Material Wealth and Wealth of
Personhood
Word Frequency:
numerical
alphabetical;
Concordance
Complete Audio:
part 1,
part 2;
Complete Text;
Thesis
Material Wealth |
มนุษย์สมบัติ | |
1. May progress in the dhamma be to you, rector, faculty, and
students who have interest in the dhamma, all of you. Today I will speak on
the topic "material wealth and wealth of personhood"----which one gives more
happiness and peace to our lives. Ay! Material wealth and wealth of
personhood--what's this? |
1. ขอ ความเจริญ ใน ธรรม จง มี แด่ ท่าน อธิการ คณาจารย์ และ นักศึกษา ที่ มี ความสนใจ ธรรม ทุก ท่าน วันนี้ จะ ได้ กล่าวถึง เรื่อง "ทรัพย์สมบัติ" กับ "มนุษย์สมบัติ" อันไหน สร้าง ความสุขสบายใจ ให้ กับ ชีวิต ของ เรา มากกว่า กัน เออ ทรัพย์สมบัติ กับ มนุษย์สมบัติ เนี่ย | |
2. It's true that people like to say, "There is wealth and
there is merit"--which one is better? [5] In reality the two must go
together. The Buddha did not teach us to throwaway material wealth. He
taught" "Don't love it" He taught, "Don't get enchanted with material
wealth." He added one more thing. He called it "wealth of personhood." In
the language of the temple it's called "Higher wealth." |
2. ก็ เป็น ของ ที่จริงแล้ว คน ชอบ ตั้ง หัวข้อ กัน ว่า "มี ทรัพย์ กับ มี คุณธรรม อันไหน ดีกว่า กัน" ที่จริงแล้ว ตัอง ไปด้วยกัน พระพุทธศาสนา ไม่ ได้ สอน ให้ ทิ้ง ทรัพย์สมบัติ แต่ ก็ ไม่ สอน ว่า อย่า มัวเมา ท่าน ก็ สอน ว่า อย่า มัวเมา ใน ทรัพย์สมบัติ ให้ มี อีกอย่างหนึ่ง เข้ามา เสริมไว้ เขา เรียก "มนุษย์สมบัติ เรียก ภาษาวัด ว่า "อริยทรัพย์" | |
3. Ay!--this material wealth is of two kinds. There is that
which we seek, meaning transportable wealth and intransportable wealth, the
wealth which is moveable and the wealth which cannot be moved. Moveable
wealth, for example, is gems, rings, money, gold, elephants, horses, cows,
buffalo, jewelry, diamonds, and precious stones. [10] The type of wealth
which cannot be moved is one's house and land. This wealth is called "a
thing that gives happiness." Whoever has gems, rings, silver, gold,
elephants, horses, cows, buffalo, houses, diamonds, precious gems--he has
happiness. |
3. ทรัพย์สมบัติ นี้ มี อยู่ ๒ อย่าง ที่ เรา แสวงหา กัน มาก ก็คือ สังหาริมทรัพย์ และ อสังหาริมทรัพย์ ทรัพย์ ที่ เคลื่อนที่ ได้ กับ ทรัพย์ ที่ เคลื่อนที่ ไม่ ได้ ทรัพย์ ที่ เคลื่อนที่ ได้ ก็ ได้แก่ แก้วแหวนเงินทอง ช้าง ม้า วัว ควาย เครื่องประดับ เพชรนิลจินดา ส่วน ทรัพย์ ที่ เคลื่อนที่ ไม่ ได้ ก็ ได้แก่ บ้านช่อง ที่ดิน นี่ ทรัพย์ เนี่ย ท่าน แปลว่า "เครื่อง ปลื้มใจ" ใคร มี แก้วแหวนเงินทอง ช้าง ม้า วัว ควาย บ้าน เช็ค เพชรนิลจินดา ก็ ปลื้มใจ | |
4. Our group comes together to study many things so that we
can have things that give happiness, you know. But we don't know if we we
get happiness or not. Will there be work for us to do after we graduate or
not? Still some of us are confused. And even if we do find work, If we don't
have wealth of personhood, we might still make mistakes, experience
disappointments, and not receive any more material wealth. |
4. งั้น พวกเรา ที่ มา ร่ำเรียน กัน เหลือเกิน นี่ ก็ เพื่อ จะ ได้ เครื่อง ปลื้มใจ นะ แต่ ไม่รู้ ว่า จะ ปลื้ม ได้ หรือเปล่า มี งาน ให้ ทำ หรือเปล่า ก็ ยัง สงสัย กัน อยู่ นะ หรือว่า บางที หา งาน ทำ ได้ แล้ว ถ้า ไม่ มี มนุษย์สมบัติ ก็ ยัง มี การ ผิดพลาด เสียหาย ไม่ ได้ ทรัพย์สมบัติ อีก เยอะแยะ | |
5. Ay!--Material wealth--sometimes we have found it already.
Sometimes we sit and worry about robbery, fires, floods. [15] Some of these
people sit and worry exceedingly about this material wealth. When they get
it, they put it in a safe. Then they come and sit and worry about the safe.
(Someone) tells them, "Come and listen to the monks." They reply "I can't
go--I have to sit and worry about the safe:" This group dies. This group's
spirits can't go live in their safes any more! They are worried about their
safes, you know! |
5. ไอ้ ทรัพย์สมบัติ เนี่ย หา มา แล้ว บางที ก็ มา นั่ง ห่วง โจร ปล้น ไฟไหม้ น้ำท่วม ได้ บางคน นี่ นั่ง ห่วง เหลือเกิน เจ้า ทรัพย์สมบัติ เนี่ย หา มา แล้ว มา นั่ง ใส่ เก๊ะ แล้ว ก็ มา นั่ง ห่วง เก๊ะ บอก ไม่ ไป ฟัง พระ เทศน์ บ้าง รึ บอก ว่า ไป ไม่ ได้ ห่วง เก๊ะ พวกนี้ ตาย แล้ว ไม่ ไปไหน วิญญาณ ติด อยู่ ใน เก๊ะ นั่นหล่ะ นั่ง ห่วง เก๊ะ น่ะ | |
6. Aw! Being enchanted by material wealth will destroy wealth
of personhood. Not long ago we heard some news, didn't we? In Korat a female
teacher invested in hiring (someone) to kill her older brother--her own
blood kin--because she wanted the life insurance money--only this one thing.
[20] This just here because we are excessively enchanted with seeking
material wealth. And we don't know when enough is enough. |
6. แล้ว ทรัพย์ สมบัติ ถ้า คน มัวเมา เนี่ย มัน จะ เสีย มนุษย์สมบัติ อย่าง เมื่อ ไม่ นาน เรา จะ ได้ยิน ข่าว ใช่ไหม ว่า ที่ โคราช ครู ผู้หญิง คนหนึ่ง ลงทุน จ้าง ฆ่า พี่ชาย ร่วม สายโลหิต ของ ตัวเอง เพื่อ จะ เอา เงินประกันชีวิต เพียง ล้าน เดียว นี่ เพราะว่า ถ้า เรา มัว แต่ แสวงหา แต่ ทรัพย์สมบัติ กัน เกิน ไป เนี่ย มัน ก็ ไม่ ไหว | |
7. Aye--Humans don't know what is adequate--and this material
wealth they seek more, want more. Give someone two mountains of gold and it
still isn't enough for one person--one alone. Make every drop of rain be
five baht coins and it still won't be enough. There would have to be more.
People would say that it should be raining 100 baht bills. If it really
rained 100 baht bills, people would want there to be purple rain--rain 500
baht bills--every drop. [25] |
7. แต่ มัน ไม่ มี พอ หรอก ไอ้ เจ้า มนุษย์ ไอ้ เจ้า ทรัพย์สมบัติ นี่นะ ยิ่ง หา ยิ่ง อยาก ได้ ให้ ภูเขา กลาย เป็น ทองคำ ไป ๒ แท่ง ก็ ยัง ไม่ พอ ต่อ ความ ต้องการ ของ คน เพียง คนเดียว ให้ ฝน หยด ลงมา เป็น เหรียญ ห้า บาท ทุก เม็ด มัน ก็ ยัง ไม่ พอ มัน ก็ ต้อง เขยิบ มัน น่า จะ ร่วง มา ที ละ ร้อย ถ้า มัน ย้อย ลง มา ได้ ทีละ ร้อย จริงๆ มัน ก็ ต้อง นึก ขยับไป อีก ว่า มัน น่า จะ ร่วง ลงมา เป็น สี ม่วง ทุก เม็ด นะ นี่แหละ มัน จึง เสียท่า แม่ชม้อย (ฮา) | |
8. Everyone wants to be rich, so they are easily deceived by
usurers who promise better rates for investment--up to 20% of the
principal--than normal banks. In the end, they not only don't get any
interest, but they lose even the principal. |
8. เพราะ มัน อยาก ได้ ร้อยละ ยี่สิบ นะ มัน ห่วง ดอก มากเกินไป มัน เลย เสียต้น | |
9. It's like a man who plants durian. He sees that his durian
tree has many flowers, but rather than pruning the excess flowers he hopes
for a bumper crop. In the end, he gets nothing since an unpruned durian tree
will die before the fruit is ripe. |
9. เขา บอก ใคร ปลูก ทุเรียน เนี่ย ถ้า ออกดอก มาก เขา ต้อง ตัด ดอก ทิ้ง นี่ บ้า ดอก เลย ต้น ตาย หมด นะ สมน้ำหน้า มัน นะ มัน อยาก บ้า แต่ ทรัพย์สมบัติ | |
10. Aw! Now don't play around with the words "wealth of
personhood." This is very important. Some people don't have any property.
