
ตำรวจ ได้รับ
บาดเจ็บ 1 นาย
สามารถยึด
จยย. ของ
คนร้าย ได้ 5 คัน
จุดที่ 6
ที่ฐาน ปฏิบัติการทหาร
ต.ตาเช๊ะ
ซึ่งมีทหาร
จาก ร 5 พัน 1
ค่ายเสนาณรงค์
จ.สงขลา ประจำการ
อยู่ประมาณ
25 นาย คนร้าย
ใช้พาหนะ
เป็นรถปิกอัพอีซูซุ
สีดำ ทะเบียน บง 3028
ปัตตานี บุกเข้า
โอบล้อมฐาน
ใช้ปืน ลูกซองยาว
ยิง พลทหาร
ดอนียา แตกอย
อายุ 23 ปี
เสียชีวิต แต่
ทหาร ยิงตอบโต้
ถูก คนร้าย
เสียชีวิต
2 ศพ เป็นที่น่าสังเกตุว่า
คนร้าย ที่เข้า
ตีฐาน แห่งนี้ สวมเสื้อ
ที่มีสัญลักษณ์
กลุ่มขบวนการเจไอ
จุดที่ 7 เหตุเกิด
ที่ฐาน ปฏิบัติการ
ตชด. ชุดสันตินิมิตร บ้านบาโงย
หมู่ 4 ต.บาโงย
อ.รามัน คนร้าย
ประมาณ 20 คน
ขับ รถปิกอัพ
มาจอด หน้าฐาน
แล้วบุกเข้า
โจมตี แต่ถูก
จ.ส.ต.เขียน
ตุดบัว ที่เข้าเวร
รักษาการณ์
ยิงสกัดถูกคนร้าย
บาดเจ็บ 3 คน
พรรคพวก
ช่วยกันลาก
กลับขึ้นไป
บนรถ ส่วน
จ.ส.ต. เขียน
ถูกรุม ทำร้าย
ได้รับบาดเจ็บสาหัส
ตรวจ ศพ
พบ ส่วนใหญ่
เป็นวัยรุ่น
สำหรับ คนร้าย
ที่ ออกปฏิบัติการ
เป็นชายวัยรุ่น
อายุตั้งแต่ 15 - 20 ปี
ส่วนระดับ
ผู้นำหน่วย
จะอายุ ประมาณ
35 - 40 ปี อายุ
มากที่สุด
คือ 70 ปี
คนร้าย
ส่วนใหญ่
แต่งกายด้วยเสื้อสีดำ
แขนยาว กางเกงลายพราง
รองเท้าผ้าใบ
ใช้ผ้าลายขาว
- แดง โพกศีรษะ
คล้ายกับ
พวกนักรบ
ปาเลสไตส์
พกมีดสปาต้า
เป็นอาวุธ
ประจำตัว ส่วน
พวกผู้นำหน่วย
จะสวม เสื้อสีดำ
พกกริช และ
โพกศีรษะ
ด้วยผ้าสีแดง
เป็นสัญลักษณ์
ตะโกน ยอมตาย
เพื่อพระเจ้า
ก่อนบุก
ด้าน ส.ต.อ.
ศรชัย สร้อยสุวรรณ
ตำรวจ ประจำหน่วย นปพ.
บ้านเนียง
เปิดเผยว่า
ช่วงเช้ามืด
ขณะนั้น มีตำรวจประจำอยู่
ที่จุดตรวจ
10 นาย พบคนร้าย
ขี่ จยย. 5 คัน
มุ่งหน้า มาจาก
ต.เปาะเส้ง
เมื่อมาถึง
คนร้าย ตะโกน
เป็นภาษาอาหรับ
แล้วชักมีดสปาต้า
พุ่งเข้า
ทำร้าย เจ้าหน้าที่และ
พยายาม ที่จะแย่งปืน
เจ้าหน้าที่ทุกคน
อยู่ในความพร้อม
จึงต่อสู้
กับคนร้าย
อย่างเต็มที่
สามารถ สังหาร
คนร้ายได้
ถึง
10 ศพ ดูจากลักษณะ
การลงมือ
คล้ายกับ
พวกยอมพลีชีพ
จากการสอบสวน
ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ
ทุกจุด คนร้าย
ซึ่งใช้รถยนต์
และ จยย.
เมื่อมา ถึงจุด
ที่จะโจมตี
ทุกคน
ชักมีด ประจำตัว
ออกมา แล้วตะโกน
เป็นภาษามลายูว่า
ถึงเวลา ปลดปล่อยแล้ว
ไม่มีพระเจ้า
อื่นใด ยอมตาย
เพื่อพระผู้เป็นเจ้า
จากนั้น
มุ่งเข้า
โจมตี เจ้าหน้าที่
ตรวจสอบสภาพศพ
บางคน ในมือ
กำลูกประคำ และ
เครื่องราง
ของขลัง ไว้ด้วย
บุก ตี
ป้อม ตร.
ถูกยิง ตายเรียบ
เวลาไร่เรี่ยกัน
ที่ จ.สงขลา
ผู้สื่อข่าว
รายงานว่า
มีคนร้ายจำนวน
19 คน ใช้
จยย. จำนวน
8 คัน เป็นพาหนะ
ขับเข้ามา
หลบซ่อนอยู่
ข้างสวนอาหาร
สุไหงนะ และ
ข้างหน่วยบริการ
ประชาชน สามแยกเขาแดง
ตั้งอยู่
ในเขตเทศบาล
ตำบล สะบ้าย้อย
จ.สงขลา ห่างจาก
สภ.อ. สะบ้าย้อย
ประมาณ 1 ก.ม.
ในขณะที่
หน่วยบริการประชาชน
มีตำรวจ ประจำอยู่
5
นาย มี จ.ส.ต.
