Article 75


ล่ามือยิงผู้พิพากษา เคยฆ่าตร.

สืบเนื่องจากกรณี กลุ่มคนร้ายประกบยิง นายรพินทร์ เรือนแก้ว ผู้พิพากษาศาล จังหวัดปัตตานี เสียชีวิตขณะขับรถผ่านมาถึง กลางแยกสายโรงเหล้า กลางเมืองปัตตานี เมื่อช่วงเช้าวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ จับกุมนายอับดุลเลาะ ปะซี อายุ 20 ปี นักเรียนโรงเรียนเตรียมศึกษาวิทยา ยึดได้กระสุนปืน 9 มม.รวม 11 นัด ให้การซัดทอดถึงเพื่อนร่วมแก๊งอีก 2 คน คือนายอับดุล มูลอ อายุ 22 ปี และนายอาดือรัน บินสาริ อายุ 20 ปี ซึ่งเรียนอยู่ที่เดียวกัน จึงติดตามไปจับกุมตัวมาได้ทั้งคู่ โดยถูกแยกไปสอบปากคำที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี ส่วนนายอับดุลเลาะ ถูกแยกสอบเดี่ยวที่ สภ.อ.เมืองปัตตานี เพื่อขยายผลไปถึงกลุ่มคนร้ายที่บงการอยู่เบื้องหลัง โดยมี พ.ต.ท.อรุณ กุลสิรวิชย์ รอง ผกก.สส. และ พ.ต.ต. อันธีร์ ก่ออารีย์ สารวัตรเวร สภ.อ.เมืองปัตตานี ร่วมกันสอบปากคำ

เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการสอบปากคำนายอับดุลเลาะ ปะซี ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. ชนิดข้ามคืนก็สิ้นสุดลง โดยนายอับดุลเลาะให้การรับสารภาพว่า ตนเองมีหน้าที่ชี้เป้าหมายคือนายรพินทร์ ให้กับ 2 มือปืนทำหน้าที่ตามสังหารเหยื่อ คือนายอับดุล หามะ อายุ 21 ปี ทำหน้าที่เป็นมือปืน ส่วนนายบือราเฮง มามะ อายุ 21 ปี ทำหน้าที่เป็นคนขี่รถ จยย. ซึ่งทั้ง 2 คน มีประวัติถูกออกหมายจับคดีลอบวางระเบิดหน้าบริษัทพิธานพาณิชย์ ใน จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 5 ม.ค. ที่ผ่านมา ทำให้ตำรวจเสียชีวิตไป 2 นาย โดยหลังก่อคดีวางระเบิดก็ยังก่อคดีในทำนองเดียวกันอีกหลายแห่ง จนกระทั่งมาก่อคดีฆ่าผู้พิพากษาศาลจังหวัดปัตตานี ส่วนเพื่อนอีก 2 คน ที่ถูกจับมีหน้าที่หาข้อมูลและสะกดรอยตามผู้ตายเท่านั้น

หลังทราบรายละเอียดทั้งหมดแล้ว ทาง พ.ต.ท.อรุณ กุลสิรวิชย์ รอง ผกก.สส.รายงานให้ทาง พล.ต.ต.ไพฑูรย์ พัฒนโสภณ ผบก.ภ.จ.ปัตตานีทราบ ก่อนจะรวบรวมเอกสารหลักฐานคำให้การ ของผู้ต้องหารายนี้ไปขออนุมัติจากศาลจังหวัดปัตตานี ออกหมายจับผู้ต้องหาคดีร่วมกันฆ่านายรพินทร์ รวม 3 คน คือ นายอับดุลเลาะ ปะซี อยู่บ้านเลขที่ 57/1 หมู่ 1 ต.ปะกาฮารัง อ.เมืองปัตตานี ตามหมายจับเลขที่ 362/2547 นายอับดุล หามะ ซึ่งเป็นมือปืนบ้านอยู่ตำบลเดียวกัน ตามหมายจับที่ 363/2547 และนายบือราเฮง มามะ คนขี่รถ จยย.ให้มือปืนตามหมายจับเลขที่ 364/2547 โดยแจ้งไปทุกท้องที่และด่านตรวจคนเข้าเมืองทุกแห่ง โดยเฉพาะที่ อ.สะเดา จ.สงขลา สกัดการหลบหนีออกนอกประเทศ แต่ยังไม่พบวี่แวว