But if they have wealth of personhood, they have a chance at being happy. |
10. เอ๊า ตา นี้ อย่า ทำเป็นเล่น กับ คำว่า "มนุษย์สมบัติ" เนี่ย สำคัญ มาก บางคน ไม่ มี สิ้นเนื้อประดาตัว ไม่ มี ทรัพย์สมบัติ ติดตัว แต่ ถ้า มี มนุษย์สมบัติ ดี บางที ก็ มี ความสุข ได้ | |
11. I (Rev.) myself have given up all my material property
such that I have only my own body. But I have wealth of personhood. Some
times when I go places I don't have to pay the transportation cost. [30] On
airplanes I don't have to pay. I go abroad and get a free seat, you know. I
don't have material wealth, but I go by the power of wealth of personhood. |
11. อาตมา เอง นี่ มา นึก ตอนหลัง นี้ ขาย ที่ หมด ทรัพย์สมบัติ นี่ ขาย หมด เหลือ แต่ ตัว แต่ว่า มี มนุษย์สมบัติ บางที เขา นิมนต์ ไปไหนต่อไหน รถ ก็ ไม่ ต้อง ออก ค่า เครื่องบิน ก็ ไม่ ต้อง ออก ไป เมืองนอก ก็ นั่ง ฟรี นะ ไม่ มี ทรัพย์สมบัติ แต่ ไป ด้วย อำนาจ ของ มนุษย์สมบัติ | |
12. I want to you to remember this. The day will come when you
won't be able to pay with material wealth because you won't have it. You
will only have this wealth of personhood. |
12. งั้น ก็ อยาก จะ ฝากให้ ช่วย รับ ไว้ มั่ง วันนี้ จะ มา แจก ทรัพย์สมบัติ ก็ ไม่ ได้ หรอก พระ ไม่ มี จะ แจก ก็ ได้ แต่ มนุษย์สมบัติ | |
13. There are seven commandments--do you know what they
translate as? We call these "Higher Wealth," which means something that can
give us happiness--the seven commandments are like this. [35] |
13. มี อยู่ ๗ ประการ ซึ่ง แปลว่า อะไร รู้ ไหม เขา เรียกว่า "อริยทรัพย์" แปลว่า เครื่อง ปลื้มใจ ได้ เหมือนกัน ๗ ประการ | |
14. Higher wealth means the wonderful merit that is in our
hearts and makes us have the things which makes happiness. You can keep it
within yourself. If you have it, you will be able to wai yourself out
of self-respect. Those that live near to you can wai you as well.
They will say that we have wealth of personhood, you know. |
14. อริยทรัพย์ แปลว่า คุณธรรม อัน ประเสริฐ ที่ เกิดขึ้น ใน หัวใจ ของ เรา จน เรา ปลื้มใจ ยกมือ ไหว้ ตัวเอง ได้ ใคร ที่ อยู่ ใกล้เคียง เรา มัน ก็ ปลื้มใจ ยกมือ ไหว้ ตัวเรา ได้ อย่าง สนิทใจ เนี่ย เขา เรียกว่า เรา มี มนุษย์สมบัติ นะ | |
15. There are seven kinds of this, you know. Write some of
this down! The monk's stuff--you don't want to take lecture notes, do you?
[Laughter]--Aw!--why?--Aw! |
15. มี อยู่ ๗ อย่าง นะ...เตรียม จด บ้าง สิ ที ของ พระ ละ ก็ ไม่ อยาก จะ เลคเชอร์ ไว้ บ้าง หละ (ฮา) | |
16. The first one talks about belief being a thing that leads
wealth of personhood. Because this belief, you know, has spoken words that
are nice, beautiful--this really lives in those spoken words, you know. |
16. เอ้า ทำไม ท่าน เอา ข้อ ๑ ด้วยว่า ศรัทธา มา เป็น เครื่อง นำ มนุษย์สมบัติ เพราะว่า ศรัทธา เนี่ย มี คำพูด ที่ ไพเราะ เพราะพริ้ง และ ก็ เป็น ความจริง อยู่ ใน คำพูด นั้น | |
17. They say, "Belief is the mother of many dhamma merits."
This mother is certainly able to care for many children--five or ten of
them. [40] When belief is born in the heart of one, it is able to give birth
to all the other dhamma merits--five more, ten more, however many. |
17. เช่น คำว่า "ศรัทธา" เป็น มารดา ของ คุณธรรม ทั้ง หลาย "แม่" หรือ มารดา เนี่ย คนหนึ่ง สามารถ คลอดลูก ได้ ห้า คน สิบ คน ได้ ฉันท์ใด ศรัทธา เกิดขึ้น แล้ว ใน หัวใจ ข้อ นึง ก็ สามารถ คลอด คุณธรรม อื่นๆ ได้ อีก ห้า ข้อ สิบ ข้อ ได้ ฉันท์นั้น | |
18. If you ask, "Can belief give birth to effort?"-- It
can!--if a person has belief, effort, endurance, and patience. |
18. ถ้า ถามว่า ศรัทธา เกิด ความ ขวนขวาย ได้ไหม ได้สิ ถ้าหาก คน มี ศรัทธา แล้ว ความ ขวนขวาย ความ อดทน ความ พยายาม | |
19. Aw sii--look, it all follows. If we have perseverance,
make an effort, we will graduate. Then we will be able to return home--or
maybe stay and get work somewhere else. |
19. ตามมา หมด พวกเรา เนี่ย พยาย๊าม บางคน เนี่ย ขวนขวาย แหม จบ... เรียน จบ แล้ว จะ กลับบ้าน ก็ ยัง ไม่ กลับ ขวนขวาย อยาก จะ ฟัง เนี่ย เพราะ แรง ศรัทธา | |
20. Because we believe, you know. Sometimes our goal seems far
away, but if we believe we still can go with strength of belief. |
20. แหม บางที ไกล แสน ไกล ถ้า เรา ศรัทธา | |
21. Some of these people--I [Rev.] go lecture far, far
away--out of my province. I go lecture, go to America. Some people sitting
in the plane come along to listen. Others come by car, driving four, six
hours. Ask them, "What motivated you to come?" "Belief." |
21. หลวงปู่แหวน มรณภาพ คน ศรัทธา มัน ยัง ไป ไป ด้วย แรง ความ ศรัทธา บางคน เนี่ย อาตมา ไป บรรยาย ไกลๆ ต่าง จังหวัด ไป บรรยาย ไป อเมริกา บางคน มัน นั่ง เครื่องบิน มา ฟัง นั่ง รถ มา ฟัง ๔ ชั่วโมง ๖ ชั่วโมง ขับ มา ถามว่า อะไร ผลักดัน ให้ มา..."ศรัทธา" | |
22. Ay--some people answer very stupidly, "The car made me
come." [45] [Laughter] You know--but if the owner of that vehicle didn't
believe. A car couldn't force someone to come. Do cars forces people to
enter bars, enter brothels, cinemas? |
22. ไอ้ บางคน มัน ตอบ โง่ ๆ ว่า "รถ ดัน มา" (ฮา)... นะ แต่ถ้า เจ้าของ รถ มัน ไม่ ศรัทธา มัน ก็ ไม่ ดัน ไป หรอก มัน ก็ ไป ดัน เข้า บาร์ เข้า บ่อน เข้า โรงหนัง โรงละคร ไป | |
23. And one more meaning. The saying, "Belief is the principle
of many dhamma merits." |
23. และ อีก คำ หลาย คำ เช่นว่า "ศรัทธา เป็น ต้นทุน ของ คุณธรรม ทั้งหลาย" | |
24. You know of a certainty that when rain falls the grass
grows. [50] We people are the same. If we have belief, growth will follow,
you know. |
24. ศรัทธา เป็น เสมือน ฝน ที่ โปรย ลงมา ใน นา หน้าแล้ง นา แห้งๆ ถ้า พอ ฝน โปรย ลงมา เนี่ย หญ้า นี่ โอโฮ งอก หญ้า งอก พืช งอก ฉันท์ใดก็ฉันท์นั้น คน เรา ก็ เหมือนกัน ถ้า มี ศรัทธา คุณธรรม อื่นๆ ก็ งอก ตามมา นะ | |
25. If we live with our father and our mother, believe our
father and mother, live with our father and mother like that we will have
gladness of heart. |
25. งั้น ถ้า เรา อยู่ กับ พ่อ กับ แม่ เรา ศรัทธา พ่อแม่ เรา ก็ เหมือนกับ ฝน โปรย ลงมา ชุ่มฉ่ำ หัวใจ ศรัทธา พ่อแม่ แล้ว อยู่ กับ พ่อแม่ อย่าง ชุ่มฉ่ำ หัวใจ | |
26. But if we do not believe our father, mother--whoever is
without belief is like summer rain [rain of drought=no real rain]. It is
like they live in a dry field with hearts that are dry. |
26. แต่ ถ้า ไม่ ศรัทธา พ่อแม่ ถ้า คนไหน ขาด ศรัทธา เหมือน กับ ฝนแล้ง เหมือนกับ ไป ยืน อยู่ ใน นา หน้าแล้ง | |
27. Such people may live with their father and mother-- but
they don't believe them. They are not fresh when they come to school--don't
believe teachers or professors. [55] It is sticky dryness, you know. About
teachers they say, "I'm grown up already--why should I have to come and
wai1 the teachers?" |
27. จิตใจ เหี่ยวแห้ง อยู่ กับ พ่อแม่ ก็ ไม่ ศรัทธา ก็ เหี่ยวแห้ง มา โรงเรียน ไม่ ศรัทธา ครูบาอาจารย์ มัน ก็ เหี่ยวแห้ง นะ บอก ให้ ไหว้ ครู "โต แล้ว ทำไม ต้อง มา ไหว้" | |
28. Oh hoy!--Regardless of how old we are, we always have
teachers. It's not only children who need to
wai. When we're grown up--just this here--we must come and
wai a lot to be an example for the children. |
28. โธ่เอ๋ย แก่ แค่ไหน มัน ก็ ต้อง มี ครู นั่น ไม่ ใช่ มา ไหว้ แต่ เฉพาะ เด็ก ยิ่ง โต นั่นแหละ จะ ยิ่ง ต้อง ไหว้ มากขึ้น เพื่อ เป็น แบบอย่าง แก่ เด็ก | |
29. Even teachers are the same--before they are waied
by students, teachers should remember to wai their own teachers, you
know. [Laughter] |
29. แม้แต่ ครู เอง ก็ เหมือนกัน ก่อน ที่ ลูกศิษย์ จะ ไหว้ ก็ ควร จะ นึก ไหว้ ครู ของ ตัวเอง บ้าง (ฮา)... | |