ชาญณรงค์
หนูเรือน
ผบ. หมู่งาน
ป้องกัน ปราบปราม
เป็น หน.ชุด
ได้เห็น
คนร้าย 2 คน
เดินตรง
เข้ามา ท่าทาง
มีพิรุธ จึงสอบถามว่า
จะไปไหน คนร้าย
ไม่ตอบ แต่
ชักมีดสะปาต้า
ตรงเข้าฟัน
ทันที ตำรวจ
จึงยิงสกัด
หลังจากนั้น
คนร้าย ทั้ง 19 คน
บุกเข้ามา
เพื่อฆ่า
เจ้าหน้าที่
โดยมีอาวุธประกอบด้วย
ปืนเอ็ม 16
หนึ่งกระบอก
ปืนเล็กยาว
87 หนึ่งกระบอก
ระเบิดเอ็มเค 2
สองลูก
ระบิดเอ็ม
67 จำนวน 1 ลูก
ทั้งสองฝ่าย
เปิดฉาก ตะลุมบอนกัน
อย่างถึงเลือด
ถึงเนื้อ
โดยฝ่ายตำรวจ
วิทยุ ขอกำลัง
จาก สภ. อ.สะบ้าย้อย
มาเสริม
สามารถ
ไล่ยิง คนจนร้าย
จนล่าถอย
เข้าไปหลบซ่อน
ใน ร้านอาหาร
สุไหงนะ และ
ถูกเจ้าหน้าที่
ยิงเสียชีวิต
ทั้ง 19 คน
เตรียมตัว
มาพร้อม แต่พลาด
จากการตรวจ
ที่เกิดเหตุ
เจ้าหน้าที่
ตรวจสอบ ศพคนร้ายพบว่า
เป็นชาวบ้าน
ต.ธารคีรี
จำนวน
3 คน ส่วนที่เหลือ ยังไม่สามารถ
ตรวจสอบได้
แต่เชื่อว่า
เป็นคน ในพื้นที่ จ.ยะลา
เนื่องจาก
จยย. ที่ยึดได้
ทั้งหมด ใช้ทะเบียน จ.ยะลา
คนร้าย
ทั้งหมด อายุ
ประมาณ 20-35 ปี
แต่งกาย
ด้วยชุดดาวะห์
ใส่หมวก
กะปิเยาะ
สีขาว และ
ใช้ผ้าลายแดง-ขาว
พันศีรษะ
แบบนักรบ
ปาเลสไตน์
ในตัวมีเป้ใส่ผ้าโสร่ง
และ มีหนังสือ
เป็นภาษายาวี
อยู่ทุกคน
ซึ่งเจ้าหน้าที่
สันนิษฐานว่า
หลังจาก
ก่อเหตุสำเร็จ
คนร้ายจะ
มีการเปลี่ยน
เครื่องแต่งกาย
ใส่ผ้าโสร่ง
และ สวมหมวกกะปิเยาะ
เพื่อหลบหนี
โดยให้ดู
เหมือนกับ
เป็นชาวบ้าน
ทั่ว ๆ ไป
เจ้าหน้าที่
ได้ควบคุมตัว
ผู้ต้องสงสัย
1 คน เป็นชาย
อายุประมาณ
25 ปี ได้
ในที่ เกิดเหตุ
นำตัวไป
สอบสวน หาข้อมูลว่า
มีส่วนเกี่ยวข้อง
กับการบุก
เข้าโจมตี
เจ้าหน้าที่หรือไม่
และ จากการสืบสวน
ในเชิงลึก
เจ้าหน้าที่
พบว่า คนร้าย
ทั้งหมด วางแผน
ที่จะบุก
เข้าเชือดคอ
เจ้าหน้าที่ในป้อมยาม
เพื่อแย่ง
อาวุธปืน
ตั้งแถว ก่อนลุย
โรงพัก
ส่วนที่ จ.ปัตตานี
เมื่อเวลา
05.00 น. ขณะที่
จ.ส.ต. เลิศศักดิ์
เที่ยงธรรม
ผบ.หมู่ งานป้องกัน
ปราบปราม
ทำหน้าที่
สิบเวร อยู่ที่ สภ.
อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี
มีคนร้ายประมาณ
50 คน ใช้รถปิกอัพ
3 คัน และ
จยย. จำนวนหนึ่ง
เข้ามาจอด
ที่ หน้า สภ.
อ.แม่ลาน จากนั้น
หัวหน้ากลุ่ม
เรียกทุกคน
มายืนแถว
หน้าโรงพัก
หลังจากนั้น
ทุกคน ตะโกนว่า
ถึงเวลา ปลอดปล่อย
หลังจากนั้น
ทั้งหมดชัก
มีดสปาต้า
มีดดาบ วิ่งกระจายกัน
เข้าทำร้าย
ตำรวจ ทั้งบนโรงพัก
และ บ้านพัก
ในขณะที่
ตำรวจ นำโดย
พ.ต.ท. ปรีชาพล
นริตา รอง
ผกก. หน.สภ.
อ.แม่ลาน ได้นำกำลัง
ประมาณ 70 นาย
ออกมา ทำการต่อสู้
กับคนร้าย
อย่างดุเดือด
ท่ามกลาง
ความตกใจ
ของ บรรดา
ลูกเมีย ของ
เจ้าหน้าที่
ตำรวจ ที่วิ่งหนีกัน
อลหม่าน คนร้ายและ
ตำรวจ ต่อสู้กัน
แบบตะลุมบอน
แบบใครดี
ใครอยู่ กินเวลา
ประมาณ 30 นาที
คนร้าย
ล่าถอยไป
พร้อมกับ
รถปิกอัพ
และจยย. โดยมี
เจ้าหน้าที่
ตำรวจ ติดตาม
ไล่ล่าอย่างกระชั้นชิด
จ่าตำรวจ
พลีชีพ เพื่อชาติ
หลังจากนั้น
จึงได้ตรวจ
สถานที่ เกิดเหตุ
พบศพ ของ
คนร้าย นอน
ระเกะระกะ
12 ศพ ส่วนตำรวจ
เสียชีวิต
1 ศพคือ จ.ส.ต.
เลิศศักดิ์
ถูกฟันเข้า
ที่ศรีษะ
ลำตัว เสียชีวิต
ส่วนตำรวจ
คนอื่นๆ บาดเจ็บ
เล็กน้อย
จำนวน 20 กว่าคน คนร้าย
ได้ทิ้ง รถกระบะ
มาสด้า ทะเบียน
ขส.3575 ปัตตานี
1 คัน ส่วนรถ
ตราโล่ ของ
ตำรวจ ถูกทุบ
ได้รับความเสียหาย
2 คัน บ้านพัก
จำนวน 20 หลัง
เสียหายจากการปะทะกัน
ในครั้งนี้
จากการตรวจสอบ
ศพคนตายพบว่า
มี
สองคน ที่แต่งกาย
ด้วยชุดเขียว
แบบทหาร
ซึ่งคงเป็น
ระดับหัวหน้า
และ อีกคนหนึ่ง
แต่งกาย ด้วยชุดขาว
โดยเจ้าหน้าที่
ตำรวจ พบว่า
เพิ่งจะเข้า
พิธีแต่งงานเมื่อวันที่
27 ที่ผ่านมา
ทุกคน สวมหมวก
กะปิเยาะ
สีขาว ใส่ผ้า
พันศรีษะ
และ เตรียมโสร่ง
และ เสื้อใส่เป้
เอาไว้ และ
ในตัว มีบทสวด
ขอพร จากพระเจ้า
ซึ่ง เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า
ก่อนที่
จะลงมือ เข้าโจมตี
ตำรวจ ทุกคนได้ทำการสวด
ขอดุอา ก่อนแล้ว
และ ทุกคน
พร้อมที่จะ
พลีชีพ จากการปฏิบัติ
การครั้งนี้
โดยสังเกตุ
จากทุกคน
ไม่มีปืน
แต่ใช้มีด
เป็นอาวุธ
ในการบุก
เข้าฆ่า เจ้าหน้าที่
ขน อาวุธเพียบ
ลุยยึด ป้อม ตร.
