Article 73


โจรใต้ร่อนจม.ขู่บึมครู

สถานการณ์รุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กลายเป็นปัญหาไฟสุมขอน ที่ยากจะมอดดับลงง่ายๆ และพร้อมจะลุกโชนขึ้นได้ตลอดเวลา ถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่รัฐจะพยายามวางแนวทางสางปัญหา ทั้งตอบโต้ในเชิงรุกและตั้งรับอย่างรัดกุม แต่กลุ่มโจรชั่วก็ยังคงเหิมเกริมปฏิบัติการ ลอบกัดสร้างความปั่นป่วนไม่เว้นแต่ละวัน ทั้งลอบสังหารผู้พิพากษา ครู และตำรวจ รวมทั้งปาระเบิดถล่มกลุ่ม อส.และทหารพรานในงานสมโภชเสาหลักเมือง จ.ยะลา ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บถึง 9 คนนั้น

ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 28 ก.ย. ได้มีมือมืดนำจดหมายข่มขู่ไปทิ้งไว้บริเวณ หน้าโรงเรียนบ้านจะแหน่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เป็นกระดาษ 2 แผ่น เขียนด้วยลายมือระบุว่า ให้ปิดโรงเรียน แล้วให้ครูไทยพุทธและอิสลามหยุดสอน หากไม่เชื่อฟังจะระเบิดโรงเรียนและจะยิงครูตามเส้นทาง พร้อมสังหารผู้ที่ให้การสนับสนุนรัฐบาล ลงชื่อ กลุ่ม BARESAN ปัตตานี วันที่ 27 ก.ย. 47 หลังจากนักเรียนพบจดหมายดังกล่าววางอยู่หน้าโรงเรียน จึงรีบนำไปมอบให้ครู ก่อนที่ ผอ. โรงเรียนจะไปแจ้งตำรวจ ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังสืบสวน หาที่มาของจดหมายข่มขู่ดังกล่าวอย่างเร่งด่วน แต่ชื่อของกลุ่มที่ลงท้ายในจดหมายยังไม่เคยปรากฏว่าเคยก่อเหตุที่ใดมาบ้าง

แหล่งข่าวด้านความมั่นคงเปิดเผยว่า ก่อนวันที่ 15 ต.ค. ที่เป็นเดือนรอมฎอน หรือถือศีลอดของชาวมุสลิม กลุ่มโจรก่อการร้ายมีแผนก่อเหตุในพื้นที่ อ.แม่ลาน อ.โคกโพธิ์ อ.หนองจิก และ อ.เมืองปัตตานี โดยการลอบยิงเจ้าหน้าที่ วางเพลิง และวางระเบิด ที่ผ่านมาแกนนำกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบได้ประชุมกันในพื้นที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา โดยมีอุสตาสใน จ.ยะลา เป็นผู้วางแผน แบ่งหน้าที่เข้าปฏิบัติงานอำเภอละ 1 กลุ่ม กลุ่มอายุ 20-30 ปีขึ้นไปทำหน้าที่ลอบยิงเจ้าหน้าที่ อายุต่ำกว่า 13-16 ปี เป็นกลุ่มลอบวางเพลิง ส่วนมือวางระเบิดจะเป็นกลุ่มที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี และเคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง ได้แจ้งเตือนให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายได้รับทราบคอยเฝ้าระวังและติดตามหาข่าวอย่างใกล้ชิดแล้ว ส่วนในช่วงเดือนถือศีลอด กลุ่มโจรก็ยังคงก่อเหตุอยู่ต่อไป เนื่องจากถูกล้างสมองจนไม่คำนึงถึงบาปในเดือนแห่งบุญของชาวมุสลิมแม้แต่น้อย

สำหรับความคืบหน้าการตามล่าคนร้ายลอบสังหาร นายรพินทร์ เรือนแก้ว ผู้พิพากษาศาลจังหวัดปัตตานี พ.ต.ต.อันธีร์ ก่ออารี สารวัตรเวร สภ.อ.เมืองปัตตานี ได้เบิกตัวนายอับดุลเลาะ ปะซี ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมมาเค้นสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อสาวไปถึงผู้บงการที่อยู่ เบื้องหลังรวมทั้งสถานที่คาดว่าจะเป็นแหล่งกบดานของ นายอับดุล กามะ นายบือราเฮง มามะ และนายอันนูวา กาซอ 3 ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับและยังหลบหนีอยู่ ขณะเดียวกัน ได้แจ้งข้อหานายอับดุลเลาะเพิ่มอีก 1 ข้อหาคือ ร่วมกันกระทำตนเป็นผู้ก่อการร้าย ใช้เวลาสอบปากคำนานกว่า 2 ชั่วโมง จึงนำตัวเข้าห้องควบคุมตามเดิม