30. Before you go to sleep do you wai five times?
Wai the Buddha, the dhamma, the monks,
wai your father, wai your mother, wai your teachers
and professors. |
30. ก่อน นอน เคย ไหว้ ๕ ครั้ง หรือ เปล่า ไหว้ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ไหว้ พ่อ ไหว้ แม่ ไหว้ ครูบาอาจารย์ | |
31. Ah!--we have students and we have teachers, you know. |
31. อื้อ เรา ก็ มี ศิษย์ มี ครู นะ | |
32. Aw!--When we believe this, we are able to get along with
anyone. We will have gladness of heart when we wai our teachers. |
32. เอ๊า เนี่ย พอ ศรัทธา แล้ว เนี่ย มัน ทำให้ เรา อยู่ กับ ใคร ชุ่มฉ่ำ ไหว้ ครู ก็ ไหว้ อย่าง ชุ่ม หัวใจ | |
33. Oh-some of these kids--they are bad. [60] They don't
believe teachers or professors. They come to school with dryness of heart. |
33. ไอ้ เด็ก บางคน เนี่ย มัน เลว มัน ไม่ ศรัทธา ครูบาอาจารย์ มัน ก็ มา โรงเรียน อย่าง แห้งแล้ง หัวใจ | |
34. It's to the point where some of these girls have no belief
and can actually say this: "Studying is a headache--it would be better to
just get a husband." |
34. จน มี เด็กหญิง บางคน เนี่ย พูด ออกมา ได้ "ไม่ ศรัทธา...เรียน ไป ก็ ปวด หัว มี ผัว ดีกว่า" | |
35. These people are lost. They study with dryness of heart,
you know. |
35. คน เรา ลอง มัน ไม่ ศรัทธา มัน ก็ เรียน อย่าง แห้งแล้ง หัวใจ นะ | |
36. Aw!--Thus this belief--what sort of potential and
effectiveness does it give rise to? We believe in our college. We believe in
our college institution. [65] This-- they call the assembly to do something
and we expend effort and want to work together. If one person doesn't
believe it makes everything rotten. |
36. เอ้า งั้น ศรัทธา เนี่ย มัน ทำ ให้ เกิด ศักยภาพ สมรรถภาพ ประสิทธิภาพ อะไร เรา ลอง ศรัทธา มหาวิทยาลัย เรา ลอง ศรัทธา สถาบัน วิทยาลัย ของ เรา เนี่ย ถ้า เขา เรียกร้อง ให้ ประชุม ทำ อะไร ละ ก็ เรา ก็ ขวนขวาย อยาก ช่วยเหลือ ถ้า คน มัน ไม่ ศรัทธา แล้ว | |
37. Oh--would those in this institution behave like that? When
the administration calls for some activity do some people not cooperate? If
we don't listen to the instructions, the results will not be good for us.
Thus, we have to do as we are told. |
37. โธ่เอ๊ย อาศัย สถาบัน ไปอย่างนั้นแหละ เรียกร้อง ให้ ทำ กิจกรรม อะไร บ้าง ก็ ไม่ ได้ รับ ความ ร่วมมือ ไม่ ศรัทธา มือ มัน ก็ ไม่ มี ผลงาน ฉะนั้น คนเรา เนี่ย ต้อง ทำ | |
38. I [Rev.] myself freely make my way--working for the
Buddhist religion. Since my ordination I have gone out and propagated the
faith. |
38. อาตมา เอง เนี่ย ศรัทธา ผลักดัน ให้ ทำงาน พระศาสนา ที่ บวช มาได้ | |
39. Before I left for America this last trip, I went out to
many outlying provinces. And then I had the opportunity to go to America and
so I went. It was most exhausting! Sometimes I went to preach in restaurants
run by Thai people. They don't have any time. They have to struggle for a
living. During their little bit of free time they had me come and preach
after they closed shop at after 11 :00 P.M. They cleaned up the shop until
midnight. I preached until 2:00 AM. , getting back to the temple at 3:00
A.M. [70] But belief leads me to take the teachings of the Lord Buddha
proclaim them. This gives me energy, and I never go to sleep in defeat. |
39. บางที ไป เผยแพร่ ก่อน ที่ จะ ไป อเมริกา นี่ ไป บรรยาย ตาม จังหวัด ต่าง ๆ ไป อเมริกา ก็ ไป โอ๊ย เหน็ดเหนื่อย ที่สุด บางที ก็ ไป เทศน์ ตาม ร้านอาหาร ใน คนไทย ที่ ไป เปิด ร้านอาหาร อยู่ ที่นู่น เวลา เขา ไม่ มี เขา ต้อง ทำมาหากิน กัน เหลือเกิน ให้ พระ ไป คอย เทศน์ หลัง เขา ปิด ร้าน ๕ ทุ่ม กว่า จะ เก็บของ เสร็จ ๖ ทุ่ม เรา เทศน์ เสร็จ ก็ ตีสอง กลับ ถึง วัด ตีสาม แต่ มัน ก็ มี ศรัทธา ที่ จะ นำ เอา คำสอน ของ พระพุทธเจ้า ไป เผยแพร่ เลย ทำให้ เรา มี ศักยภาพ สมรรถภาพ ไม่ มา นอน พ่ายแพ้ | |
40. Before going to America, Thailand --Ohh--it was most
exhausting. I went on a preaching tour to upcountry provinces. |
40. ก่อน ที่ จะ ไป เผยแพร่ ที่ อเมริกา เมืองไทย ก็ โอ๊ย เหน็ดเหนื่อย ไป บรรยาย ตาม ต่างจังหวัด | |
41. I want to send this to the Interior Minister--Sometimes
when I go to preach in front of government provincial offices I have many
problems. The provincial governors don't come to meet or welcome me. I have
to beg for everything--! want to tell this to the Interior Minister. I can't
get a public address system. Whatever it is, they don't want to give it. But
do I not preach? I still preach because I honor the teaching of the Lord
Buddha that says I must go preach. [75] Because of belief I go out to these
places rather than just sitting in my own temple. Otherwise someone would
say that I am the type of monk who |
41. ขนาด เรื่อง นี้ ส่ง ถึง รัฐมนตรี มหาดไทย ว่า จะ ไป บรรยาย หน้า ศาลากลาง ผู้ว่าฯ บางคน อู้ฮู้ย ไม่ ต้อนรับ ไม่ อะไร เลย แทบ จะ ต้อง ไป กราบเท้า ขอ เทศน์ ขอ ที่ ก็ ไม่ ได้ เครื่องขยาย ก็ ไม่ได้ อะไร ก็ ไม่ อยาก จะ ให้ โอ๊ย แต่ เรา ก็ ไม่ พ่ายแพ้ เพราะ นึกถึง คำสั่งสอน ของ พระพุทธเจ้า ที่ เรา จะ ต้อง นำไป เผยแพร่ โดย ความ ศรัทธา นั้น จึง ทำให้ เรา ไม่ ไป นอน แผ่แพ้ อยู่ ที่ วัด จน คน เขา มา ด่า ว่า เรา เนี่ย เป็น พระ ประเภท ที่ | |
42. -sits in the early morning |
42. เช้า เอน | |
43. -sleeps in the late morning |
43. เพล นอน | |
44. -rests at midday |
44. กลางวัน พักผ่อน | |
45. -sleeps [royal word] in the evening |
45. กลางคืน จำวัด | |
46. -watches television at night |
46. ค่ำ ดู โทรทัศน์ | |
47. -makes noodles at midnight |
47. ดึก ซัด มาม่า อะไร ที่ เขา ว่า เนี่ย (ฮา) | |
48. I myself believe--it helps me a lot, you know. Therefore
let's take care of the temple. Have belief in our father, mother, teacher,
professors, the Buddha, monks, older people and the elders of our country.
[80] There are two causes for this belief: |
48. ตัว แรงศรัทธา เนี่ย มัน ช่วย ได้ มาก นะ ฉะนั้น ขอ ให้ พวกเรา นี่ พยายาม รักษา จิต ให้ มัน มี ศรัทธา ใน พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ พระเจ้า พระสงฆ์ คนแก่ คนเฒ่า กัน บ้าง ทีนี้ ศรัทธา เมื่อ มัน เกิดขึ้น ๒ อย่าง คือ | |
49. Suffering is a cause that produces belief. |
49. หนึ่ง ทุกข์ เป็นเหตุให้ เกิด ศรัทธา | |
50. Looking at and considering the outstanding features of our
educational institution, of teachers, of professors, of fathers, of mothers,
of older persons, of the elders of our country, of the Buddha, of
monks--this will instruct our hearts to give rise to belief. [85] |
50. สอง การ ใคร่ครวญ มองเห็น ความ ดีเด่น ชัด ของ สถาบัน ของ ครูบาอาจารย์ ของ พ่อแม่ คนแก่ คนเฒ่า พระเจ้า พระสงฆ์ เรา ก็ จะ ส่ง จิตใจ ของ เรา ให้ เกิด ศรัทธา | |
51. Suffering gives the maximum rise to this belief. If we
have no suffering, we are afraid of things that have to do with suffering.
