Article 33
โจรใต้กำบึมชาร์จทหารโดนยิงร่วง
เมื่อเวลา 21.55 น. วันที่19 ส.ค. พ.ต.ท.นิยม รื่นเริง รอง ผกก.สส. สภ.อ.ยะหา จ.ยะลา รับแจ้งทางวิทยุสื่อสารว่า มีรถปิกอัพยี่ห้ออีซูซุ สีเทา ทะเบียน บก 7014 ยะลา ขับแหกด่านตรวจมาจากพื้นที่บ้านบันนังดามา หมู่ 1 ต.กาบัง อ.กาบัง จ.ยะลา จึงได้สั่งการให้ชุดเฉพาะกิจ ประกอบด้วยกำลังทหารชุด ร้อย ร.4145 และเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมพร้อมรับสถาน-การณ์ ปรากฏว่ารถปิกอัพคันดังกล่าววิ่งฝ่าด่านตรวจสามแยกทางเข้าเขตเทศบาลตำบลยะหา และด่านตรวจหน้าอำเภอยะหา มุ่งหน้าไปทางพื้นที่บ้านปะแต ต.ปะแต กำลังเจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถติดตามรถคนร้ายไปอย่างกระชั้นชิด
กระทั่งถึงโค้งบ้านกาโต๊ะ หมู่ 7 ต.ปะแล รถคนร้ายเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าริมถนนจนหยุดนิ่ง คนร้ายเปิดประตูรถออกมา โดยในมือขวาถือมีดดาบยาว และใช้เศษผ้าพันด้ามมีดติดกับอุ้งมือแน่นหนาเพื่อป้องกันมีดหลุดมือ ส่วนในมือซ้ายกำระเบิดเอ็ม 67 ไว้แน่น พร้อมชูขึ้นเตรียมขว้างใส่เจ้าหน้าที่ แต่ถูกยิงสวนด้วยอาวุธปืนเอ็ม 16 กระสุนถูกลำคอและกกหูขวาล้มลงเสียชีวิต ต่อมา พ.ต.อ.กิตติสัณห์ ธเนศเดชสุนทร รอง ผบก.ภ.จ.ยะลา ร.ต.อ.สมปราช กรรณกานนท์ ร้อยเวร สภ.อ.ยะหา พร้อมอัยการ แพทย์ และผู้เกี่ยวข้องรุดไปที่เกิดเหตุ ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือนายอุสมาน อาโก๊ะหิเล อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46 หมู่ 1 ต.บาโงยชิแน อ.ยะหา ตรวจค้นในตัวพบเครื่องรางของขลังจำนวนมาก
ต่อมาเวลา 08.30 น. วันที่ 20 ส.ค. พ.ต.ท.นิยม รื่นเริง รอง ผกก.สภ.อ.ยะหา ตรวจสอบทะเบียนรถปิกอัพคันดังกล่าวไปยังขนส่ง จ.ยะลา พบว่าเป็นรถของนายมะแอ อูมา อยู่บ้านเลขที่ 56 ถนนวิฑูรอุทิศ 6 เขตเทศบาลนครยะลา จึงไปสอบปากคำเจ้าของรถ ซึ่งให้การว่านำรถคันดังกล่าวไปซ่อมที่อู่ซูไฮนี บ้านบาโงยชิแน เมื่อติดต่อไปที่อู่ดังกล่าว ทางเจ้าของอู่ยังไม่ทราบเรื่องที่รถถูกขโมยไป แต่ยอมรับว่าเจ้าของรถได้นำรถมาซ่อมไว้ที่อู่จริง สำหรับนายอุสมานผู้เสียชีวิต เป็นแนวร่วมขบวนการโจรร้ายในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ เตรียมอาวุธจะไปก่อเหตุร้าย แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจพบและต่อสู้ขัดขวางจึงถูกวิสามัญฆาตกรรม
เช้าวันเดียวกัน พ.ต.ท.สุรศักดิ์ สิงห์ไกร สารวัตรเวร สภ.อ.ตากใบ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีวัตถุต้องสงสัยอยู่ในถุงพลาสติกสีดำวางอยู่หน้าประตูเข้าธนาคารทหารไทยจำกัด สาขาตากใบ ริมถนนสายตากใบ-ตาบา เยื้องป้อมจุดตรวจบ้านตาบา เขตเทศบาลตำบลตากใบ นำกำลังไปตรวจสอบ เบื้องต้นคาดว่าเป็นระเบิด จึงได้กันพนักงานธนาคารและประชาชนที่ไปติดต่อธนาคารไม่ให้เข้าไปด้าน
