Article 35
ยิงแสกหน้า!ฆ่าอดีตตร.ใต้
พร้อมหมายจับของศาลจังหวัดยะลา เข้าตรวจค้นภายในบ้านเลขที่ 18 ถนนสิโรรส 10 ในเขตเทศบาล นครยะลา ซึ่งเป็นบ้านของนายอดุลย์ มูนี หรืออุสตาดเลาะ อายุ 55 ปี ครูสอนศาสนา โรงเรียนธรรม วิทยามูลนิธิ อ.เมืองยะลา โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ทางตำรวจได้ยึดรถ จยย.ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน ทะเบียน กบย 84 ยะลา ที่จอดทิ้งไว้ในบ้านของนายอดุลย์ไปตรวจสอบ เพราะต้องสงสัยว่าอาจจะเตรียมไว้ใช้ก่อคดีวางระเบิด ทั้งนี้ ผลการตรวจสอบพบว่ารถ จยย. คันดังกล่าวเป็นของนายสมโชค ขวัญมาอยู่บ้านเลขที่ 64/8 หมู่ 2 ต.สะเตงนอก อ.เมืองยะลา ถูกโจรกรรมไปตั้งแต่เดือน ธ.ค. 46 ส่วนแผ่นป้ายวงกลมของรถ จยย.กลับเป็นทะเบียน กมล 15 ยะลา ระบุชื่อ น.ส.ซารีด๊ะ โคดะเซะ บ้านอยู่ อ.รามัน จ.ยะลา และแจ้งหายไว้ช่วงเวลาเดียวกัน จึงขออนุมัติออกหมายจับนายอดุลย์ข้อหารับซื้อของโจร แต่นายอดุลย์ไหวตัวทัน ชิงปิดบ้านหลบหนีไปก่อน คาดว่าอาจจะหลบหนีออกนอกประเทศ เนื่องจากมีภรรยาเป็นชาวอินโดนีเซีย
สำหรับที่มาที่ไปของการบุกตรวจค้นบ้านของนายอดุลย์ มีรายงานว่า เป็นผลมาจากการสอบขยายผลกลุ่มคนร้ายที่เคยก่อคดีลอบวางระเบิดใน จ.ปัตตานี ระบุว่านายอดุลย์มีส่วนร่วมในขบวนการดังกล่าว จากการตรวจสอบประวัติพบว่านายอดุลย์สำเร็จการศึกษาปริญญาตรี สาขาครุศาสตร์อิสลามศึกษา จากมหาวิทยาลัยซิลิวางิ เมืองบันนาดัง ประเทศอินโดนีเซีย ส่วนการตรวจค้นภายในบ้านของผู้ต้องหารายนี้ไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด
ในส่วนของนายอัสนี เด็งลา และนายณัฐวุฒิ ซาแม 2 ผู้ต้องสงสัยคดีลอบวางระเบิดทั้ง 3 จุดในเขตเทศบาลนครยะลา ยังคงอยู่ในความดูแลของ บก.ภ.จ.ยะลา โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 ยืนกรานปฏิเสธ แต่พนักงานสอบสวน สภ.อ.เมืองยะลา มั่นใจในหลักฐานเป็นอุปกรณ์และชิ้นส่วน ในการประกอบวัตถุระเบิดที่ยึดได้จากห้องพักของ ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ในโรงแรมมายเฮ้าส์ และยังพบเฮโรอีนอีกจำนวนหนึ่ง จึงควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีข้อหามียาเสพติดไว้ในความครอบครอง และรอให้ทางทหาร ฉก.หน่วยทักษิณ ค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี มารับตัวไปสอบขยายผลคดีวางระเบิดต่อไป
ขณะเดียวกันทางด้าน จ.นราธิวาส มีรายงานว่าทหาร ฉก.นย.นราธิวาส ควบคุมตัวนายมะรอพี เจ๊ะแวกูนิง สมาชิก อบต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา ผู้ต้องหาคดีครอบครองวัตถุระเบิดและเครื่องกระสุนปืน ซึ่งถูกจับ มาก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ก่อนจะปล่อยตัวไป กลับมาสอบสวนใหม่อีกครั้ง เมื่อช่วงค่ำวันที่ 22 ส.ค. ที่ผ่านมา หลังมีเบาะแสว่าพัวพันคดีลอบวางระเบิดทั้ง 3 จุดใน จ.ยะลา เมื่อคืนวันที่ 21 ส.ค. นำตัวไปเค้นสอบที่หน่วย ฉก.นราธิวาส อย่างเคร่งเครียด โดยเชื่อว่านายมะรอพี จะเป็นกุญแจดอกสำคัญที่ไขปริศนากลุ่มผู้บงการวางระเบิดป่วนใต้ทั้งหมด