If we don't have belief, we will not worry about the future--like whether we
will be unemployed because we didn't want to study hard. The point is that
we have to believe in the institution at which we are studying. |
51. เช่น ตัว ทุกข์ เป็นเหตุให้ เกิด ศรัทธา ได้ ดี ที่สุด ถ้าหาก คนเรา มัน ไม่ มี ทุกข์ มัน ก็ ไม่ อยาก จะ ฟัง เรื่อง ดับ ทุกข์ เรา ไม่ กลัว เสีย อนาคต ว่า ข้างหน้า เรา จะ ทำงาน ไม่ ดี เพราะ ความรู้ ไม่มี เรา ก็ ไม่ อยาก เรียน เรา กลัว ทุกข์ ใช่ไหม จึง มา ศรัทธา สถาบัน ที่ เรา เรียน | |
52. When I [Rev.] was ordained it was because of
suffering--fear of suffering. And this gave rise to belief. Ordained as a
religious monk. Because in the past this ordained one came into contact with
unwholesome thoughts--it was tough. Oh--it was torment to the heart. Even
now that toughness is still there. But I have a teaching that stems it. In
the past it was wholly passion, wholly ugly, a wholly ignorant delusion--Oh
woe--the body caused it all till things built up and forced my heart. In the
past, when I was a little boy, things were good. [90] Then I came to the age
of 17-18. When my glands produced sex hormones it forced something to
happen--caused lust to happen. Oh--it was torment. Like they say, I was
always looking at girls' skirts but never their faces. |
52. อาตมา ที่ บวช อยู่ ก็ เพราะ เห็น ทุกข์ กลัว ทุกข์ นี่แหละ จึง ทำให้ เกิด ศรัทธา บวช ใน พระศาสนา เพราะ เมื่อ ก่อน บวช นี่ ถูก กิเลส มัน ลูบคลำ โอ๊ย มัน ทรมาน ใจ เดี๋ยวนี้ มัน ก็ ยัง ลูบคลำ อยู่ แต่ เรา ก็ มี ธรรมะ ที่ จะ ปะทะ มัน ไว้ เมื่อก่อน ทั้ง ราคะ ทั้ง โทสะ ทั้ง โมหะ ไอ้ ตัวเหตุ เหล่านี้ แหละ สร้าง ความ บีบคั้น หัวใจ เมื่อ ตอน เล็ก ๆ นี่ ก็ ยัง ดี พอ โต อายุ ๑๗-๑๘ เนี่ย ต่อม แกน ฮอร์โมน ทาง เพศ บีบคั้น ให้เกิด ราคะ ให้ เกิด โธ่ มัน ทรมาน เขา บอกว่า "ไม่ เห็น หน้า ขอ ให้ เห็น ผ้านุ่ง ก็ ยัง ดี" นี่ มัน จริง ๆ นะ | |
53. In the time before I [Rev.] was ordained I liked this one
woman. She sold grocery items. Oh!--back then I worked construction--really
hard work. The work was as a carpenter. At night I lay down but could not
sleep--l wanted to see her face. I couldn't go to her house--her elder
sibling was rather fierce. I had to go buy matches from her--one box at a
time. [95] So I could see her face. I would buy four boxes a night, you
know. Oh--my heart was being forced. |
53. อาตมา ตอน ก่อน บวช นี่ ไป ชอบ ผู้หญิง คนหนึ่ง มัน ขาย ของชำ อยู่ เมื่อก่อน เรา ก็ ทำงาน เสร็จ เหนื่อย แทบ ตาย ทำงาน ก่อสร้าง ช่างไม้ แทนที่ จะ หลับ จะ นอน มัน ก็ นอน ไม่ หลับ อยาก เห็น หน้า มัน ไป ที่ บ้าน มัน ก็ ไม่ได้ พี่ มัน ดุ ต้อง ไป ซื้อ ไม้ขีด ทีละ กล่อง เพื่อ จะ ได้ เห็น หน้า คืน หนึ่ง ซื้อ ๔ กล่อง นะ อู้ย มัน บีบคั้น หัวใจ | |
54. When I had been ordained I sat and meditated. I came and
sat in the assembly hall. I sat and looked into the candle flame. My heart
brought forth calmness. At first I said that I would be ordained for three
months; we had agreed on a wedding date already. She waited for seven years.
But after that her heart started to cool off. |
54. พอ มา บวช แล้ว นั่ง ทำ กรรมฐาน มา ฝึก นั่ง อยู่ ใน โบสถ์ นั่ง เพ่ง เทียนจิต จิตใจ มัน เกิด สงบ ดี ทีแรก ว่า จะ บวช ๓ เดือน นัดหมาย กัน ไว้ เรียบร้อย มัน ก็ คอย ตั้ง ๗ ปี แต่ ตอนหลัง มา เนี่ย จิตใจ มัน เริ่ม เห็น ว่า เออ อยู่ อย่างนี้ มัน สบาย กว่า | |
55. Ohh!--being like this is peaceful. This girl here was
beautiful, but even if she was a hundred times more beautiful than this she
would not be able to break my celibacy! (Audience laughter) Because I
believe the teachings of Buddha. |
55. ก็ เลย สบาย ทีนี้ ต่อ ให้ สวย แค่ไหน สวย กว่า นี้ อีก ร้อยเท่า ก็ ไม่มี ทาง ขยี้ พรหมจรรย์ ของ เรา ได้ (ฮา)... เพราะ จิต มัน มี ศรัทธา เสีย แล้ว นะ | |
56. Ooh!--before I was ordained I had anger. I [Rev.] was
aggressive. Oh woe--the head carpenter swindled me of 500 baht. I went and
hid under a bridge for three days to ambush him. But he never came. [100] Oh
woe--the bridge was made of many ties--when people walked over it, both
females and males alike, dirt--it fell down onto my head. Ohhy!-- gave in.
But when I encountered the teaching of the Lord Buddha--he said, "Anger is
foolish--being mad is crazy." Really it was foolish, it was really, really
crazy. This is what I [Rev.] was like before I was ordained, you know. |
56. โอย ตอน ก่อน บวช นี่ มัน ก็ มี ความ โกรธ อาฆาต ไอ้ ช่างไม้ หัวหน้า มัน โกง ไป ๕๐๐ บาท ไป ดัก ตี มัน อยู่ ใต้ สะพาน ๓ วัน มัน ไม่ มา ไอ้ สะพาน เป็น ซี่ ๆ คน เดิน ผ่าน ไปมา ทั้ง หญิงชาย ขี้ตีน มัน ร่วง มา ถูก หัว โอ้ย เข็ด เลย แต่ พอ มา เจอ คำสอน ของ พระพุทธเจ้า ท่าน บอกว่า "โกรธ คือ โง่ โมโห คือ บ้า" จริง เลย มัน โง่ มัน บ้า จริง ๆ อาตมา ก่อน ที่ จะ มา บรรยาย ที่นี่ นะ | |
57. When I went to an upcountry province I--Hey! stop making
all that noise--you won't be able to hear me. |
57. ตอนนั้น ไป ที่ จังหวัด อย่า ทำ เสียง เอ๊กโค่ สิ (ฮา) ไม่ รู้เรื่อง เลย | |
58. I went to lecture in Kamphaengphet Province back then, you
know. They were having a festival to honor monks. They invited the singer
Thuun. [105] Tens of thousands of people came--paying 20-30 baht each. Then
Thuun didn't show up. Everyone waited around until midnight. Then they got
angry, and started stripping off their shoes and throwing them on the stage.
After wasting 20 baht each on admission, they went and wasted their shoes!
When they were going back home, their feet were pierced by thorns, and they
suffered the whole time. |
58. ไป บรรยาย ที่ จังหวัด กำแพงเพชร ตอนนั้น เขา จะ มี งาน นบพระ เล่น เพลง เขา เชิญ ทูล หิรัญทรัพย์ ไป ปรากฏ ตัว คน มัน ไป ดู เป็น หมื่น เสีย เงิน คนละ ยี่สิบ บาท สามสิบ บาท เข้าไป ดู แล้ว ทูล ไม่ มา คอย ยัน หกทุ่ม โมโห ถอด รองเท้า ปา ขึ้น ไป บน เวที เสีย เงิน ค่าดู ไป ยี่สิบ บาท เนี่ย เสีย รองเท้า ไป อีกข้าง นึง แล้ว กลับ ตีน เปล่า หนาม ตำ ตลอด | |
59. If someone has unwholesome thoughts already, not having
the dhamma in their hearts, they will suffer all the time. |
59. มัน ทุกข์ ตลอด ถ้า มี กิเลส แล้ว ไม่ มี ธรรมะ เข้า อยู่ ใน หัวใจ แล้ว ทุกข์ ตลอด | |
60. Those who are sitting here are they same--I don't want to
point at anyone in particular since people would say that it is bad manners. |
60. ที่ นั่ง ๆ อยู่ นี่ ก็ เหมือนกัน ไม่ อยาก จะ ชี้ หน้า เดี๋ยว ก็ ว่า เสียมารยาท | |
61. If you see that you have unwholesome thoughts or suffering
all the time, try this, you know. Try to look at things from this point of
view. |
61. ถ้า ลอง มี กิเลส หรือ ทุกข์ เท่านั้น พยายาม นะ พยายาม มอง แง่นี้ | |
62. Some people say to respect and believe in the Buddha, the
dhamma, and the monkhood. [110] Some people argue, "I'm not interested; I
believe only in the Buddha and the dhamma. I don't trust the monks--they are
really bad. Like this one and that one..." |