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุม ครม.ถึงการเตรียมลงไปดูปัญหาพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อีกครั้ง ว่าจะเดินทางไปเพื่อดูงานและเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ จ.นราธิวาส เมื่อถามว่า พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่าจะต้องมีการหารือเพื่อปรับแผนกันอีกครั้งพ.ต.ท.ทักษิณตอบว่า พล.อ.ชวลิต เป็นประธาน สามารถเรียกประชุมและสั่งการได้ แต่ถ้าจะมาหารือกับตนก็ได้เลย แต่สถานการณ์ขณะนี้ก็คงต้องเพิ่มความเข้มขึ้นอีก ต้องใช้มาตรการที่ดุดันมากกว่านี้ คนดีต้องดูแลอย่างดี คนร้าย ก็ต้องร้ายด้วย ความจริงแล้วต้องดูเรื่องการบริหาร การจัดการ ซึ่ง พล.อ.ชวลิตต้องเรียก พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร รมว.กลาโหม นายโภคิน พลกุล รมว.มหาดไทย และนายจาตุรนต์ ฉายแสง รองนายกรัฐมนตรี มาวางแผนสั่งการก็จะสามารถเพิ่มน้ำหนักได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ดูเหมือนยิ่งปราบก็ยิ่งผุด นายก-รัฐมนตรีตอบว่า แน่นอน เพราะวันนี้ความจริงเปิดเผยหมดแล้วว่ามีครูสอนศาสนาบางคนไปเอาเด็กดีๆ ที่เรียนหนังสืออยู่ที่นั่นมาล้างสมอง และให้อุดมการณ์เรื่องการแบ่งแยกดินแดน อย่างกรณีเด็กที่อยู่ในทีมลอบสังหารนายรพินทร์ เรือนแก้ว ผู้พิพากษาศาล จ.ปัตตานี ก็รับสารภาพชัดเจนว่า ต้องฆ่าคนหนึ่งคนแล้วจะได้อาวุธมาใช้ มันเป็นวิธีการที่ถือว่าแย่มาก ดังนั้น ต้องทำทั้งประชาสัมพันธ์และชักชวนพ่อแม่ให้สังเกตลูก เพราะบางทีพ่อแม่ไม่รู้ว่าลูกถูกครูที่ใช้ไม่ได้สอนให้ทำอะไรไม่ดี ที่สำคัญต้องเข้าไปจัดระบบโรงเรียนปอเนาะทั้งระบบ คนดีไม่ต้องตกใจ

ส่วน พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รองนายก รัฐมนตรี ในฐานะรองประธาน กอ.สสส. ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ที่ยังคงมีความรุนแรงต่อเนื่องว่า เป็นห่วงอยู่ ถึงแม้ว่าจะมอบหมายให้ การแก้ปัญหาเป็นเอกเทศไปแล้ว แต่ก็ต้องรอดูการแก้ ปัญหาของผู้ที่รับผิดชอบโดยตรงก่อน รู้สึกห่วงปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มานานแล้ว เพราะขณะนี้กำลังกลายเป็นการรบในเมือง ไม่เหมือนการทำสงครามประชาชนสมัยคอมมิวนิสต์ที่เราเป็นประเทศเดียวในโลกที่เอาชนะได้ โดยการทำสงครามในเมือง รัฐบาลจะต้องทำจนชนะให้ได้ ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามรอคอยโอกาสและใช้เวลา ฝ่ายเราก็ต้องทำเวลาให้มันสั้นลง ต้องเอาการเมืองนำเป็นหลักเหมือนกับการต่อสู้ คอมมิวนิสต์ที่ใช้การเมืองนำ โดยต้องคำนึงถึงประชาชน แต่พอลงไปในพื้นที่จะต้องใช้ทหารนำ มันแล้วแต่พื้นที่ ถ้าเขาใช้การทหาร เราก็ต้องใช้การทหารนำเพื่อให้คุมสถานการณ์ได้ เพราะมวลชนจะอยู่กับผู้ชนะเท่านั้น

ด้าน พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ผบ.ทบ. เปิดเผยว่า ได้ไปเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถที่พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ เมื่อวันที่ 27 ก.ย. พระองค์ทรงแสดงความห่วงใยต่อประชาชนในพื้นที่มาก ทั้งนี้ ทางกองทัพบกมีแนวทางในการให้ความช่วยเหลือประชาชน คือการเปิดสอนยิงปืนเพื่อใช้ในการป้องกันตนเอง เพราะคนไทยเป็นนักสู้ ถ้าใครไม่ดี เราต้องสู้เพื่อป้องกันตนเองก่อน ลำพังกำลังเจ้าหน้าที่อาจดูแลไม่ทั่วถึง ถ้าชาวบ้านดูแลตนเองได้ กลุ่มไม่หวังดีก็จะไม่กล้าเข้ามาทำร้าย สำหรับภารกิจทหารตอนนี้หนักมาก เพราะกลุ่มต่างๆก่อเหตุกันในทุกพื้นที่ ยากที่จะระวังได้ทุกแห่ง จึงอยากจะให้มีทหารนอกเครื่องแบบมากกว่าในเครื่องแบบ เพื่อปฏิบัติภารกิจต่างๆได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือประชาชนจะต้องให้ความร่วมมือกับทางทหารให้เพิ่มมากขึ้น