ต่อมาเวลา 13.00 น. วันที่ 18 ก.ย. พ.ต.ท.อรุณ พร้อมกำลัง คุมตัวนายอับดุลเลาะ ปะซี ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับเป็นคนแรกในคดีสังหารผู้พิพากษาฯ เดินทางไปศาลจังหวัดปัตตานี เพื่อขออำนาจผัดฟ้องฝากขังมีกำหนด 12 วัน โดยคัดค้านการประกันตัวและขอคุมตัวกลับไปสอบสวนที่โรงพัก เนื่องจากยังต้องสอบสวนในบางประเด็นเพิ่มเติม ศาลพิจารณาแล้วอนุมัติตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจร้องขอคุมตัวกลับมาคุมขังไว้ตามเดิม โดยแยกขังเดี่ยวและสั่งห้ามเยี่ยมอย่างเด็ดขาด นอกจากนี้ ยังจัดกำลังนอกเครื่องแบบเข้าไปเฝ้าประกบ เพราะเกรงว่าอาจจะทำร้ายตัวเองเพื่อหนีความผิด ในส่วนของผู้ต้องหาอีก 2 คน ซึ่งถูกจับไปสอบสวนที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร จากการเปิดเผยของชุดสืบสวนระบุว่ายังอยู่ในระหว่างการเค้นสอบขยายผลอยู่ โดยมีข้อมูลที่น่าสนใจหลายประเด็นแต่ยังเปิดเผยไม่ได้

ส่วนที่ รพ.ปัตตานี นายโภคิน พลกุล รมว.มหาดไทย พร้อมคณะเดินทางไปคารวะศพ นายรพินทร์ พร้อมทั้งปลอบใจนางดวงนภา เรือนแก้ว ภรรยาของนายรพินทร์ ที่อุ้มลูกชายคนเล็กวัยขวบเศษซึ่งนั่งอยู่เบาะหลังในรถคันที่ผู้เป็นพ่อถูกยิงไว้แนบอก ร่ำไห้ด้วยความเศร้าเสียใจที่ต้องมาสูญเสียผู้นำครอบครัว ทั้งนี้นายโภคิน สั่งการให้ พ.ต.อ.โพธิ สวยสุวรรณ ผกก.สภ.อ.เมืองปัตตานี จัดกำลังตำรวจคอยคุ้มกันนางดวงนภาและครอบ ครัวตลอด 24 ชม. ทั้งที่บ้านและที่ทำงานด้วย สำหรับศพของนายรพินทร์ ซึ่งถูกคลุมทับด้วยธงชาติไทยอย่างสมเกียรติ จะเคลื่อนไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดหงส์ประดิษฐาราม หรือวัดคอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยจะมีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพในเวลา 16.30 น. วันเดียวกัน

จากนั้น รมว.มหาดไทยขึ้นไปเยี่ยมอาการบาดเจ็บของกลุ่มเยาวชนจาก จ.นราธิวาส ซึ่งเดินทางไปทัศนศึกษาทางภาคเหนือ แต่มาประสบอุบัติเหตุช่วงขากลับในพื้นที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมา ทำให้เยาวชนเสียชีวิตไป 2 ราย บาดเจ็บอีก 6 คน โดยทาง รมว.มหาดไทยมอบกระเช้าของขวัญเพื่อเป็นการปลอบขวัญ และกำชับแพทย์ให้ดูแลรักษาอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ นายโภคิน กล่าวถึงคดีนายรพินทร์ว่า กลุ่มคนร้ายเริ่มเปลี่ยนเป้าหมายมาเล่นงานข้าราชการระดับสูงมากขึ้น สำหรับผู้ตายเป็นคนที่มีประวัติการทำงานดีมาตลอด เป็นที่รักใคร่ของข้าราชการร่วมสังกัดตลอดจนชาวบ้าน ที่เคยมาติดต่อราชการ ส่วนชนวนเหตุที่ทำให้ ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มคนร้ายครั้งนี้ เชื่อว่าน่าจะมาจากเรื่องที่ผู้ตายทำหน้าที่ตัดสินคดีเกี่ยวกับความไม่สงบในภาคใต้หลายคดี อาจจะทำให้กลุ่มโจรไม่พอใจ เลือกเป็นเป้าสังหารหมายจะสร้างผลงาน และสถานการณ์ให้รุนแรงมากขึ้น