62. เนี่ย บางคน บอก ให้ นับถือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ บางคน นี่ เถียง ......ไม่ ไหว แล้ว ผม ถือ แค่ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ไม่ ไว้ใจ เลว มาก อย่างงู้น อย่างงี้ | |
63. Then I appeal to those teachers college students who like
to go do research on these lottery-playing monks--ay--and don't want to look
at those monks who are good. There are many good monks. |
63. แล้ว ขอร้อง ที พวก นักศึกษา วิทยาลัย ครู ชอบ ไป วิจัย พระ เล่น หวย เท่านั้น เท่านี้ ไอ้ ที่ ดี ๆ ไม่ อยาก ดู เขา ทำ ที่ ดี ๆ ไว้ เยอะ | |
64. Consider all those muckraking newspaper stories. They
don't try to look on the good side of things. This shows rottenness of
heart. |
64. เอา มา วิจัย วิจารณ์ ลง หนังสือพิมพ์ อู๊ย เป็น เรื่อง เละ เรา ก็ พยายาม ไม่ มอง กัน แง่ ดี อย่างนี้ จิต ก็ เสีย หมด เลย | |
65. Let's compare some things right now. "I don't wai monks,
they are very bad and very degenerate." We will only talk about the five
commandments, you know. Who is more degenerated--villagers or monks?2
Do you see? |
65. เรา ลอง เทียบกัน ซิ เดี๋ยวนี้ ไม่ ไหว พระ เลว มาก เสื่อม มาก เรา เอา แค่ ศีลห้า นะ ชาวบ้าน กับ พระ เดี๋ยวนี้ ใคร เสื่อม มากกว่า กัน เห็นไหม เอา ข้อ เข่นฆ่า กัน เดี๋ยวนี้ ใคร เสื่อม กว่า กัน | |
66. Take the item of killing. [115] Nowadays, who is more
degenerated? Someone goes and shoots up a family of six. Oooy. I [Rev.] once
went to a seminar for prisoners at Chiang Rai. One of their mothers had sold
a field for 300 baht. He wanted to take that money to go drinking. His
mother refused to give it to him, so he knocked her over, beat her, and then
shot her in the mouth. She died, you know, with her hands upheld begging her
child for life. Still he just shot her. |
66. ยิง ล้าง โคตร ฆ่า ๖ ศพ โอ้ย อาตมา ไป อบรม นักโทษ ที่ เชียงราย แม่ มัน ขาย นา ได้ สาม ร้อย มัน จะ เอา เงิน สามร้อย ไป กิน เหล้า แม่ ไม่ ให้ มัน ตบ คว่ำ แล้ว เหยียบ อก ยิง กรอก ปาก แม่ น่ะ ตาย นี้ กำลัง พนม มือ ขอ ชีวิต ลูก มัน ยัง ยิง เลย | |
67. Then are there monks who knock people over and stab them
with forks? Look!--Lady loan sharks have to use commando units for
protection. And they will kill those who don't pay back the right amount,
you know. They are much worse than monks. |
67. แล้ว พระ ล่ะ มี ไหม ตบ โยม คว่ำ แล้ว แทง ด้วย ช้อน ส้อม อะไร เนี่ย ดูสิ แม่ชม้อย นี้ ต้อง ใช้ หน่วย คอมมานโด ป้องกัน เท่าไหร่ เสีย งบประมาณ เท่าไหร่ จะ ฆ่า กัน นะ เลว กว่า พระ อีก เยอะ เลย แหล่ะ | |
68. Monks are still much more respectable. How many people are
killed by monks in a year? How many cases are there of monks raking entire
temples with M-16 fire? Hardly any. Only once in a long, long time would you
hear anything like that, you know. |
68. พระ ยัง น่า ไหว้ กว่า อีก เยอะ ปี หนึ่ง มี ข่าว ฆ่า กัน ซัก กี่ ศพ พระ ยิง กราด เอ็มสิบหก ฆ่า ล้าง วัด มี ซัก กี่ ราย ไม่ ค่อย มี หรอก นาน ๆ จะ มี ซัก ข่าว นะ | |
69. And as to the second commandment, who is more evil? [120]
As for stealing, who is more degenerate--monks or villagers? With villagers,
you have to chain down toilet scoops!3 |
69. ยิ่ง เป็น ศีล ข้อสอง ใคร ชั่ว กว่า กัน ลักขโมย พระ กับ ชาวบ้าน ใคร เสื่อม กว่า กัน ชาวบ้าน เดี๋ยวนี้ แม้แต่ ขัน ใน ส้วม ยัง ต้อง ล่าม โซ่ | |
70. We have a lot of pomelo trees at my (Rev.] temple. Monks
go out of their way to reserve certain ones, writing their names on them.
The villagers still take them. |
70. ที่ วัด อาตมา น่ะ แหม มี ส้มโอ อุตส่าห์ เขียน ติด ส้มโอ "ลูก นี้ พระ จอง แล้ว " มัน ยัง เอา อีก ฉะนั้น เรื่อง นี้ มัน เสื่อม กว่า พระ ตั้ง เยอะ | |
71. Thus, in any event, a monk is worthy of belief if we look
for the good in him, you know. |
71. งั้น พระ ยังไง ก็ ยัง น่า ศรัทธา ถ้า มอง ให้ ดี นะ | |
72. And even more so with the third commandment--who is more
degenerated? As for promiscuity, sinning against one's husband or
wife--which group has more cases of venereal disease--monks or villagers?
How many students at this college get abortions every year? Like that case
at Hat Yay University or Songkla University or somewhere like that when a
student died from having an abortion, you know. Look at this! It's pitiful.
[125] |
72. ยิ่ง เป็น ศีล ข้อสาม ใคร เสื่อม กว่า กัน เรื่อง สำส่อน ผิดผัว ผิดเมีย พระ เป็น กามโรค กับ ชาวบ้าน เป็น กามโรค ใคร มากกว่า กัน นักศึกษา วิทยาลัย ครู ต้อง ไป รีด ลูก ออกมา ตาย ปี หนึ่ง เท่าไร นะ มศว. หาดใหญ่ หรือ สงขลา อะไร นะ ดูสิ | |
73. Then they come and scold monks for this and that. Very
rarely will there be any cases of monks behaving lewdly. |
73. โธ่เอ๋ย แล้ว มา ว่า พระ อย่างงุ้น อย่างงี้ นาน ๆ พระ ถึง จะ มี ซัก ข่าว ข่มขืน อนาจาร นี้ | |
74. There was one case two months ago, but we really can't go
punish the monk for it. That monk was doing a merit walk from Buriram to
Bangkok. He pitched his umbrella far from the outskirts of Bangkok. Ay--a
woman from a Patpong bar wanted to charm him. Mae!--So she went and
displayed her charms to the monk under his umbrella. Liberties were taken
and the girl got pregnant. She then went to the police and said, "This monks
raped me." |
74. มี มา สอง เดือน ก่อนนั้น จะ ไป โทษ พระ ก็ ไม่ ได้ ที่ พระ แก่ๆ เดิน ธุดงค์ มา จาก บุรีรัมย์ มา ปัก กลด แถว ๆ ห่าง จาก ชาน กรุงเทพ ฯ เนี่ย ไอ้ ผู้หญิง ใน บาร์ พัฒพงศ์ นี่ มัน อยาก จะ ได้ เสน่ห์ แหม ก็ ไป ให้ พระ ทำเสน่ห์ ใน กลด ก็ เข้า ไป ใน กลด ก็ เกิด ลวนลาม ท้อง ขึ้น มา แจ้ง ความ พระ ทำ ไม่ดีไม่งาม | |
75. Why did she get so close to him? She should have known
better. |
75. ก็ มัน ทะลึ่ง ล้ำ เข้าไป ใน แดน ของ ท่าน ทำไม มัน น่า จะ รู้ ว่า เขต ใคร เขต มัน | |
76. In any event, as for villagers--they--they are still much
more evil than the monk in this story. [130] Only one in a long, long time
will there be a case of a monk doing wrong like this. |
76. ส่วน ชาวบ้าน ยังไง ๆ โธ่เอ๋ย ยัง ชั่ว กว่า พระ ใน เรื่อง นี้ เยอะ นาน ๆ จะ มี ซัก ข่าว หนึ่ง อาตมา จริง ๆ นะ | |
77. I went to lecture at Tunson. Really, 10,000 people came. I
was talking about shameless women who try to steal other people's husbands.
Suddenly a woman in the audience stood up, clapped her hands and pointed at
some other women. "You--you are the one the monk is talking about," she
said. So both the monk and these people in the audience were cursing those
women--they all bowed their heads in shame--many were guilty. |
77. วันนั้น ไป บรรยาย ที่ ทุ่งสง คน เป็น หมื่น แล้ว ขำ จริง ๆ เกิด เรื่องจริง บอกว่า ไอ้ ที่ นั่ง กัน มาก ๆ คง มี คน หน้าด้าน ไป แย่ง ผัว ชาวบ้าน เขา มา มั่ง แหละ มี ผู้หญิง อีกคน นั่ง แถว นี้ อีกคน นั่ง แถบ นี้ พอ พูด อย่างนี้ เอง นะ พอ บอกว่า ที่นั่ง มาก ๆ คง มี คน หน้าด้าน ไป แย่ง ผัว มา ผู้หญิง แถบ นี้ มัน ลุกขึ้น ยก มือ ตบ กัน ฉาด ๆ แล้ว มัน ชี้ บอก มึง มึง พระ ว่า แย่ง พูด " พระ ว่า " คล้าย ๆ กับ มัน จ้อง หา คน ช่วย ด่า มานาน วันนี้ พระ ช่วย ด่า ด้วย ไอ้ คน แถว นี้ นั่ง ก้ม หน้า แสดง ถึง นะ เยอะ | |