และ เมื่อเวลา
05.30 น. คนร้าย
กว่า 30 คน
เดินทางมาด้วยรถปิกอัพ
3 คัน เข้าไป
ตั้งหลัก
ในมัสยิด
กรือเซะ ซึ่งตั้งอยู่
ริมถนนสาย
42 ปัตตานี
- นราธิวาส
หลังจาก
รวมพลแล้ว จึงยกกำลัง
ทั้งหมด เข้าปิดล้อม
จุดตรวจ
บ้านกรือเซะ
ที่ตั้งอยู่
ข้างมัสยิด
และ สุสาน
เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว
ระดมยิง
และ ขว้าง
ระเบิด ใส่ตำรวจ
7 นาย ซึ่งประจำอยู่
ในจุดตรวจ
จนต้องเผ่นหนี
กระเจิง พร้อมทั้งวิทยุ
ขอกำลัง เสริมจาก
สภ. อ.เมืองปัตตานี
มาสนับสนุน ส่วนคนร้าย
หลังจากยึด
จุดตรวจได้
ทำการจุด
ไฟเผา
รวมทั้งเผา
จยย. ของ
ตำรวจอีก
4 คัน ที่จอดอยู่
จนเสียหาย
ยับเยิน โดยใช้เวลา
ประมาณ 20
นาที
โดนเอาคืน
ต้องหนี เข้ามัสยิด
ในขณะที่ คนร้าย
กำลัง ฮึกเหิม
กับ การยึดป้อม
ตำรวจได้ กำลังตำรวจ
- ทหาร
ที่ระดม
มาเสริม บุกเข้า
โอบล้อม โจมตี
อย่างหนักหน่วง
ทำให้
กลุ่มคนร้าย
ต้องถอยหนีเข้าไป
ยึดมัสยิด
กรือเซะ และ
เพื่อใช้
เป็นที่กำบัง
โดยเปิดฉาก
ยิงต่อสู้
และ ขว้างระเบิด
เข้าใส่ ตำรวจ
ทหาร เป็นระยะ ๆ
จนตรอก ประกาศ
สู้ตาย
ต่อมา พล.ต.ต.
ไพทูรย์ พัฒนโสภณ
ผบก.ภ. จว.ปัตตานี ผบ.ฉก.
ปัตตานี นำกำลัง
ทหาร ตำรวจ
หน่วยปฏิบัติการพิเศษ
เข้าเสริม และ
ประกาศ ให้มี
การมอบตัว
แต่ คนร้ายโต้ตอบ
ด้วยกระสุนปืน
และ ระเบิด เจ้าหน้าที่
ใช้เครื่องยิงระเบิดเอ็ม
79 และ
อาร์พีจี
กดดัน
เพื่อให้
คนร้าย ยอมแพ้
จนทำให้ มัสยิด
เสียหาย บางส่วน
แต่ คนร้าย
ยังไม่ยอม
มอบตัว และ
ยังคงใช้
เครื่องขยายเสียง
ประกาศ ขอสู้ตาย
อย่างเดียว
ในขณะที่
กำลัง เจ้าหน้าที่
ไม่สามารถรุดคืบหน้าไปได้
เพราะ ไม่แน่ใจว่า
ภายใน มัสยิด
มีชาวบ้าน
ตกเป็นตัวประกัน
หรือไม่ เนื่องจาก
ได้รับ รายงานว่า
มีชาวบ้าน
ประกอบ ศาสนกิจ
อยู่ก่อนที่
กลุ่มคนร้าย
จะบุกเข้าไป
สู้กัน ดุเดือด
เกือบ 9 ชั่วโมง
ต่อมา พล.ต.อ.
สุนทร ซ้ายขวัญ
รักษาการ
ผบ.ตร. ได้เดินทางมา
บัญชาการ ด้วยตนเอง
โดยให้ ทหาร
ตำรวจ ตชด.
หน่วยปฏิบัติ
การพิเศษ
ค่อยๆคืบคลาน
เข้าไป ทีละนิด
แต่ก็ยัง
ถูกโต้ตอบ
อย่างหนัก
กำลังอีกส่วนหนึ่ง
ปิดโอบล้อม
ด้านหลัง
เพื่อป้องกัน
ไม่ให้คนร้าย
ล่าถอย และไปทำอันตราย
ประชาชน ที่อยู่ใกล้เคียง
จนกระทั่ง
เวลา 14.00น. เจ้าหน้าที่
ยิงแก๊สน้ำตา
เข้าไป จากนั้น
ตัดสินลุย
ขั้นแตกหัก
เสียงปืน
จากปากกระบอกปืน
ทั้ง 2 ฝ่ายดังระงม
ท่ามกลาง
การลุ้นระทึก
ของ ผู้สื่อข่าว
ทุกสำนักและ
ชาวบ้าน หลายพันคน
ที่มาเฝ้า
ติดตาม เหตุการณ์
ในที่สุด
เจ้าหน้าที่
สามารถ เคลียร์มัสยิด
กรือเซะ ได้สำเร็จ
จากการปะทะกัน
มีตำรวจ
คอมมานโด
ถูกยิงเสียชีวิต
2 นาย บาดเจ็บ
8 นาย คนร้าย
เสียชีวิต
ทั้งหมดจำนวน
32 ศพ รวมเวลา
การต่อสู้
ที่ดุเดือด
เลือดพล่าน 8 ชั่วโมง
30 นาที
จบชีวิต คาที่
ตั้ง 32 ศพ
ผู้สื่อข่าว
รายงาน เพิ่มเติมว่า
หลังจากที่
เจ้าหน้าที่
ตำรวจ ทหาร
จับตาย
คนร้าย ที่หลบซ่อนอยู่
ในมัสยิดกรือเซะ
จึงได้เข้า
เคลียร์พื้นที่
พบศพ ของ
คนร้าย ที่ถูก
กระสุนปืน
สะเก็ดระเบิด
เสียชีวิต
ในมัสยิด
31 ศพ และตาย
ที่หน้าป้อมยาม
1 ศพ ยึดได้
ปืนเอ็ม 16
2 กระบอก ปืนเอชเค
2 กระบอก
เอ็ม 79
หนึ่งกระบอก
แม๊กกาซีน 12 แม็ก
มีสปาต้า
8 เล่ม ทุกคน
ใส่กางเกง ไว้ข้างใน
ใส่โสร่ง
ทับข้างนอก
และ โพกผ้า
สัญญลักษณ์
ของ ขบวนการ
เจมาห์อิสลามิยาห์
หรือ เจไอ
คนร้าย
ทั้งหมด อายุ ตั้งแต่
20-35 ปี และมี
ที่อายุมากที่สุด
ประมาณ 70 ปี
นอนตาย พร้อมกับ
กำมีด ในมือ
เจ้าหน้าที่
ได้นำ ศพทั้งหมด
ไปยัง
ค่ายอิงคยุทธบริหาร
อ.หนองจิก
จ.ปัตตานี เพื่อนทำการ
ทำประวัติ
ของ แต่ละศพ
ว่า เป็นใคร
มาจากไหน
มัสยิด กรือเซะ
เสียหาย บางส่วน
หลังจากนั้น
เจ้าหน้าที่
อนุญาต ให้
ประชาชน จำนวนหลายพันคน
ที่มามุงดู
การปะทะกัน
ระหว่าง เจ้าหน้าที่ และ
คนร้าย เข้ามาสำรวจ
ความเสียหาย
ของ มัสยิดกรือเซะ
เนื่องจาก
ชาวมุสลิม
ถือว่า
เป็นสิ่งศักดิ์
ทางศาสนา สำหรับ
มัสยิด แห่งนี้
หลังจาก
ถูกถล่ม ด้วยเอ็ม 79
และ
อาร์พีจี จำนวน
20 นัด ได้สร้าง
ความเสียหาย
ในส่วนของหลังคา
ที่พังยับเยิบ
ส่วนด้านข้าง
ทั้งหมด ได้รับความเสียหาย
เพียงเล็กน้อย
แต่อย่างไร
ก็ตาม ได้ทำให้ชาวบ้าน
บางส่วน ไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่
ใช้ระเบิด
และจรวด
ถล่ม มัสยิด
เพราะถือว่า เจ้าหน้าที่
สามารถ ล้อมคนร้าย
เอาไว้ได้แล้ว
มีวิธีอื่นๆ
ในการจัดการ
กับคนร้ายได้
โดยไม่จำเป็น
ต้องใช้จรวด
และ ระเบิดถล่ม
ก็จับคนร้าย