ส่วนเหตุการณ์ความไม่สงบใน จ.ยะลา ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 11.45 น. วันเดียวกัน พ.ต.ท.ปานพิทักษ์ เทพชูแดง รอง ผกก.หน.สภ.อ.กรงปินัง จ.ยะลา รับแจ้งพบวัตถุต้องสงสัยถูกนำมาวางทิ้งไว้ใต้สะพานเฉลิมพระเกียรติ ข้ามแม่น้ำปัตตานี หมู่ 4 บ้านกีเยาะ รุดไปตรวจสอบพบถุงขยะสีดำถูกวางทิ้งไว้ติดกับ ตอม่อสะพานจึงประสานชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด กก.ตชด.ที่ 44 มาตรวจสอบพบว่าภายในเป็นแค่เศษกล่องกระดาษ คาดเป็นฝีมือพวกโรคจิตสร้างสถานการณ์ป่วนเมือง
ที่หน่วยเฉพาะกิจทักษิณ ค่ายอิงคยุทธบริหาร ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 25 ส.ค. พล.ต.ขวัญชาติ กล้าหาญ รองแม่ทัพภาคที่ 4 และนายไตรรัตน์ จงจิตร รอง ผวจ.ปัตตานี ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม และการเข้ามอบตัวของกลุ่มครูสอนศาสนา ที่มีส่วนพัวพันกับคดีก่อความไม่สงบ ในภาคใต้ โดยใช้ระเบิดเพลิงปาใส่บ้านเรือนประชาชน ในพื้นที่หมู่ 3 ต.ตุยง อ.หนองจิก จำนวน 4 คน โดยนายนิมาหะมุด หะยีสาแม และนายมะรี เป็นสาเล็ง ถูกจับได้ขณะหลบหนีหลังก่อเหตุ ส่วนนายอาซือมี อาแซ และนายสะมะแอ ยูโซ๊ะ ได้เข้ามอบตัวกับทางการเอง ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าทั้ง 4 คน เป็นครูสอนศาสนาของโรงเรียนปอเนาะแห่งหนึ่ง แต่ทั้งหมดยังให้การปฏิเสธ อย่างไรก็ตาม ทางทหารได้คุมตัวทั้งหมดไว้สอบสวนขยายผลต่อไป
มีรายงานจากหน่วยข่าวกรองในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ส่งถึงแม่ทัพภาคที่ 4 ระบุถึงกลุ่มขบวนการที่ก่อคดีวางระเบิดตามสถานที่ต่างๆ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าเป็นฝีมือกลุ่มบุคคลหลากหลายอาชีพที่รวมตัวกันสร้างสถานการณ์ เพื่อมุ่งหวังบ่อนทำลายความมั่นคงของประเทศชาติ มีการว่าจ้างให้นักศึกษาที่มีความรู้ความชำนาญด้านวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ช่วยประกอบวงจรจุดชนวนระเบิดจากระยะไกล (รีโมตคอนโทรลหรือระบบสั่งงานจากโทรศัพท์มือถือ) นอกจากนี้ ยังพบเบาะแสว่า 1 ในกลุ่มแกนนำที่บงการก่อความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ มีระดับปลัดอำเภอร่วมขบวนการด้วยเพื่อหวังผลในเรื่องตำแหน่งและหน้าที่การงาน ทั้งนี้ ทางหน่วยข่าวกรองของทหารได้ส่งกำลังคนไปเฝ้าดูพฤติกรรม ของข้าราชการคนดังกล่าวเอาไว้แล้ว หากมีพยานหลักฐานหรือเบาะแสที่แน่ชัดก็จะเชิญตัวมาสอบสวนทันที สำหรับเป้าหมายต่อไปของกลุ่มคนร้ายมีรายงานยืนยันว่า จะเล่นงานชุดคุ้มครองครูในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะเดียวกัน ที่เว็บไซต์ "พูโล" ได้ออกประกาศเตือนคนไทยมุสลิมให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังสถานที่ราชการทุกแห่ง สถานบันเทิง โรงแรม ร้านอาหารและห้างสรรพสินค้า โดยระบุว่าจะมีการวางระเบิดตามมาอีกหลายจุด