78. Thus, in any event, well, monks are more respectable.
[135] This is especially true where lying is concerned. Nowadays they are
crazy--they hoodwink and lure monks to do bad things. They walk up behind
monks and take crude oil and wipe it all over the monk's robe. Then they
say, "Oh, uncle--your backside is all detestable and black. Go wash in the
restroom--I'll look after your bag." Then they run off with the bag. |
78. งั้น ยังไง ๆ พระ ยัง น่า ไหว้ อีก เยอะ ยิ่ง เป็น ข้อ โกหก หลอกลวง เดี๋ยวนี้ มัน บ้า มัน หลอกลวง พระ อย่าง ร้ายกาจ มัน เดิน ไป ข้างหลัง พระ เอา น้ำมัน จารบี ดำ ๆ ป้าย จีวร พระ แล้ว บอกว่า " โอ้ย หลวงพี่ น่าเกลียด จัง ข้างหลัง ดำ ๆ ไป ล้าง ใน ห้องน้ำ ผม ช่วย ถือ ย่าม ให้ " แล้ว มัน เอา ไป เลย | |
79. Sometimes a fresh-looking young couple will come up to a
monk and invite him to their wedding. "We're getting married, and need to
borrow some plates. bowls, trays, etc. for the reception. We would like you
to come and have breakfast with us, too. We will take these now, and pick
you up later." He waits till noon and no one comes. All the temple's dishes
are gone, and the monk gets no lunch. |
79. บางที มัน มา ทั้ง หญิง ทั้ง ชาย หน้าตา สดสวย นิมนต์ ค่ะ เดี๋ยว จะ แต่งงาน ขอ ยืม จาน ขอ ยืม ถ้วย ขอ ยืม ถาด นะ ขอ นิมนต์ ท่าน ฉันเพล ด้วย เดี๋ยว เที่ยวนี้ เอา ของ ไป ก่อน ให้ รอ คอย ยัน เที่ยง ไม่ มา รับ ถ้วย จาน วัด เกลี้ยง แถม ยัง อด เพล อีก มื้อ หนึ่ง | |
80. Whose handiwork is this? [140] The handiwork of the
villagers or the handiwork of the monks? The villagers are much worse, you
know--try to look on the good side of things. |
80. ฝีมือ ใคร ฝีมือ ชาวบ้าน หรือ ฝีมือ พระ มัน ชั่ว กว่า เยอะ นะ พยายาม มอง ให้ ดี เหอะ | |
81. And more so with drinking alcohol and becoming drunk--who
is more evil? The fifth principle: in one year, how many cases of alcohol
are consumed by monks? How many truckfuls do villagers drink? |
81. ยิ่ง เป็น กินเหล้าเมายา ใคร ชั่ว กว่า กัน ข้อ ห้า ปี หนึ่ง พระ ดื่ม เหล้า กี่ ลัง ชาวบ้าน ดื่ม กี่ คัน รถ | |
82. They are always having parties. such as when someone is
transferred to a different place. If a civil servant is transferred, they
take him out for a drink. |
82. จัด งาน อะไร ย้ายมา ย้ายไป ข้าราชการ ย้ายเข้า ย้ายออก ก็ เลี้ยง เหล้า ย้ายมา ก็ เลี้ยง เหล้า | |
83. When a monk moves to a different temple, no one ever takes
him out for a drink--not even one! Thus, in whatever it may be, these monks
are much better, you know. Believe it! Monks are still respectable. |
83. พระ ย้าย วัด ไม่ เคย เลี้ยง ซักที งั้น ยังไง ๆ พระ นี่ ยัง ดีกว่า เยอะ นะ เชื่อ เหอะ ยัง น่า ศรัทธา | |
84. So try to look at the good side of things--that way our
hearts will have belief. |
84. งั้น พยายาม มอง แง่ ดี จิต ของ เรา จะ มี ศรัทธา | |
85. Some of these bad people have really rotten hearts. If
someone doesn't believe, whatever rots is totally lost. But belief does not
teach us to fumble things up. The lord Buddha taught to practically apply
wisdom and pondering in looking into things, to look at the good side of
things--to see our institution as a good place, to live in a profitable way.
[145] |
85. แล้ว บางคน นี่ จิต จะ เสีย ไปแล้ว ไม่ ศรัทธา อะไร ก็ เสียหาย แต่ ศรัทธา นี่ ก็ ไม่ ได้ สอน ให้ งมงาย พระพุทธ เจ้า ก็ ได้ สอน ให้ สัมประยุกต์ ด้วย ปัญญา ใคร่ครวญ ดู ให้ มอง ใน แง่ดี สถาบัน ยังดี อยู่ ยัง มี ประโยชน์ เกื้อกูล อยู่ | |
86. Admire belief and put it away inside of you. Then we will
be able to have benefits. It teaches us to do this, but does not teach us to
get totally enchanted in things--even in becoming enchanted with one certain
monk. |
86. แล้ว ศรัทธา นิยม ไว้ บ้าง เนี่ย เรา จะ ได้ ประโยชน์ แต่ ก็ ไม่ ได้ สอน ให้ งมงาย | |
87. An enchanted belief is totally boring. People believe for
an instant and then fumble things up. |
87. ศรัทธา งมงาย ก็ เบื่อ เหมือนกัน คน บางคน ก็ ศรัทธา พระ แบบ งมงาย | |
88. I went to lecture in a different province. An old person
aged 40 or 50 who was a sales woman came to me and said, "I have an
exceeding amount of belief in you. Do you have some good things? I am a
saleswoman, and I want to get some things that sell well, you know." I said,
"No. I [Rev.] am not a magic monk, I'm a teaching monk." She said, "Do you
have any holy water that you could sprinkle on me?" I said, "No. I didn't
get ordained to be employed as a bath-giver, you know." |
88. อาตมา ไป บรรยาย ต่างจังหวัด คนแก่ ก็ อายุ สี่ ห้า สิบ แล้ว เป็น แม่ค้า มา ถึง " ท่าน ดิฉัน ศรัทธา ท่าน เหลือเกิน ท่าน มี ของดี ไหม ดิฉัน เป็น แม่ค้า อยาก ได้ ของ ที่ ขาย ของ ดี น่ะ" บอก ไม่ มี หรอก อาตมา ไม่ ได้ เป็น พระ เสก เป็น พระ สอน " งั้น ไม่ มี อะไร ก็ ช่วย รด น้ำมนต์ ด้วย สิ " บอก ไม่ เอา ไม่ ได้ บวช มา รับจ้าง อาบน้ำ นะ | |
89. Someone of that age wanting a bathing monk, you know.
[150] |
89. โต จน ป่านนี้ ยัง มา ใช้ พระ อาบน้ำ น่ะ | |
90. Aw La!--How many principle have I mentioned already? Is
this a college?--some say three, some four, some five. |
90. เอาล่ะ นี่ กี่ ข้อ แล้ว เนี่ย มัน คน ละ กี่ วิทยาลัย ที่ มา กัน เนี่ย สาม มั่ง สี่ มั่ง ห้า มั่ง | |
91. I am lecturing about both the commands of belief and
conscience. This--principle number five--is called phusaja which
translates as 'ear.' |
91. ศรัทธา ศีล หิริโอตัปปะ บรรยาย คู่กัน นี่ ข้อ ที่ ห้า เรียกว่า พหุสัจจะ แปลว่า หู นี้ | |
92. A learned man tries to listen and read. |
92. พยามยาม เป็น หู " พหูสูตร " คือ พยายาม ใฝ่ ฟัง ใฝ่ อ่าน | |
93. I (Rev.)--some people, well, ask, "What degree did Phra
Phayom finish?" I say, "None. I finished fourth grade." |
93. อาตมา นั้น บางคน เขา ก็ ถาม พระพยอม เรียน จบ ปริญญา อะไร บอก เปล่า จบ ป. ๔ | |
94. But I believe that knowledge does not reside within the
four walls of a classroom. I, well, tried to find things for my ears to
listen to. |
94. แต่ เรา ถือว่า ความรู้ ไม่ ได้ อยู่ ใน ห้อง สี่เหลี่ยม เรา ก็ พยายาม หา ฟัง หู เรา ก็ มี ฟัง | |
95. Nowadays people don't want to listen. Those that go abroad
are the same, you know. Ay--this group of Thai people who go live
abroad--when a monk says something they respond, "I see I know I see I
know." The monk knows that they don't want to listen. [155] |
95. เดี๋ยวนี้ มัน จะ ทำ ตัว ไม่ อยาก ฟัง ไป เมืองนอก เหมือนกัน นะ ไอ้ พวก คนไทย ที่ ไป อยู่ ที่โน่น พอ พระ พูด อะไร ไอซี ๆ ไอโนว์ ๆ รู้แล้ว ๆ ไม่ อยาก จะ ฟัง | |
96. At this time I am trying to study English because of a
terrible experience. Before this I went to Europe--went to England. I
couldn't read English. I was going to go to the rest room, but couldn't read
the signs. I rushed into somebody else's bedroom. I didn't know which room
was which. I considered my not being kicked out an act of merit. |
96. ที่ ตอนนี้ ก็ พยายาม เรียน ภาษาอังกฤษ เพราะ ว่า แย่ ไปมา คราว ที่แล้ว ไป ยุโรป ไป อังกฤษ อ่าน ภาษาอังกฤษ ไม่ได้ จะ เข้า ส้วม อ่าน ไม่ ออก พรวด ไป ห้องนอน เขา ไม่รู้ อะไร เป็น ห้อง อะไร ไม่ ถีบ ออกมา ก็ นับ ว่า บุญ แล้ว | |
97. Really, you know, having the ear of a learned man is like
having a possession. Having knowledge is really, really like having a
possession. |
97. จริง ๆ จริง ๆ นะ มี หู นี่ พหุสูตร เหมือน มี ทรัพย์ มี วิชา เหมือน มี ทรัพย์ จริง ๆ | |
98. A woman was sitting selling bananas. She was there for a
long time, and nothing happened. She was selling them for 20 baht a bunch.