ขณะเดียวกัน การเสียชีวิตของผู้พิพากษาศาล จังหวัดปัตตานี ได้ก่อให้เกิดปฏิกิริยาอย่างรุนแรง จากหลายฝ่าย โดยนายจรัญ ภักดีธนากุล เลขาธิการประธานศาลฎีกา กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องใหญ่ ที่กระทบต่อความรู้สึกไม่ปลอดภัย ในชีวิตและทรัพย์สิน กระทบต่อกระบวน การศาลสถิตยุติธรรม โดยนายอรรถนิติ ดิษฐอำนาจ ประธานศาลฎีกา แสดงความเป็นห่วงเป็นใย ต่อความปลอดภัย ของผู้พิพากษาและเจ้าหน้าที่ทุกคน สำหรับผู้ตายเป็นคนดีซื่อสัตย์ อยู่ในภาคใต้มานาน 6 ปีแล้ว คือศาลจังหวัดนราธิวาส 4 ปี และศาลจังหวัดปัตตานี 2 ปี ไม่คิดว่าจะมาถูกยิงเสียชีวิตง่ายๆแบบนี้

"การที่ท่าน รมว.กลาโหมออกมาพูดในทำนองว่าผู้ตายประมาทไม่ยอมขอกำลังคุ้มกันนั้น ตรงนี้อยากจะเรียนว่าการที่ผู้ตายไม่มีศัตรูที่ไหน และยังเป็นการเดินทางในเขตชุมชนเมืองจึงไม่น่าจะเป็นอะไรนั้น ไม่ใช่เป็นความประมาทของผู้ตาย เพราะในเขตชุมชนเมืองเต็มไปด้วยทหารและตำรวจ แต่ยังปล่อยให้เกิดเหตุร้ายแรงขึ้น ตรงนี้น่าจะพูดถึงมากกว่า" นายจรัญกล่าว

ด้าน พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่นายจรัญ ออกมาแสดงความไม่พอใจเกี่ยวกับการให้สัมภาษณ์ของตนเอง พร้อมขอความเป็นธรรมให้กับนายรพินทร์ ว่า ไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ เป็นการกระทำของคนร้ายที่อุกอาจมาก อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติงานในพื้นที่ภาคใต้ไม่ว่า ตำรวจ ทหาร หรือฝ่ายปกครองก็จะต้องดูแลเป็นพิเศษ จึงได้กำชับว่าเวลาไปไหนขอให้ไปแบบคู่บัดดี้ เพราะไปคนเดียวเวลาเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมาก็มักจะเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ และหาตัวคนที่กระทำผิดไม่ได้

"บางอย่างจะต้องลดความสะดวกของประชาชนในพื้นที่เพื่อให้เกิดความสงบสุขเป็นส่วนร่วม เช่นการห้ามซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ รวมทั้งต้องศึกษาจุดด้อยต่างๆนำมาแก้ไขกันต่อไป" พล.อ.เชษฐา กล่าว

ด้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านรายการ "นายกฯทักษิณคุยกับประชาชน" ออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย และเครือข่ายกรมประชาสัมพันธ์เมื่อช่วงเช้าวันที่ 18 ก.ย.ในเรื่องเดียวกันนี้ว่า ว่า นายรพินทร์เป็นคนดีมาก มีความกล้าหาญ ทำงานอย่างตรงไปตรงมา ตัดสินคดีโดยยึดหลักกฎหมาย แต่ อาจจะสร้างความไม่พอใจให้กับผู้ที่คิดก่อการไม่สงบและแบ่งแยกดินแดนในภาคใต้ ซึ่งขณะนี้จับตัวคนร้ายได้แล้วบางส่วน จากการสอบสวนได้ข้อมูลมากมาย ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้พิพากษาท่านนี้มาก และให้นายโภคินเดินทางไปร่วมแสดงความเสียใจแทน ขณะนี้รัฐบาลพร้อมดูแลขวัญและกำลังใจต่อครอบครัว อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ภาคใต้ขณะนี้ดีขึ้นมากแล้ว แต่เหตุการณ์การลอบลงมือเช่นนี้ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง จึงต้องช่วยกันคุ้มครอง และต้องไม่ประมาท หากใครที่รู้ตัวว่าอันตรายต้องใช้ความระมัดระวัง พร้อมกับขอความคุ้มครองได้ทุกคน