ในส่วนความเคลื่อนไหวของรัฐบาล เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 25 ส.ค. ที่โรงแรมรอยัลปริ๊นเซส ระนอง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงสถานการณ์ภาคใต้ว่า ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการจับกุมผู้อยู่เบื้องหลังการระเบิดและจะมีการจับกุมไปเรื่อยๆ สิ่งที่น่าสนใจคือ ขณะนี้มีครูสอนศาสนากำลังรวมตัวกันต่อต้านครูสอนศาสนาบางคน ที่พวกเขาเรียกว่าครูสอนศาสนากบฏ ถือเป็นสัญญาณที่ดีแล้วว่าคนดีรับสิ่งที่ไม่ดีไม่ได้ เพราะเขาอยู่ในประเทศไทยอย่างสันติมาตลอด อยู่ๆมีคนกลุ่มหนึ่งไปบิดเบือนคำสอนทางศาสนา ไปสอนเด็กให้ก่อความไม่สงบ คิดว่าทุกฝ่ายเริ่มมาถูกทาง การแก้ปัญหาต้องอดทนอีกระยะหนึ่ง เพราะเริ่มจับกุมตัวหลักๆได้หลายคน การที่จะมีการล้างแค้นต่อสู้ก็มีเกิดขึ้นบ้าง
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่จับกุมตัวหลักๆ ได้ เป็นกลุ่มเดิมใช่หรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ ตอบว่า เป็นกลุ่มเดิม เพราะมีเครือข่ายอยู่ ที่ผ่านมาบางทีจับได้แต่พวกปลายแถว ตอนนี้เริ่มจับได้ในระดับกลางแล้ว ส่วนระดับหัวยังหนีไปหนีมา คิดว่าน่าจะจับได้ ตอนนี้รู้ตัวบงการแล้ว เพราะการข่าวค่อนข้างดี เท่าที่ทราบถ้านับคนที่ปฏิบัติการทั้งเครือข่ายอาจมีจำนวนถึงร้อยคน แต่ตัวครูสอนศาสนาที่ไม่ดีมีไม่ถึงร้อย อย่างไรก็ตาม ไม่มีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า กลุ่มนี้มีเครือข่ายเชื่อมโยงกับต่างประเทศหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณตอบว่า ถ้าเป็นประเทศที่มีชายแดนติดกัน จะไปอ้างว่าเป็นเครือข่ายต่างประเทศจริงๆไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องการเดินทางไปมา ถ้าถามว่าต่างประเทศสนับสนุนหรือไม่ ก็เป็นเรื่องของบางคนไปเรียนหนังสือต่างประเทศ ไปมีเพื่อนฝูง มีครูโยงใย อย่างนี้มีบ้าง แต่ไม่ถึงกับเป็นการสนับสนุน
สำหรับวัตถุระเบิดที่ถูกปล้นไป ตรวจสอบแล้วมีการนำมาใช้ก่อเหตุวุ่นวายที่ผ่านมาบ้างหรือไม่ พ.ต.ท. ทักษิณตอบว่า หลายอย่างน่าจะใช่ เช่น ปุ๋ยยูเรียที่หายไปจากโรงงานโม่หินก็ถูกนำมาใช้พอสมควร ยืนยันว่า ส่วนใหญ่ที่ถูกปล้นไปยังอยู่ในประเทศ บางทีโจรร้ายยังอยู่ในหมู่บ้าน แต่ไม่มีใครกล้าพูดกล้าบอก ขณะนี้เบาะแสเรารู้มากกว่าเมื่อก่อน เพราะส่งคนฝังตัวในพื้นที่จนเริ่มรู้มากขึ้น และชาวบ้านเริ่มเข้าใจแล้วว่ารัฐส่งคนไปดูแลไม่ได้ส่งไปรังแก ส่วนเรื่องที่มีผู้วิจารณ์ว่าเปลี่ยน ผบ.ทบ. และผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะทำให้ผลการทำงานดีขึ้นหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า คงไม่เกี่ยวเพราะการย้ายผู้ว่าฯมีแค่ 2 คน ผู้ว่าฯปัตตานีมีปัญหาเรื่องการผ่าตัดหัวใจ ส่วนผู้ว่าฯนราธิวาสนั้น เป็นจังหวัดที่เหตุ เกิดเยอะสุด รับไม่ไหว ขอไปพักฟื้น ส่วนผู้ว่าฯยะลายังขอสู้ต่อ สำหรับการเปลี่ยน ผบ.ทบ. เป็นการเปลี่ยนตามวาระ ไม่มีอะไร
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอีกว่า ตอนนี้มีข่าวลือว่าอาจจะมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นช่วงที่เข้าพื้นที่ โดยเฉพาะระเบิดพลีชีพ แต่เท่าที่รู้มาคือไม่มี ถึงมีก็ไม่สน ทุกพื้นที่ในประเทศตนต้องไปได้ ที่ยิงกันอยู่ตนก็จะไป เพราะถ้าไม่ไปหรือไปแสดงความขี้ขลาดจะได้อย่างไร และคงไม่ เพิ่มกำลังคุ้มกัน เพียงแต่มีส่วนล่วงหน้าไปเคลียร์ไปดูพื้นที่เล็กน้อยเท่านั้น อยู่กรุงเทพฯมีเท่าไหร่ มาถึงที่นี่ก็ยังเหมือนเดิม เมื่อถามว่า คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภรรยา แสดงความเป็นห่วง บ้างหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวเสียงดังฟังชัดว่า คุณหญิงทำใจไว้แล้ว