[160] One day a Westerner came along. The woman couldn't say anything--she
couldn't do anything and didn't know what this Westerner wanted. The
Westerner got annoyed. He scooped out a 10 baht bill, gave it to her, then
grabbed a bunch of bananas. The woman was very surprised and didn't know
what to do. She said, "This--this--this--one bunch takes two ten baht
notes." Ay--the Westerner, he was confused. He lifted two fingers and
thought that ten baht, you know, bought two bunches. So he grabbed another
bunch. The woman was going to say, "ta-wen-tii," but she couldn't get it out
right. |
98. ผู้หญิง คนหนึ่ง นั่ง ขาย กล้วยหอม ขาย มา ตั้งนาน ไม่ มี อะไร หวี ละ ๒๐ บาท วันหนึ่ง ไอ้ ฝรั่ง มา ซื้อ พูด ไม่ เป็น ไม่รู้ จะ เอา ยังไง ฝรั่ง ก็ รำคาญ ก็ คว้า แบงค์ ๑๐ ให้ แล้ว ก็ หยิบ กล้วย มา หวี หนึ่ง แม่ค้า ตกใจ ไม่ รู้ จะ ทำ อย่างไร ก็ บอก นี่ นี่ นี่ หวี หนึ่ง ต้อง แบงค์ ๑๐ สอง ใบๆ ไอ้ฝรั่ง มัน งง มัน ยก สอง นิ้ว มัน นึกว่า สิบ บาท ได้ สอง หวี หยิบ ไป อีก หวี หนึ่ง จะ บอก เทวนตี้ ก็ พูด ไม่ ถูก | |
99. Now I don't have much free time, but they have set up a
teacher to come teach at the temple. Aw la--study at five A.M. -- have to go
wake up the teacher. "Get up teacher." Aw!--the teacher came to teach
me a little so I could get along a little in English. But it was really hard
on him. |
99. นี่ อาตมา ไม่ ค่อย มี เวลา ตอน ช่วง มี เวลา เขา ให้ ครู ไป สอน ที่ วัด เอา ละ เรียน กัน ตีห้า ถึง เวลา ปลุก ครู ละ ก็ " เกทอัพ ทีชเชอร์" อ้าว ครู มา สอน หน่อย เพื่อ จะ ให้ มัน ได้ บ้าง แต่ ว่า แย่ | |
100. The last time I went to America they invited me to preach
on television. When a Westerner in New York invited me to do this, I had to
decline. |
100. ไป มา อเมริกา น่ะ เขา นิมนต์ ไป เทศน์ ออก โทรทัศน์ ด้วย ฝรั่ง เขา นิมนต์ ที่ นิวยอร์ก พูด ไม่ ได้ | |
101. I've just started with "A-B-C-D." "B-O- Y boy." [165]
Sometimes I just want to say, "Goodbye." |
101. เพิ่ง เริ่ม เรียน เอ บี ซี ดี ได้แต่ บี โอ วาย บอย เรียน ไป บางที มัน ก็ ทำ ท่า จะ เซย์ กู๊ดบาย บ้าง | |
102. Aw!--I tried to advance my education, but I couldn't do
it. [170] Because having to turn down that invitation--Mae!--was really
disappointing. I could have been on television in America, you know. But I
can't speak English. |
102. อ้าว ก็ พยายาม เรียน ไป เรื่อย นะ นี่นะ แต่ มัน ก็ ยัง ไม่ ได้ เพราะ นิมนต์ แหม่ เสียดาย เหลือเกิน ได้ ออก โทรทัศน์ ใน อเมริกา นะ พูด ภาษาอังกฤษ ไม่ ได้ | |
103. Thus our group must try to study. Now the world is
getting smaller. |
103. งั้น พวกเรา ต้อง พยายาม เรียน ตอนนี้ โลก มัน แคบ แล้ว | |
104. I (Rev.) myself never thought that I would have an
opportunity to go to America-with them. But--err--nowadays communication is
easy. An airplane, you know five--ten hours and you are there, you know. This here-- |
104. อาตมา เอง ก็ ไม่ นึกว่า เกิดมา จะ ได้ ไป อเมริกงอเมริกา กับ เขา เออ แต่ เดี๋ยวนี้ มัน ติดต่อ กัน ง่าย เครื่องบิน นั่ง สามสิบ ชั่วโมง ก็ ถึง แล้ว นะ เนี่ย | |
105. AW!--Thus, try to make your ears listen carefully to
everything. Then your listening will become a sort of gift for you, giving
you the mental material to do things. |
105. อ้าว ฉะนั้น พยายาม ทำให้ หู นี้ เป็น คน ที่ พยายาม รับ ฟัง ให้ ดี แล้ว มัน จะ เป็น พรสวรรค์ ที่ มี วัตถุดิบ | |
106. Nowadays people don't want to listen. They say that Thai
people don't read much. These Westerners, you know--wherever they go they
sit and read books. Thai people--wherever they just sit they talk together
all the time. They meet and its, "Oh-hoo!--Oh-hoo!--that one is prettier,
that one is fatter." |
106. เดี๋ยวนึ้ คน มัน ไม่ อยาก จะ ฟัง เขา บอก คนไทย นี่ อ่าน หนังสือ น้อย ฝรั่ง นี่ นะ ไป นั่ง ที่ไหน มัน นั่ง อ่าน หนังสือ คนไทย นั่ง ไหน คุย กัน ลูกเดียว เจอ กัน โอโฮ ๆ สวย ขึ้นตั้งเยอะ อ้วน ขึ้นตั้งเยอะ | |
107. That "Ohhoo!, Oh-hoo!" talk is not appropriate. Thai
people never sit and study or read about something that is important. |
107. ไม่ ได้เรื่อง ได้แต่ โอโฮ ๆ นั่นแหละ ไม่ เคย จะ นั่ง ศึกษา อ่าน อะไร ต่อ อะไร | |
108. I (Rev.) myself have found many good books--they could be
piled up higher than my head. When I went to America I found many
interesting books--there are some really good books in America. The various
temples could combine their collections so people could have a place to come
and read. |
108. อาตมา นี่ เดี๋ยวนี้ หนังสือ ต้อง หา ตำรา มา กอง ไม่ รู้ กี่ ท่วม หัว ไป อเมริกา ครั้งนี้ แหม มัน อ่าน มัน จริง ๆ หนังสือ ดี ๆ นี่ มี อยู่ ใน อเมริกา เยอะ นะ ตามที่ วัด ต่าง ๆ โอ้โห ไป รวม ๆ ไป นั่ง อ่าน โอ้ย ซึ้งใจ | |
109. Sometimes we aren't impressed the first time we read a
book. We have to read it two or three times before we really understand how
the climax is reached. [175] |
109. บางเรื่อง เรา อ่าน สองเที่ยว สามเที่ยว มัน ไม่ ซึ้งใจ จังหวะ มัน ไม่ดี ถ้า ไป ได้ ดิน ฟ้า อากาศ สภาวะ ดี อ่าน ที แล้ว มัน ถึง จุด ไคล์แมกซ์ นะ | |
110. We have to bear things that other people bear with
difficulty. When people give us bad things like alcohol or cigarettes we
have to refrain. It is difficult to think in one's heart that it has to be
like this. I (Rev.) myself was never addicted to cigarettes or alcohol--even
before I was ordained. Coffee, tea--I never brew or boil them. And I am able
to live very comfortably. One glass of plain water goes down comfortably,
you know. [180] |
110. นี่ ข้อ ที่หก จาคะ เขา ส่ง อะไร มา ไม่ ดี ส่ง เหล้า ส่ง บุหรี่ ก็ ต้อง สลัด ออก เรา จะ ต้อง เป็น คน ที่ สละ ใน สิ่ง ที่ คนอื่น สละ ได้ ยาก เรา จะ ต้อง ทน ใน สิ่ง ที่ คนอื่น อดทน ได้ ยาก เรา จะ ต้อง เว้น ใน สิ่ง ที่ คนอื่น เว้น ได้ ยาก นึกในใจ ไว้ อย่างนี้ อาตมา นี่ เหล้า บุหรี่ ไม่ ติด แม้แต่ บวช นี้ กาแฟ น้ำชา ก็ ไม่ เคย ชง ไม่ เคย ต้ม ฉัน แล้ว มัน ก็ อยู่ ได้ สบาย มี น้ำเปล่า ๆ แก้วเดียว นี้ ก็ สบาย นะ | |
111. Nowadays we are addicted to that over there--Ay--addicted
to this. After becoming addicted we never think about quitting. We don't
intend to get tied up, but in our feelings we take it in. Once we have been
pulled in, we can't shake it off. Ay--things that shouldn't be brought into
us are taken in--the demon is attached. |
111. เดี๋ยวนี้ เรา มัน ติด ชะ ไอ้โน่น ก็ ติด ไอ้นี่ ก็ ติด แล้ว ไม่ คิด ที่ จะ สละ ไม่ มี จาคะ ขมวด แต่ ใน ความ รู้สึก เอา เข้ามา ดึง เข้ามา ไม่ สลัด ออก เลย ไอ้ สิ่ง ที่ ไม่ ควร ก็ เอา เข้ามา กระทั่ง ติด | |
112. Ay--heroin, paint thinner--all these. I (Rev.) say that
it is the most foolish type of life. They take thinner that is used with
paint. They take it and inhale it--waste their brains, you know. And when
they can't study, people send them off to be ordained, you know. They are
really, really brain damaged. Send them to learn meditation--"Please have
them learn just a little bit and they will be able to be calm." Then they
will be "capsule saints."4 |
112. ไอ้ เฮโรอีน ทินเนอร์ นี่ อาตมา ว่า มัน ชาติ โง่ ที่สุด เขา เอา ทินเนอร์ ไว้ ทาสี มัน เอา มา ดูด ให้ สมอง เสีย นะ เรียน ไม่ได้ แล้ว เอา ไป ส่ง ให้ บวช นะ มัน ช้ำใจ จริง ๆ ฝึก ให้ มัน ทำ สมาธิ มัน ก็ บอกว่า ขอ ให้ มัน ได้ ซัก อื๊ด นึง มัน จะ ได้ นั่ง สงบ มัน จะ เป็น อรหันต์ แคปซูล กัน เสีย | |