ได้อยู่แล้ว
เผยเป็นฝีมือ
ขบวนการ เจไอ
พล.ต.ต. ธานี
ธวิชศรี
ผช.ผบช.ภ.9
เปิดเผยว่า
คนร้ายทั้งหมด
จากการตรวจสอบ
ในเบื้องต้น
เป็นมุสลิม
จากพื้นที่อื่นๆ
ไม่ใช่ คนใน อ.เมือง
จ.ปัตตานี
คนกลุ่มนี้
เป็นคน ในขบวนการ
เจไอ ซึ่งถูกปลุก
ระดม ให้แบ่งแยก
ดินแดนแน่นอน
ซึ่งปัญหา
ต่อไป คือ
ต้องหาทาง
ทำให้ คนหลงผิด
เหล่านี้
เลิกพฤติกรรม
และ หันมาร่วมกัน
พัฒนาชาติไทย
เพราะเชื่อว่า
คนเหล่านี้
หลงผิด เพียงชั่ววูบ
สาเหตุ ที่ทำให้
ปลุกระดม
ได้ง่าย เนื่องจากกระแส
การต่อต้าน
ของมุสลิม
ในสังคมโลก
รุนแรงมากๆ ทำให้
มีการรับ
การแส ได้อย่างรวดเร็ว
ถูกหลอก ปลุกระดม
ให้มาตาย
สำหรับ คนร้าย
กลุ่มนี้ เป็นกลุ่มที่
ถูกหลอก โดยก่อนที่
จะมี การลงมือ
ปฏิบัติการ
ในครั้งนี้
มีการปลุก
กระดมว่า
จะมี การปฏิบัติ
การพร้อมกัน
ใน 4 จังหวัด
100 จุด เพื่อสร้าง
ความฮึกเหิม
ให้กับ ผู้ปฏิบัติการ
แต่ปรากฎว่า
กำลังที่มีความพร้อม
มีเพียง
12 จุด เท่านั้น
และประกอบกับเจ้าหน้าที่
ได้รับแจ้งเหตุว่าจะมี
การก่อการร้าย
จึงสามารถ
จับตายคนร้าย
ได้เกือบทั้งหมด
สำหรับ คนร้ายจำนวนหนึ่ง
ที่หลบหนีไปได้
ขณะนี้เจ้าหน้าที่
กำลังติดตาม
ตัวอยู่ ในส่วนของ
ผู้ที่ถูก
จับกุมได้
จำนวน 10 คน
ได้นำไป
ควบคุมตัว
ที่ ค่ายอิงคยุทธบริหาร
จ.ปัตตานี เพื่อสอบสวน
หาที่มา ของ
ขบวนการ และ
ผู้บงการ
ต่อไป
ผู้กล้า พลีชีพ
เพื่อชาติ
5 นาย
พล.ต.ต. ไพฑูรย์
พัฒนโสภณ ผบก.ภ.
จว.ปัตตานี
เปิดเผยว่า
มีตำรวจ
- ทหาร
ที่เสียชีวิต
จากการต่อสู้
ครั้งนี้ จำนวน
5 นาย คือ
ส.ต.ท. ชำนาญ อักษรเนียม
จาก ร้อย
ตชด. 444 ส.ต.ต.
ณรงค์ชัย
พลเดช ตร.คอมมานโด จากกองปราบ
ส.ท. สามารถ
กาบดอนกลาง
จาก
ร้อย ปพ.ศสพ.
พลทหาร ดอนียา
แตกอย จาก รซ.5 พัน 1 และ
จ.ส.ต. เลิศศักดิ์
เที่ยงธรรม
ผบ.หมู่ งานป้องกันปราบปราม สภ.
อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี
เรียก ประชุม เตรียมรับมือ ยกสอง
ต่อมา พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ผบ.ทบ. และ พล.อ.วัลลภ ปิ่นมณี รอง ผอ.กอ.รมน.
เดินทางมาดูที่เกิดเหตุที่ มัสยิดกรือเซะ ประมาณ 20 นาที
หลังจากนั้นได้เดินทางไปยัง ค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก ต.ปัตตานี
เพื่อเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ทั้ง 4 จังหวัด ในการประเมิน สถานการณ์
และสั่งให้ ทุกฝ่าย เตรียมรับมือ การก่อ การร้าย
เนื่องจาก เชื่อว่า การสูญเสีย ครั้งนี้ ของ กลุ่มคนร้าย จะต้อง ลงมือ แก้แค้น อย่างแน่นอน
จึงให้ เจ้าหน้าที่ ทุกหน่วย เตรียมพร้อม ทั้งด้านการข่าว และ การตั้งรับ
ร่วมทั้ง การรักษาความสงบ ในพื้นที่
เพราะ คนร้าย อาจจะ เปลี่ยนเป้าหมาย ไปทำร้าย ประชาชน ในพื้นที่ เพื่อตอบโต้
ธนาคาร - ร้านทอง ปิด ทำการ
ผู้สื่อข่าว รายงานว่า หลังจาก เกิดเหตุการณ์ร้ายขึ้น ปรากฎว่า
ธนาคาร ทุกแห่ง ที่ตั้งอยู่ ในพื้นที่ ซึ่งมี การก่อการร้าย
ได้ขออนุญาต จากธนาคาร แห่ง ประเทศไทย ทำการปิด การทำการ ในทันที่
เพื่อ ความปลอดภัย ของธนาคาร ในขณะที่ ร้านจำหน่าย ทองรูปพรรณ ทั้งหมด
ก็ได้ทำ การปิดร้าน ทั้งหมด เพื่อ ความปลอดภัย
ผู้กล้า พลีชีพ เพื่อชาติ 5 นาย
พล.ต.ต. ไพฑูรย์ พัฒนโสภณ ผบก.ภ. จว.ปัตตานี เปิดเผยว่า มี ตำรวจ - ทหาร
ที่เสียชีวิต จากการต่อสู้ ครั้งนี้ จำนวน 5 นาย คือ ส.ต.ท. ชำนาญ อักษรเนียม จาก ร้อย
ตชด. 444 ส.ต.ต. ณรงค์ชัย พลเดช ตร.คอมมานโด จากกองปราบ ส.ท. สามารถ กาบดอนกลาง จาก
ร้อย ปพ.ศสพ. พลทหาร ดอนียา แตกอย จาก รซ.5 พัน 1 และ จ.ส.ต. เลิศศักดิ์ เที่ยงธรรม
ผบ.หมู่งาน ป้องกัน ปราบปราม สภ.อ. แม่ลาน จ.ปัตตานี
รายชื่อ ทหาร - ตร. บาดเจ็บ
ที่ รพ. ศูนย์ยะลา นายแพทย์ วัฒนา วัฒนายากร ผอ. เปิดเผยว่า
มีผู้บาดเจ็บ จากการปะทะ ช่วงเช้ามืด ทั้งหมด 18 ราย แยกเป็น ตำรวจ 11 ราย ทหาร 3 ราย
เป็นผู้ก่อการร้าย 4 ราย ทางโรงพยาบาล ส่งต่อไป รักษาที่ รพ.สงขลานครินทร์ หาดใหญ่
เป็นตำรวจ 2 ราย กลับไปรักษาตัว ที่บ้าน 2 ราย ขณะนี้ นอนรักษาตัว ที่ รพ. 14 ราย
สำหรับ รายชื่อ ตำรวจ ที่บาดเจ็บ จากการปะทะ มีดังนี้ 1. ร.ต.อ. พิมลรัตน์ ธรรมทิพย์
ถูกฟัน ที่ขาขวา ขาซ้าย ถูกยิง 2. ร.ต.อ. จันทรัตน์ จันวดี ถูกฟันเข้า ที่ศีรษะ
นิ้วแม่โป้งซ้าย ทั้งคู่ สังกัด ตชด.ที่ 44 รายที่ 3. ส.ต.อ. สนอง คงเฉียน นปพ.ยะลา
ถูกฟันเข้า ที่ศีรษะ ขาขวาถูกยิง 2 แผล 4. จ.ส.ต. ต่อศักดิ์ จันทร์อินทร์
ถูกยิง
ถูก ฟัน ที่ศีรษะ
5. ด.ต.