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ยังมีครูสอนศาสนาจำนวนหนึ่งในโรงเรียนปอเนาะ มีอุดมการณ์แบ่งแยกดินแดนและปลูกฝังเด็ก อีกทั้งไปเลือกเอาเด็กที่เรียนหนังสือเก่งทั้งนั้นโดยที่พ่อแม่ไม่รู้เรื่อง พวกนี้จะจับเด็กสาบานและให้เด็กไปลอบทำร้ายข้าราชการหรือคนที่ช่วยทางราชการ เพราะไม่ต้องการให้ใครเป็นพวกเดียวกับทางราชการ เรื่องนี้เป็นเรื่องเลวร้าย เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้ความอดทนในการดำเนินการ เพราะหากทำอะไรเลยเถิดก็จะผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ และถูกประณาม ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงทำงานลำบากและเสียชีวิตไปหลายคน จึงขอให้เห็นใจและเข้าใจเจ้าหน้าที่ด้วย รัฐบาลจะพยายามทำเรื่องนี้ให้จบโดยเร็ว ที่ผ่านมาเราปล่อยปละละเลยให้โรงเรียนปอเนาะสอนคำเชื่อผิดๆมานานแล้ว การแก้ไขจึงต้องใช้เวลาพอสมควร

ที่วัดหงส์ประดิษฐาราม (วัดคอหงส์) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อเวลา 16.30 น. นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์อัญเชิญ พวงมาลา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถมาตั้งวาง หน้าหีบศพของนายรพินทร์ เรือนแก้ว ผู้พิพากษาศาลจังหวัดปัตตานี ที่ถูกยิงเสียชีวิต พร้อมทั้งเป็นประธานในพิธี พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ โดยมีนายชัช ชลวร เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม นายเรวัต ฉ่ำเฉลิม อัยการสูงสุด พล.ท.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี แม่ทัพภาคที่ 4 นายชลิต กฐินะสมิต อธิบดีผู้พิพากษาภาค 9 รองผวจ.สงขลา เพื่อนข้าราชการ และประชาชนกว่า 500 คนมาร่วมไว้อาลัยและแสดงความเสียใจต่อนางดวงนภา เรือนแก้ว ภรรยาของนายรพินทร์ ท่ามกลางบรรยากาศที่น่าเศร้าสลด โดยเฉพาะภาพลูกสาววัย 3 ขวบ และลูกชายวัยขวบครึ่งของนายรพินทร์ที่ยังไร้เดียงสาทั้งคู่

นายชัช ชลวร กล่าวว่าในวันที่ 19 ก.ย. จะมีการประชุมเพื่อหามาตรการ รักษาความปลอดภัยให้กับผู้พิพากษาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่โรงแรมลีการ์เด้นท์พลาซ่า อ.หาดใหญ่ ซึ่งในเบื้องต้นได้ประสานกับตำรวจท้องที่จัดกำลัง 1 นาย คอยคุ้มกันผู้พิพากษา 1 คน สำหรับการเสียชีวิตของนายรพินทร์ ถือเป็นความสูญเสียบุคลากร ที่มีคุณค่าของวงการตุลาการเป็นอย่างยิ่ง โดยจะมีการพิจารณาเลื่อนขั้นเป็นผู้พิพากษาระดับ 4 รวมทั้งจะดูแลเรื่องสวัสดิการเพื่อช่วยเหลือครอบครัวต่อไป ส่วนคดีความไม่สงบทางภาคใต้จะเสนอให้โอนคดีขึ้นมาตัดสินที่กรุงเทพฯแทน

ด้านนายชลิต กล่าวว่า พูดคุยกับนางดวงนภาแล้ว ระบุว่ายังหวาดกลัวอันตรายที่อาจจะตามมา จึงมีคำสั่งย้ายให้มาช่วยราชการใน จ.สงขลา ตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย.เป็นต้นไปขณะที่ พล.ท.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวเพียงสั้นๆว่า กลุ่มคนร้ายที่ลงมือในครั้งนี้ มีอุสตาซ บางคนเสี้ยมสอนให้หลงทำผิด ซึ่งพอจะทราบตัวแล้วว่ามีใครบ้าง อยู่ในระหว่างติดตามล่าตัวมาดำเนินคดีทั้งหมด.