ในธนาคาร พร้อมประสานชุดเก็บกู้ระเบิด "เหยี่ยวดำ"ของ นปพ.นราธิวาส ไปเก็บกู้ เมื่อชุดเก็บกู้ไปถึงได้ใช้อุปกรณ์ยิงน้ำแรงดันสูงยิงทำลาย พบว่าภายในถุงพลาสติกสีดำเป็นกล่องกระดาษสีน้ำตาล และในกล่องกระดาษมีกล่องพลาสติกบรรจุอาหารสีแดง รูปสี่เหลี่ยมจตุรัส กว้าง-ยาวด้าน ละ 5 นิ้วในกล่องพลาสติกบรรจุปุ๋ยยูเรียผสมน้ำมันโซล่า ตะปูขนาด 5 นิ้ว จำนวนมาก เชื้อปะทุ 2 ดอก นาฬิกาปลุกสีแดง 1 เรือน และวงจรอิเล็กทรอนิกส์เชื่อมต่อกับนาฬิกาปลุกแล้วจุดระเบิดด้วยโทรศัพท์มือถือ คาดว่าคนร้ายคงสังเกตการณ์อยู่บริเวณใกล้เคียง คอยให้เจ้าหน้าที่มาเก็บกู้จึงจะกดระเบิดให้ทำงาน แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ได้ทำลายเสียก่อนจึงไม่สามารถกดระเบิดได้ทัน สำหรับระเบิดลูกดังกล่าวมีน้ำหนัก 10 กก. หากเกิดการระเบิดขึ้นจะมีรัศมีทำลายกว้างถึง 50 เมตร
ต่อมาในช่วงเย็น สารวัตรเวรคนเดิมได้รับแจ้งเกิดเหตุระเบิดรถยนต์ที่หน้าบ่อนไก่ บ้านศรีพงัน หมู่ 3 ต.เกาะสะท้อน ที่เกิดเหตุพบรถกระบะโตโยต้า ไทเกอร์แค็บ สีน้ำเงิน ทะเบียน บง 2861 นราธิวาส ของนายสมพร ตันประเสริฐ อายุ 35 ปี ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งคัน นอกจากนี้ ยังมีรถยนต์อีก 3 คัน และรถ จยย. 1 คัน และแพะอีก 2 ตัวถูกสะเก็ดระเบิดได้รับความเสียหายและล้มตาย โดยคนร้ายใช้ปุ๋ยยูเรียผสมน้ำมันโซล่าวางไว้ใต้รถกระบะโตโยต้า แล้วจุดระเบิดด้วยรีโมตคอนโทรล เดชะบุญขณะเกิดเหตุบรรดาเซียนไก่กำลังเล่นชนไก่อยู่ในบ่อน จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
เวลา 17.00 น. วันเดียวกัน ร.ต.ต.วัฒนา เกตุอำไพ ร้อยเวร สภ.อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส รับแจ้งมีคนถูกยิงที่บ้านเลขที่ 77 หมู่ 9 บ้านปาเร๊ะรูโบ๊ะ ต.มะรือโบออก ที่เกิดเหตุพบเพียงกองเลือดอยู่ในบ้าน ส่วนผู้ถูกยิงชื่อนายมะยูโซ็ะ แยนา อายุ 67 ปี เจ้าของบ้าน และอดีต ผช.ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ต.มะรือโบออก เป็นบิดาของ ด.ต.มะฮูเซ็น แยนา สังกัด สภ.อ.สุไหงโก-ลก ถูกยิงด้วยปืน .38 เข้ากลางหลัง 2 นัด ศีรษะ 2 นัด ลำคอ 1 นัด เสียชีวิตขณะนำส่ง รพ.เจาะไอร้อง โดยก่อนเกิดเหตุขณะที่ผู้ตายนั่งเล่นอยู่หน้าบ้าน มีคนร้ายเป็นวัยรุ่น 2 คน อายุราว 20 ปี ขี่รถ จยย.ฮอนด้า เวฟ สีบรอนซ์ เข้ามาจอด คนนั่งซ้อนท้ายสวมหมวกไหมพรมสีแดงดำ ชักปืนออกมายิงใส่กระสุนพลาดเป้า ผู้ตายวิ่ง หนีเข้าไปในบ้าน มือปืนไม่ปรานีตามเข้าไปจ่อยิง 5 นัดซ้อน จนเหยื่อเสียชีวิตคาที่ ส่วนสาเหตุคาดว่ามาจากการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่
ที่กระทรวงมหาดไทย นายโภคิน พลกุล รมว. มหาดไทย กล่าวถึงการแต่งตั้งโยกย้ายผู้ว่าฯใน 3 จังหวัดภาคใต้ และจังหวัดที่มีตำแหน่งว่างอยู่ ว่า ในการประชุม ครม. ในวันที่ 24 ส.ค.นี้ทุกอย่างจะชัดเจน ขอให้มั่นใจว่าจะคัดเลือกบุคคลที่ดีที่สุด มีความเหมาะสมและให้ ความเป็นธรรม ซึ่งจากการที่ผู้ว่าฯทั้ง 3 จังหวัดชายแดน ภาคใต้ทำงานหนักมามาก ก็อาจจะย้ายให้ไปพักที่อื่น ในสถานที่ที่ดีขึ้น ทั้งนี้ไม่ได้พิจารณาตามความต้องการของผู้ว่าฯที่ขอย้าย แต่จะพิจารณาถึงความเหมาะสม โดยคนที่ไปแทนนั้นจะต้องมีความตั้งใจทุ่มเท เพราะการโยกย้ายครั้งนี้มองไปถึงอนาคตอย่างน้อย 2 ปี ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ และการพัฒนาต่างๆในกลุ่มจังหวัด