รุ่น สังขะวิชัย
ถูกฟันเข้า
ที่ไหล่ขวา ขาขวา
ขาซ้าย ถูกยิง
6. ส.ต.อ.
เขียว ตุดบัว
ถูกฟัน ที่ศีรษะ
ต้นคอ หน้าผาก
และ หลัง
7. ส.ต.ท.
สุภาพ ทองเพชร
สังกัด ตชด.
ที่ 42 ถูกฟันที่ศีรษะ แขนซ้าย เข่าขวาถูกยิง
8.ส.ต.อ.ปรีชา หนูชู ถูกยิงที่เท้าขวา 9. จ.ส.ต.ช้ยสิทธิ์ จันทโชค ถูกฟันที่ศีรษะ
10.จ.ส.ต.รัศมี หมัดหมาน นปพ.ยะลา 11.ส.ต.อ.อนุสร ศรีแก้วเงิน นปพ.ยะลา
12.จ.ส.อ.วิมล คงดำ ถูกยิงที่ท้อง มือขวาถูกฟัน 13.พลฯ ไพรวัลย์ จันทรัตน์
ทหารสังกัด ร้อย 15 พัน 3 ถูกยิงที่สะโพก 14. ส.อ.วิกาล หอมคล้าย ทหารร้อย 5 พัน 1
ถูกฟัน ศีรษะ และ มือซ้าย
เด็ดหัว ได้ 107 ศพ จับเป็น 17 คน
ต่อมา เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี พล.อ. ชัยสิทธิ์ ชินวัตร
ผบ.ทบ. เปิดแถลงข่าวแผนปฏิบัติ การตอบโต้ กลุ่มผู้ก่อ ความไม่สงบ ในพื้นที่ 3
จังหวัด ชายแดนภาคใต้ หลังจากใช้ กำลัง เข้าจัดการ ขั้นเด็ดขาด ภายใน มัสยิด กรือเซะ
ว่าจาก การใช้ปฏิบัติ ตอบโต้ ตั้งแต่ เมื่อเวลา 05.30 น. ส่งผล ให้กลุ่ม ผู้ก่อความไม่สงบ เสียชีวิต 107 ศพ จับเป็น 17 คน
เจ้าหน้าที่รัฐเสียชีวิต 5 นาย เป็นตำรวจ 3 นาย ทหาร 2 นาย ได้บาดเจ็บ 15 คน
ส่วนใหญ่ เป็นกองกำลัง ขี้ยา
ผบ.ทบ. กล่าวต่อว่า สำหรับ ผู้ก่อ ความไม่สงบ ระดับหัวหน้า จะสวม
เสื้อสีดำ
ใส่ ลูกประคำ
เป้สะพายหลัง
ใช้มอเตอร์ไซด์
เป็นยานพาหนะ
ใน การก่อเหตุ
ซึ่ง กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ
ต้องเรียกว่า
เป็นกองกำลัง
ไม่ใช่เยาวชน
เพราะ กลุ่มนี้
เพิ่มความรุนแรง
ในการปฏิบัติการ
เนื่องจากได้ใจ
และ ที่ผ่านมา
ทางการ ไม่สามารถ
จับกุมใครได้
พร้อมทั้ง
ได้รับแรง
สนับสนุน
จากกลุ่ม
ผู้มีอิทธิพล
ที่เกี่ยวข้อง
กับ ยาเสพติด
จึงจะต้อง
ขยายผล เพื่อติดตาม
จับกุม ต่อไป
เป็นที่
น่าสังเกตว่า
การลงมือ
ของกลุ่ม
ก่อการร้าย
ทำ อย่างหึกเหิม
แบบไม่กลัวตาย
ซึ่ง ผิดวิสัย
คนปกติ ทั่วไป
จึงสั่งการ
ให้ตรวจสอบ
เลือดว่า
มีสารเสพติดเจือปน
หรือไม่ ผลการตรวจเบื้องต้น
พบว่า ส่วนใหญ่
ติดยาเสพติด
ญาติ แห่มา
ติดต่อ ขอรับศพ
สำหรับ ศพ
ผู้ก่อ ความไม่สงบ
ที่เสียชีวิต
ขณะนี้ ได้เก็บไว้ตามสถานที่
ราชการ จุดต่างๆ
เช่น สถานีตำรวจ
โรงพยาบาล
และ ค่ายอิงคยุทธบริหาร
โดย ในขณะนี้
ให้แพทย์
มุสลิม มา
ฉีดยา ศพ
เพื่อรอ
ญาติ นำหลักฐาน
มาติดต่อ
เพื่อขอรับ
ศพ ไปประกอบ
พิธีทางศาสนา
โดยทางเจ้าหน้าที่
จะพยายาม
ให้เสร็จก่อน
02.00 น. เพื่อให้ทันในการประกอบ
พิธี ศพ
ตามวิธีการ
ของ ศาสนาอิสลาม ผู้สื่อข่าว
รายงานว่า
มี ญาติพี่น้อง
ของ ผู้ตาย
เป็นจำนวนมาก
ประมาณ
300 คน จาก
สงขลา
ปัตตานี
ยะลา นราธิวาส
เดินทางมา
ดูศพ และ
ขอรับศพ
ตามล่า ผู้ที่อยู่
เบื้องหลัง
ผู้สื่อข่าว
รายงาน เพิ่มเติม
มาอีกว่า
เมื่อเวลา
15.20 น. วันเดียว
กันนี้ ที่
สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พ.ต.ท.