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแก้ไขปัญหา ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า นายสวาสดิ์ สุมาลยศักดิ์ จุฬาราชมนตรี ซึ่งมีคณะทำงาน กำลังดำเนินการประสานงานติดต่อเพื่อทำความเข้าใจกับผู้นำและผู้สอนศาสนา เพราะเรื่องนี้ถือเป็นสิ่งที่ผิด ถ้าแก้ไขได้ ทุกอย่างจะสงบและยุติ จะได้รู้ว่า การกระทำที่ผ่านมาแทนที่จะเป็นบุญ แต่กลับเป็นบาป เพราะในแง่ของศาสนา พวกนี้จะมีความรุนแรงในการนับถือศาสนา หากเจรจากันได้ ปัญหาต่างๆจะยุติ เพราะสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นเป็นการสร้างความทุกข์และความเดือดร้อนแก่ประชาชน ส่วนเหตุระเบิดที่ จ.ยะลา ยังไม่มีอะไรชัดเจน
ขณะเดียวกันกลุ่มโจรใต้ยังออกอาละวาดล่าเด็ดหัวเจ้าหน้าที่บ้านเมืองไม่เว้นวัน คราวนี้เป็นคิวดาบตำรวจนอกราชการถูกยิงตายกลางถนน โดยเมื่อเวลา 17.00 น. วันเดียวกัน ร.ต.ต.สุโชค ผู้มีโชคชัย ร้อยเวร สภ.อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี รับแจ้งมีคนถูกยิงเสียชีวิตริมถนนสายต้นไทร-ตะโละดือรามัน หมู่ 3 บ้านกาหนี่ ต.ตะโละดือรามัน อ.กะพ้อ รุดไปตรวจสอบพบศพ ด.ต.เกรียงไกร ไชยชาญ อายุ 54 ปี อดีตตำรวจ สภ.อ.กะพ้อ แต่ขอเกษียณราชการก่อนกำหนด นอนตายอยู่ริมถนนโดยมีรถ จยย.ฮอนด้าสีดำทับอยู่ที่ขาซ้าย สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืน .38 เข้ากลางแสกหน้าทะลุท้ายทอย 1 นัด สอบสวนทราบว่าผู้ตายขี่รถ จยย.มาทำธุระที่ อ.กะพ้อ และกำลังเดินทางกลับบ้านที่ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ระหว่างทางมีคนร้ายเป็นชาย 2 คนขี่รถ จยย.สีดำไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียนไล่แซงประกบ คนซ้อนท้ายชักปืนยิงเข้าแสกหน้าผู้ตายจนรถ จยย.เสียหลักล้มตะแคงข้างเสียชีวิตคาที่ เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นฝีมือโจรใต้สร้างสถานการณ์
อีกรายเมื่อเวลา 19.30 น.วันเดียวกัน ร.ต.อ.อนุสรณ์ จันทร์กลับ ร้อยเวร สภ.อ.ยะรัง จ.ปัตตานี รับแจ้งมีทหารถูกยิงบาดเจ็บบนถนนสายยะลา-ปัตตานี หมู่ 3 ต.ประจัน อ.ยะรัง รุดไปตรวจสอบพบรถ จยย.ล้มอยู่ข้างทาง มีปลอก กระสุนปืน 11 มม. ตกอยู่ 4 ปลอก ส่วนผู้บาดเจ็บถูกนำส่ง รพ.ยะรัง ทราบชื่อ อส.ทพ.เสกสรร แก้วเกาะสะบ้า อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 หมู่ 3 ต.เกาะสะบ้า อ.เทพา จ.สงขลา สังกัดกรมทหารพรานที่ 41 ช่วยราชการ ฉก.ยะลา ถูกยิงเข้าชายโครงขวา 1 นัด ขาซ้าย 1 นัดและขาขวาอีก 2 นัด อาการสาหัสมาก ต้องส่งไปผ่าตัดที่ รพ.ศูนย์ยะลา สอบสวนเบื้องต้นพบว่า ผู้บาดเจ็บขี่รถ จยย.จะกลับบ้าน ถูกคนร้าย 2 คน ใช้ผ้าโพกหัวสีดำตามประกบยิง 4 นัด ก่อนจะหลบหนีไป สันนิษฐานเป็นฝีมือโจรใต้สร้างสถานการณ์อีกเช่นกัน