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงมหาดไทยว่า ในการประชุม ครม.ครั้งหน้า นายโภคิน จะเสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ 10 ของกระทรวงมหาดไทยต่อที่ประชุม ครม. โดยจะมีการเสนอโยกย้ายผวจ.ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากนายเสนอ จันทรา ผวจ.ปัตตานี ได้ทำหนังสือแสดงความจำนงขอย้ายออกจากพื้นที่ ส่วนนายบุณยสิทธิ์ สุวรรณรัตน์ ผวจ.ยะลา จะย้ายไปเป็น ผวจ.สงขลา แทนนายสมพร ใช้บางยาง ผวจ.สงขลา ที่อาจย้ายไปเป็น ผวจ.นราธิวาส เนื่องจากโดดเด่นในการทำงาน และคุ้นเคยกับปัญหาและพื้นที่ ส่วนนายประยงค์ รัตนพันธ์ รอง ผวจ.นราธิวาส อาจได้ ขึ้นเป็น ผวจ.สตูล สำหรับตำแหน่ง ผวจ.ยะลา นั้น อาจจะเป็นนายภาณุ อุทัยรัตน์ หรือนายวีระศักดิ์ อนันตมงคล รอง ผวจ.ยะลา แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่อาจจะเป็นนายวิชล มนัสเอื้อศิริ รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เพราะนายวิชลเคยดำรงตำแหน่งพัฒนากรจังหวัดยะลามานาน
นายวิชม ทองสงค์ ผวจ.นราธิวาส เปิดเผยว่า ไม่มีความคิดขอย้ายออกนอกพื้นที่ เพราะสามารถทำงานได้ดีอยู่แล้ว ยังต้องมีเรื่องที่ต้องทำต้องพัฒนาอีกมาก เพื่อให้ประชาชนมีความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น การทำงานในพื้นที่ไม่มีปัญหา สามารถประสานงานทุกฝ่ายในจังหวัดได้ดี อย่างไรก็ตาม หากผู้บังคับบัญชาเห็นสมควรให้โยกย้ายไปในที่เหมาะสมกว่าก็ไม่มีปัญหา พร้อมจะปฏิบัติตามคำสั่งเพื่อสนองนโยบาย
ด้านนายบุณยสิทธิ์ สุวรรณรัตน์ ผวจ.ยะลา เปิดเผยว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เห็นความสำคัญและไว้วางใจให้ทำงานต่อไปก็ต้องขอขอบคุณ ถือเป็นขวัญกำลังใจในการทำงานให้ดียิ่งขึ้น แต่หากเห็นว่าสมควรย้ายไปอยู่ที่อื่นเพราะทำงานเครียดและหนักมาตลอดก็สุดแล้วแต่จะกรุณา ส่วนเรื่องสุขภาพขณะนี้ยังเป็นปกติ พร้อมจะทำงานสนองนโยบายรัฐบาลให้ประสบผลสำเร็จ ขณะที่นายเสนอ จันทรา ผวจ.ปัตตานี กล่าวเพียงสั้นๆว่า เกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่ขอแสดงความคิดเห็นใดๆทั้งสิ้น เพราะเพิ่งย้ายมาเป็นผู้ว่าฯได้ยังไม่ถึงปี หากผู้บังคับบัญชาเห็นสมควรให้โยกย้ายไปทำงานที่ใดก็พร้อมปฏิบัติตาม
เวลา 20.00 น. ร.ต.ท.สุวิชญ์ ภู่สถิตย์ ร้อยเวร สภ.อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส รับแจ้งมีตำรวจถูกยิงได้รับบาดเจ็บ หน้าบ้านเลขที่ 75/4 บ้านโผลง หมู่ 5 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี ที่เกิดเหตุพบเพียงกองเลือด ส่วนคนถูกยิงถูกนำส่ง รพ.สุไหงโก-ลก และเสียชีวิต ทราบชื่อ ส.ต.ต.เด่น ซ้ายเกล้า อายุ 22 ปี สังกัดหน่วยปฏิบัติการพิเศษ จ.นราธิวาส ถูกยิงด้วยปืนลูกซอง กระสุนเข้าตามลำตัวหลายแห่ง ก่อนเกิดเหตุผู้ตายขับรถปิกอัพนิสสัน สีน้ำเงิน กลับจากทำธุระที่ อ.สุไหงโก-ลก โดยมีแฟนสาวและพ่อแม่แฟนนั่งมาด้วย เมื่อถึงบ้านเกิดเหตุได้มีคนร้ายที่มาดักซุ่มรออยู่ อาศัยช่วงที่ผู้ตายลงจากรถมาเปิดประตูบ้าน ยิงด้วยปืนลูกซอง 2 นัดถูกผู้ตายล้มคว่ำจมเลือด ส่วนคนร้ายวิ่งเข้าป่าละเมาะหลังบ้านหลบหนีไป คาดสาเหตุจากสถานการณ์ไฟใต้