ทักษิณ ชินวัตร
นายกรัฐมนตรี
ได้เชิญ
พล.อ. เชษฐา ฐานะจาโร
รมว. กลาโหม
พล.อ. วินัย
ภัททิยะกุล เลขาธิการ
สมช. พล.ต.อ.
จุมพล มั่นหมาย
ผอ.สำนักข่าว
กรองแห่งชาติ
มารายงาน
สรุป เหตุการณ์
ที่เกิดขึ้น
จากนั้น
พ.ต.ท. ทักษิณ
ให้สัมภาษณ์ว่า เหตุการณ์
ได้สงบ เรียบร้อย
หมดแล้ว
ขั้นตอน ต่อไป
จะดำเนิน
การสอบสวน
หาเครือข่าย
และ ผู้ที่อยู่
เบื้องหลังอีก 2 ระดับ
ซึ่ง ในระดับ
ผู้ปฏิบัติการ
มี ผู้ที่เป็น
หัวหน้าเข้ามาร่วม
ปฏิบัติการด้วย
แต่ ผู้สั่งการ
ยังมีอีก
ระดับหนึ่งและ
มี ผู้บงการใหญ่
อีกระดับหนึ่ง
ซึ่ง เราได้
ข้อมูล มาค่อนข้างมาก
ส่วนใหญ่
ผู้ที่อยู่
ในระดับ 2
จะหลบหนีข้ามไปมา
ระหว่าง ไทย
และ มาเลเซีย
ส่วนระดับ1
ซึ่งเป็น
ผู้บงการ
จะอยู่ ใน
ประเทศไทย
นายกฯ กล่าวต่อว่า
เราได้รับ
รายงาน มาก่อน
หน้านี้แล้วว่า
ใน พื้นที่
ภาคใต้ มี
ปัญหา เด็ก
ติด ยาเสพติด
ตั้งแต่
เหตุการณ์
ปล้น ปืน
ที่ จ.นราธิวาส
แล้ว เพียงแต่
ไม่อยาก จะพาดพิง
อะไร ซึ่ง
เป็นผลพวง
มาจากการ
ที่รัฐบาล
ปราบปราม
ยาเสพติด
ส่วน สาเหตุ
ที่ ทำให้
วัยรุ่นที่
ติด ยาเสพติด
พร้อมใจกัน
ออกมา ปฏิบัติ
การครั้งนี้
เพราะ ปัญหา
ยาเสพติด
และ เรื่อง
ค่าจ้างวาน
เพราะ มีคนตกงาน
จำนวนมาก
แม้ ยืนยัน
ลงใต้ แน่นอน
ผู้สื่อข่าว
ถามว่า จำเป็น
ต้องประกาศ
เคอร์ฟิว
ใน พื้นที่หรือไม่
นายกฯ
กล่าวว่า
เจ้าหน้าที่
ใน พื้นที่
จะพิจารณาว่า
ควรทำ ระดับใด
ส่วน ที่ว่า
เจ้าหน้าที่
ทำ เกินกว่าเหตุเพราะ
คนร้าย มี
เพียงมีด
นั้น ตนคง
ต้อง ขอร้อง
ที่นี่ คือประเทศไทย
เป็นเรื่อง
ที่ พวกเรา
ต้องช่วยกัน
โดยเฉพาะเรื่อง
ของ จิตสำนึก
ความเป็นชาติ
วันนี้ ต้องถือว่า
เจ้าหน้าที่
ต้องตาย ไปหลายคน
ต้องเห็นใจ
ใน ชีวิต
ของ คนดี ๆ
ที่ อาสา
มารับ ราชการ
กิน เงินเดือน
น้อย ๆแล้ว
ต้องมาเสี่ยง
กับชีวิต
ผม ยังยืนยัน
ที่ จะเดินทาง
ลงไป ใน
ภาคใต้
ทันที
เมื่อ เคลียร์งาน
เรียบร้อย
เหตุการณ์
ที่ เกิดขึ้น
ไม่ได้ทำ
ให้เกิด ความวิตก
และ ยกเลิก
การเดินทางทุกตารางนิ้ว
ใน ประเทศไทย
นายกฯ ต้องไปได้
อยู่ได้ และ
นอนได้ พ.ต.ท.
ทักษิณ กล่าว
ไม่ประมาท
หวั่น โจร
แก้แค้น
ส่วน พล.อ.
เชษฐา ฐานะจาโร
รมว. กลาโหม
กล่าวว่า
ได้รายงานว่า
มี การได้
ข่าวว่า จะมี
การเคลื่อนไหว
หลังจาก ที่
รัฐบาล ออกข่าวว่า
จะมี การส่ง
ทหาร ไปดูแลความสงบ
ใน โรงเรียน
ใน ช่วง
เปิดเทอม
จึงรีบ ชิงลงมือก่อน
เพราะ เกรงว่า
หลังจากนี้ไป
จะไม่สะดวก
แต่ ความจริง
ได้มี การสับเปลี่ยน
กำลัง ตลอดเวลา
เพื่อรับสถานการณ์
เมื่อ
ถามว่า เกรงว่า
จะมี การแก้แค้น
กลับหรือไม่
พล.อ. เชษฐา
กล่าวว่า
ก็ ห่วงเรื่องนี้
แต่ คิดว่าเขา
ยังรวบรวม
กำลังพล ไม่ได้
เพราะ เสียหายหนัก
อย่างไร
ก็ตาม เรา
ไม่ประมาท
และ ระวังตัวตลอด
พล.ต.ท. จุมพล
มั่นหมาย
ผอ. สำนักข่าว
กรองแห่งชาติ กล่าวว่า
ใน จ.นราธิวาส
ยังไม่มี
เหตุการณ์
เกิดขึ้น
ดังนั้น จึงได้แจ้ง
เตือนไป ให้
ระมัดระวัง
ทั้งนี้
ได้วิเคราะห์กันซึ่งมีอยู่
2 หนทาง คือ
หลาบจำ หรือ
กลับมา แก้แค้น
ส.ว. เชื่อ
เป็นฝีมือ
เบอร์ซาตู
นายอูมาร์
ตอยิบ ส.ว.
นราธิวาส
กล่าวว่า
นับเป็น
เหตุการณ์
ที่ รุนแรงมาก เพราะ
ตนอายุ 70 ปี
กว่าแล้ว
ไม่เคย ปรากฏ
เหตุการณ์
เช่นนี้ มาก่อน
โดยเฉพาะ
การประทะกัน
ระหว่าง เจ้าหน้าที่
ของ รัฐ
กับ ผู้ก่อการร้าย
ที่ มากผิดปกติ
ซึ่ง ตน
คิดว่า เป็นฝีมือ
ของ กลุ่มเบอร์ซาตู
ซึ่งเป็น
การรวมตัว
ของกลุ่ม
ผู้ก่อ การร้าย
และ พวกที่
เสียประโยชน์
ทุกกลุ่ม
รวมกัน
พล.ท. โอภาส
รัตนบุรี
ส.ว. นครศรีธรรมราช
กล่าวว่า
เหตุการณ์นี้
ถือว่า ผู้ก่อ
การร้าย กล้า
เปิดเผยตัว
ทำให้เจ้าหน้าที่
รู้ ข้อมูล
รู้ ตัวคนร้าย
ซึ่ง สามารถ
สาวลึกไป
ถึงตัว ผู้บงการ
ได้ไม่ยาก
ทั้งนี้
ทราบว่า เจ้าหน้าที่
รู้ ล่วงหน้า
มาก่อนแล้ว
จึง เตรียมตัว
รับมือได้
แสดง ให้เห็นว่า
มี กระบวน
แบ่งแยก ดินแดง
จริง
ธนาคาร สั่งปิด
ก่อนเวลา
รายงาน ข่าว
จาก ธนาคารพาณิชย์
เปิดเผยว่า
จากสถานการณ์
ความรุนแรง
ใน ภาคใต้
เมื่อ วันที่
28 เม.ย.
ส่งผล ทำให้
ธนาคาร พาณิชย์
สั่งปิด ทำการ
สาขา ที่
อยู่ใน พื้นที่
เสี่ยง หลายแห่ง
โดย ธนาคาร
กรุงไทย ได้สั่งปิด
พื้นที่ เสี่ยง
ใน จังหวัด
ยะลา 3 สาขา
คือ สาขา
รามัน สาขา
บันนังสตา
และ สาขา
ยะหา โดย
จะปิด ทำการ
ทั้งวัน และ
ยังไม่มี
กำหนด เปิดทำการ
ส่วนที่
สาขายะรัง
จังหวัด
ปัตตานี ได้ปิด
ทำการ ก่อน
เวลาปกติ
1 ชั่วโมง
ขณะที่ ธนาคาร
กรุงเทพ ได้สั่ง
ปิด สาขา
สะบ้าย้อย จังหวัด
สงขลา ชั่วคราว
นอกจากนี้
ธนาคาร ส่วนใหญ่
ยังได้ ร่วมมือ
กับ ตำรวจ
วิเคราะห์
สถานการณ์
รายวัน เพื่อ
กำหนด มาตรการ
การรักษา
ความปลอดภัย
หากพบว่า
มี ลูกค้า
ที่มี พิรุธ
จะ ไม่ได้รับ
อนุญาต เข้าไป
ในบริเวณ
ธนาคาร ทันที
และ ใน
ช่วงที่ ผ่านมา
มีลูกค้า
เข้ามา ใช้
บริการ น้อยผิดปกติ
เนื่อง เกรงอันตราย
ที่ จะเกิดขึ้น
ด้าน นายธงชัย
เจริญสิทธิ์
ผู้ช่วย
กรรมการ ผู้จัดการ ธนาคาร
กสิกรไทย
กล่าวว่า
สั่ง เพิ่ม
มาตรการ ความปลอดภัย
ให้ เข้มงวด
มากขึ้น เท่านั้น
หากมี พิรุธ
จะไม่ได้
รับอนุญาต
ให้ เข้า
ธนาคาร โดยเฉพาะ
สาขา ปาลัส จ.
นราธิวาส
และ สาขา
รือเสาะ จ.
ยะลา แต่
สำหรับ จ.
ปัตตานี ไม่ได้
มี การสั่ง
การเฉพาะ
แต่ อย่างใด
และธนาคาร
ได้ ประเมิน
สถานการณ์
รายวัน เพื่อ
กำหนดยุทธศาสตร์
ของ แต่
ละวัน
สธ.ตั้งศูนย์บัญชาการแพทย์
ด้าน นางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า
ได้สั่งการให้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุข
เพื่อประสานงานสนับสนุนให้ความช่วยเหลือทั้งบุคลากรแพทย์ เครื่องมือแพทย์
และสิ่งที่จำเป็นต่างๆระหว่าง รพ.ในจังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ตลอด 24
ชั่วโมง พร้อมมอบหมายให้ นพ.หม่อมหลวงสมชาย จักรพันธุ์ ผู้ตรวจราชการเขต 11 , 12
ประจำในพื้นที่เพื่อคอยให้ความช่วยเหลือและสร้างขวัญกำลังใจให้ผู้ปฏิบัติงาน
เบื้องต้นส่งแพทย์ด้านกระดูกลงไป 2 คน ในวันที่ 29 เม.ย. จะส่งแพทย์ลงไปอีก 4 คน
สตม. เพิ่ม
ความเข้ม
ทุกด่าน
พล.ต.ต. พงศพัศ
พงษ์เจริญ
โฆษก สำนักงาน
ตำรวจแห่งชาติ
กล่าวว่า
หลังจาก
เกิด เหตุรุนแรง
ใน พื้นที่
ภาคใต้ พล.ต.อ.
สุนทร ซ้ายขวัญ
รักษา
ราชการ ผบ.ตร.
ได้สั่งการ
ให้ ทุกหน่วย
เพิ่ม ความเข้ม
ใน การปฏิบัติเพื่อ
ดูแล ความปลอดภัย
ใน พื้นที่
และ จุด
ล่อแหลม ต่างๆ
ทั่วประเทศ
โดย ใน
กรุงเทพฯ
จะเพิ่ม กำลังสายตรวจ
ระวัง เหตุร้าย
อย่างต่อเนื่อง
ใน สถานที่
ท่องเที่ยว
โรงแรม ที่พัก
สถานฑูต
อาคาร ที่
ทำการ ของ
รัฐบาลและ
เอกชน สำหรับ
ใน ส่วน
ของ ด่านตรวจ
คนเข้าเมืองทุกด่าน
ทั่วประเทศ
ใน ขณะนี้
พล.ต.ท. ชาญวุฒิ
วัชรพุกก์
ผบช.สตม. สั่ง
การให้ เพิ่ม
ความเข้ม
อย่างเต็มที่
โดยจะ ตรวจตรา
ระมัดระวัง
ผู้ต้องสงสัย
ที่ อาจแฝงมา
กับผู้โดยสาร
ใน เที่ยวบิน
ต่าง ๆ
จิ๋ว สั่ง
พัลลภ ออกจาก
พื้นที่
เมื่อ ตอนค่ำ
วันเดียว
กันนี้ พล.อ.
พัลลภ ปิ่นมณี
รอง
ผอ. กองอำนวยการ
เสริมสร้าง
สันติสุข
(สสส.) กล่าวภายหลัง
ที่มี กระแส
ข่าวว่า จะถูก
ปลดออก จาก
ตำแหน่งว่า
พล.อ. ชวลิต
ยงใจยุทธ
รองนายก
รัฐมนตรี
ใน ฐานะ
ผอ.สสส. ได้มี
คำสั่ง ให้
ตนออก จากพื้นที่
3
จังหวัด ชายแดน
ภาคใต้ จริง
เนื่อง จาก
เหตุการณ์
ที่ ตนมี
คำสั่ง ให้
เจ้าหน้าที่
ทหาร -
ตำรวจ ดำเนินการ
กวาดล้าง
กลุ่มผู้ก่อ
ความไม่สงบ
ที่ มัสยิด
กรือเซะ จ.ปัตตานี ซึ่งเดิมที
พล.อ. ชวลิต
มีคำสั่ง
ให้ ตน
สั่งเจ้าหน้าที่
ล้อมมัสยิดไว้
เฉยๆ เพื่อ
ให้ กลุ่มผู้ก่อ
ความไม่สงบ
อด อาหารแล้ว
ยอม มอบตัว
ตน ก็ได้
ทำตาม คำสั่ง
แต่ ปรากฏ
ว่าสถานการณ์
กลับเลวร้าย
กว่าเดิม
เพราะ มี
ประชาชน ออกมา
ห้อมล้อม
การทำงาน
ของ เจ้าหน้าที่
เมื่อ
เจ้าหน้าที่
ใช้ โทรโข่ง
ประกาศ ให้
กลุ่มคนร้าย
วาง อาวุธ
ออกมา มอบตัว
กลับถูก
ประชาชน โห่ร้อง
รุม เข้ามาหาเจ้าหน้าที่
และ คนร้าย
ใน มัสยิด
ยิง ปืน
ออกมา
ตัดสินใจ
สั่งลุย ทันที
พล.อ. พัลลภ
กล่าวต่อว่า
ตน เห็นว่า
หากปล่อย
ต่อไปสถานการณ์
จะยิ่งรุนแรง
มากขึ้น ประชาชน
อาจถูก ลูกหลง
หรือไม่
เจ้าหน้าที่
อาจถูกยิง
เสียชีวิต
ตน จึงตัดสินใจ
ให้ เจ้าหน้าที่
ดำเนินการ
กวาดล้าง เมื่อ
ตน สั่ง
อย่างนั้น
พล.อ. ชวลิต
จึงไม่พอใจ
หาว่า
ตน ทำ
นอกเหนือคำสั่ง
แต่ ตน
และ เจ้าหน้าที่
ที่ บัญชาการ
อยู่ร่วมกัน
มีความเห็นว่า
ถ้า ปล่อย
ให้ เหตุการณ์
เป็นแบบนั้น
ต่อไป
อาจจะ จับกุม
คนร้าย ไม่ได้
หรือ คนร้าย
อาจหลบหนี
ไปได้ เหมือนอย่าง
ที่ เคยผ่านมา
จึง ทำให้
ตน ต้องออก
คำสั่งไป ทั้งนี้
ตน ก็
ยอมรับ ผิดชอบ
ใน สิ่งที่
เกิดขึ้น
แต่ ตนก็
คิดว่า ทำดี
ที่สุดแล้ว
เพราะ ไม่เช่นนั้น
คน ที่
ตาย อาจเป็น
เจ้าหน้าที่
หรือ ประชาชน
ที่ บริสุทธิ์
ต่อไปนี้
ผม คงไม่ต้อง
ไป ทำงาน
ที่ 3 จังหวัด
ชายแดน ภาคใต้
แล้ว แต่
ตำแหน่ง รอง
ผอ.สสส. ของ
ผม นั้น
ยังอยู่ เหมือนเดิม
พล.อ. พัลลภ
กล่าว ใน
ตอนท้าย
ผบ.ทบ. เข้า
วัง ถวาย
รายงาน
ผู้สื่อข่าว
รายงานว่า
ช่วงค่ำ
พล.อ. ชัยสิทธิ์
ชินวัตร
ผบ.ทบ. เดินทางไป
เข้า เฝ้า
ถวายพระพร
เนื่อง ใน
วโรกาสครบรอบ
วัน อภิเษก
สมรส ของ
พระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัว
และ สมเด็จพระราชินีนาถ
พร้อมถวาย
รายงานสถานการณ์
ที่ เกิดขึ้น
ให้ ทราบ
โดย ละเอียด
ญาติ สลด
รับ ศพ
ส.ต.ต. เซ่นไฟใต้
ที่ กองบิน 3
กองทัพ
อากาศ เมื่อ
เวลา 21.00 น.
มี เจ้าหน้าที่
ตำรวจ กองปราบปราม
จัด กองเกียรติยศ
มา รอรับ
ศพ ส.ต.ต.
ณรงค์ชัย พลเดช
อายุ 21 ปี
เจ้าหน้าที่คอมมานโด
ที่ เสียชีวิต
จาก เหตุการณ์
กลุ่ม ก่อการร้ายบุก
ยึด มัสยิด
กรือเซะ โดย
มีญาติๆ ของ
คนตาย มาคอยรับอยู่
อย่างกระวนกระวายใจ
จนกระทั่ง
เวลา 21.10น.
เครื่องบิน
แบบซี 130
ลงมาจอด เจ้าหน้าที่
ได้ เคลื่อนโลงศพ
ลงมา โดยมี
ธงชาติไทย
คลุมทับอยู่
และ บริเวณด้านข้าง
มี พล.ต.ต.
โกสินทร์ หินเธาว์
ผบก.ป.
และ ผู้บังคับบัญชา
ใน กองปราบปราม
เดิน เคียงข้างมา
ด้วย
กองเกียรติยศ
ได้ ตั้งแถว
ทำ ความเคารพ
ศพ กลุ่มญาติคนตาย
ส่งเสียง
ร้องไห้ กันระงม
จน นางเสวี
พลเดช มารดา
คนตาย เป็นลม
หมดสติไป
ทางญาติ
จึงต้อง ช่วยปฐม
พยาบาล แล้วนำรถ
ติดตาม ขบวน
ศพ ไป
ยังวัดเสมียนนารี
จ.ส.อ. ทรงชัย
พลเดช ทหาร
สังกัด กรมทหารม้า
ที่ 5รักษาพระองค์
บิดา คนตาย
เปิดเผยว่า
ลูกชาย เพิ่งรับราชการ
ตำรวจ ได้ 2 ปี
ทราบข่าว
การเสียชีวิต
ของ ลูกชาย
จาก ลูกสาว
เมื่อทราบข่าว
ภรรยา ถึงกับ
เป็น ลมล้มพับไป
ใน ช่วงแรก
ไม่เชื่อ
แต่ เมื่อ
เช็ค ข่าว
และ เห็น
สื่อมวลชน
เสนอข่าว
จึงแน่ใจว่า
ลูกชาย เสียชีวิต
แล้วแน่นอน
รู้สึกเสียใจ
เป็นอย่างมาก
แต่ก็ยัง
รู้สึกภูมิใจ
ที่ ลูกชาย
ได้เสียชีวิต
ขณะ ปฏิบัติ
หน้าที่
อย่างไรก็ตาม
จะนำศพไป
เก็บไว้ ที่
วัดเสมียนนารี
ก่อน 1 คืน แล้ว
ใน วันที่ 29 เม.ย.นี้
จะนำไป
ตั้งสวด พระอภิธรรม
ต่อที่ วัดทองพุ่มพวง
ต.ปากเพียว
อ.เมืองสระบุรี
ต่อไป อย่างไรก็ตาม
ทางผู้บังคับบัญชา
จะทำเรื่อง
เสนอ ขั้น
และ ยศ
ให้กับ คนตาย
สูงสุด คือ
ยศ
ร.ต.อ. เนื่องจาก
เสียชีวิต
จากการปฏิบัติ
หน้าที่