113. Mae!--then this--when I (Rev.) speak, some people say.
"This Phra Phayom--Mae!--he compares alcohol with excrement that a dog would
eat--his comparisons are painful. It shouldn't be like this and that, you
know. [185] And he won't stop making these kinds of comparisons." |
113. แหม แล้ว นี่ อาตมา พูด ขี้น บางคน ก็ ว่า พระพยอม นี่ เปรียบเทียบ เหล้า กับ ขี้ ให้ หมา กิน เปรียบเทียบ เจ็บแสบ ไม่ น่า อย่างงู้น อย่างนี้ นะ ว่า ขนาด เปรียบเทียบ อย่างนี้ มัน ยัง ไม่ อยาก เลิก | |
114. I (Rev.) have even more powerful words than this to make
comparisons with, you know. Really, really. |
114. อาตมา มี คำ แรง ๆ จะ เปรียบ ให้ มัน ยิ่งกว่านี้ อีก จริง ๆ | |
115. Some people say, "If you give alcohol to a dog. it will
drink it. Then, if you take alcohol and give it to Phra Phayom to drink,
will he drink it?" They come back again and again and try to make me say,
"What the heck," and drink it. |
115. บางคน ว่า เหล้า ขี้ ให้ หมา กิน ก็ กิน ได้ แล้ว ก็ เอา เหล้า ขี้ ให้ พระพยอม กิน จะ กิน ไหม | |
116. They come back and argue, "I can't quit now. I've already
invested too much in this vice." |
116. มัน ก็ ยัง ย้อน กลับมา อีก แทนที่ จะ นึกว่า จริง หว่ะ เลิก เว้ย อะไร เงี้ย สลัด ไป เลย กลับ เถียง บางที นะ ท่าน นะ ผม เลิก ไม่ ได้ ผม ลงทุน มา มาก แล้ว | |
117. AW!--Nowadays I have to preach and incite quarrels about
cigarettes. These cigarettes--the only people who really can't stop are
those who already smoke five packs a day. Actually, though, this would help
their family and their general stake in life. If they smoke five packs a
day, a thief wouldn't break into their house and, secondly, dogs would
certainly not bite them. Third, their hair won't grow. [190] If they smoke 5
packs a day, thieves would hear them coughing all night and think that they
were still awake. So the smoker would not need a guard dog, since he himself
is always barking. |
117. อ้าว เดี๋ยวนี้ ต้อง เทศน์ ยุส่ง เลย บุหรี่ นี่ ถ้า ใคร เลิก สูบ ไม่ ได้ ต้อง สูบ ให้ มาก สูบน้อยๆ ไม่ ได้ ผล ต้อง สูบ ให้ ได้ วัน ละ ห้า ซอง จะ ได้ ช่วยบ้าน ช่วยช่อง ได้ ถ้า สูบ ห้า ซอง แล้ว รับรอง ขโมย ไม่ เข้า บ้าน สอง หมา ไม่ กัด สาม ผม ไม่ หงอก ถ้า สูบ ได้ ห้า ซอง ขโมย ไม่ เข้า บ้าน มัน จะ ไอ ทั้ง คืน ขโมย จะ เข้า มา มัน เห่า แทน หมา เลย ก็ ว่า งั้น | |
118. This group of students--if someone starts smoking during
their first year, things will get worse the second year, you know. In
reality, they don't have their own incomes yet; their mothers give them
everything to come study. And mothers never tell their children, "Hey! Take
30 baht and go buy some cigarettes to play with your lungs, you know." This
never happens. |
118. พวก นักศึกษา นี่ ก็ เหมือนกัน ถ้า เรียน ยัง ไม่ จบ ครู แล้ว ริ สูบบุหรี่ ปี่หนึ่ง ปี่สอง นี่ ชั่ว ที่สุด เหมือนกัน จริง ๆ นะ เงินเดือน ก็ ยัง ไม่ ได้ แม่ ให้ เงิน มา เรียน ไม่ เคย บอก ลูก ว่า เฮ้ย เอา ตังค์ ๓๐ บาท นี่ ไป ซื้อ บุหรี่ เผา ปอด เล่น นะ ลูก นะ ไม่ เคย | |
119. [195] In reality, this group of students who are addicted
to these cigarettes are foolish--plain and simple. They don't have their own
incomes yet, and are already addicted. They should have shaken off this
wastefulness before they became addicted. |
119. จริงๆ อ่ะ พวก ที่ มา เรียนๆ กัน นี้ ใคร ติด บุหรี่ นี่ โง่ ทั้งนั้น แหละ ยัง ไม่ ได้ เงินเดือน เลย ติด แล้ว แทน ที่ จะ สลัด ซะ ก่อน ติด แล้ว ไม่ มี จาคะ | |
120. Aw! In summary, the final principle. The lord Buddha
covered up the last principle. Ay--this final principle goes back to the
first one. This is because of the fact that if one has wisdom, one has
correct belief. (If) one has wisdom, they will be able to keep religious
commandments. If one has wisdom, it will make the fear of falling into sin
and evil very clear. If one has wisdom, they will certainly like to read and
listen to only good, beautiful things. If one has wisdom, they can shake off
things that are evil. |
120. เอ้า สรุป ข้อ สุดท้าย พระพุทธเจ้า ท่าน เอา ข้อ สุดท้าย คลุม ไว้ ไอ้ ข้อ สุดท้าย นี่ มัน เชื่อมโยง ไป ถึง ข้อแรก เพราะว่า ถ้า มี ปัญญา ก็ ศรัทธา ถูก มี ปัญญา ก็ ย่อม รักษา ศีล ได้ ถ้า มี ปัญญา รักษา ความ อาย ชั่ว กลัว บาป ยิ่ง ชัด ใหญ่ ถ้า หาก มี ปัญญา ก็ แน่นอน ชอบ อ่าน ชอบ ฟัง แต่ เรื่อง ที่ ดี งาม มี ปัญญา ย่อม สลัด สิ่ง ความ ชั่ว ออก ได้ | |
121. The Buddhist religion has two levels of this wisdom.
Today I (Rev.) will talk about the lower of these--the first level. [200]
This involves what they call "having knowledge of the life cycle." We have
to study the various aspects of our life cycle. Then we can go on to the
wisdom of deeper levels. |
121. ปัญญา นี่ มี ใน พระพุทธศาสนา มี สอง ระดับ วันนี้ อาตมา จะ พูด ระดับ ต่ำ ปัญญา ระดับ แรก เขา ใช้ คำ ว่า รอบรู้ ใน กอง สังขาร เช่น ปัญญา ใน ระดับ ลึก ใน ไตรสิกขา ใช้ คำ ว่า ปัญญา แปลว่า รอบรู้ ใน กอง สังขาร | |
122. When we come to the four-fold path, wisdom translates as
knowledge of suffering, the cause of suffering, and the extinguishment of
suffering--the way to extinguish suffering. Wisdom as higher wealth
translates as knowledge of what should be done first and what should be done
later. |
122. พอ มา ใน อริยมรรค อริยสัจสี่ ปัญญา แปลว่า รอบรู้ ทุก เหตุ ที่ เกิด ทุกข์ ความดับทุกข์ หนทาง ให้ ถึง ความดับทุกข์ แต่ ปัญญา ใน อริยทรัพย์ ท่าน แปล ใน "นวโกวาท" ว่า รอบรู้ อะไร ควร ทำ ก่อน อะไร ควร ทำ หลัง | |
123. Now people--Ay--the things that should be done later are
done first. For example, someone is told to study the dhamma, but they
respond, "I have to wait until I'm very old." [205] Why will they come in
when they are old? It will only cause disorder in the temple. Get old and
then be ordained as a nun. Wear the white cloth and have nothing. It is the
type of white cloth that they use to cover corpses who just lie there and
wait to have merit run over them. Pray or listen to the dhamma for a little
bit and then they are tired. Why go do it? |
123. คน เดี๋ยวนี้ ไอ้ สิ่ง ที่ ควร ทำ หลัง ดัน เอา ไป ทำ ก่อน เช่น บอก ให้ ศึกษา ธรรมะ มัน บอก ต้อง รอ ให้ แก่ ๆ ใน เมื่อ มัน แก่ มัน จะ เข้า มา ทำไม ให้ รก วัด แก่ แล้ว ไป บวช ชีพราหมณ์ นุ่ง ผ้าขาว ก็ ไม่ มี อะไร เป็น ผ้าขาว ห่อ ศพ นอน รอ บุญ หล่น ทับ จะ สวดมนต์ จะ ฟัง ธรรม ก็ เมื่อย ไป ทำไม | |
124. I (Rev.) don't preach to old people. When old people do
come to the temple, I preach a lot and it makes them tired to death. Instead
of going out to proclaim and spread the Buddhist religion, I put them in
coffins. Their dying is uncontrollable. |
124. นี่ เป็น จริง อาตมา เนี่ย ไป เทศน์ กับ คนแก่ ไม่ เอา ที่ วัด เนี่ย เนี่ย คนแก่ ที่ วัด เนี่ย คนแก่ มา เทศน์ นิดเดียว จบ เพราะว่า แก หมดแรง ทำ ชั่ว แล้ว ไม่ ต้อง เทศน์ มาก ใกล้ จะ เดินทาง สายเปลี่ยว แล้ว ไม่ ต้อง เทศน์ มาก เทศน์ เหนื่อย แทบตาย แทนที่ จะ เอา ความรู้ ไป ช่วย เผยแพร่ พระศาสนา ต่อไป แต่ นำ ติด ไป เข้า โลง ตาย สิ ไม่ คุ้ม | |
125. If I do go preach to a group like this, it is only once
in a long while--and then only to those who will live for a long time yet.
[210] Whatever, I take this knowledge and spread it around. |
125. ถ้า เทศน์ กับ พวกนี้ แล้ว มัน เทศน์ นาน หน่อย เพราะว่า มัน ยัง อยู่ อีก นาน ยังไง ๆ นำ ความรู้ ไป ช่วย ขยาย ต่อไป แล้ว จะ ได้ กัน ความ ชั่ว ไว้ | |
126. If our age group is already evil, our country will be
destroyed in the future. But if this age group is good--Ay--older group will
all die before long. [215] |
126. ถ้า รุ่นนี้ ชั่ว แล้ว บ้านเมือง ก็ พัง ต่อไป อีก ถ้า รุ่นนี้ ดี ไอ้ พวก แก่ ๆ นี่ ตาย ไป หมด แล้ว | |
127. Let our age group help together to overhaul things. So
that we can become the prime minister, the ministers of our age group, you
know. Go all out! |
127. รุ่น เรา ช่วย ปรับ มัน ซัก ที เถอะ เผื่อ ได้ เป็น นายก เป็น รัฐมนตรี รุ่น เรา นะ ขอ เต็มที่ เสียที เอา ให้ เต็มที่ | |
128. I [Rev.], you know, go all out--really, really. I preach
until I have chest pains and can preach no more. Sometimes they invite me to
go to five events. Aw!--I'm almost not willing to go anywhere. Sometimes I'm
really exhausted when I go, but when it's time for me to get up and speak I
have to smile. I have to keep on going. I sleep while I'm waiting. I [Rev.]
sometimes don't get any sleep for nine days. But whenever I go to speak
somewhere I don't seem depressed or down; I only have the characteristics of
an active person, you know. You have to speak vigorously. Don't go speak
down and depressed. Do it with sincerity. If you study, don't study in a
depressed way. If you teach, don't teach in a down and depressed way. Teach
with vigor. |
128. อาตมา นะ ทำ เต็มที่ จริง ๆ นี่ เทศน์ จน อก แสบ ไปหมด บางที เขา นิมนต์ บางที ไป ห้า งาน เอ๊า ไป แทบ ไม่ ไหว แล้ว ไป บางที เหนื่อย ที่สุด แต่ ถ้า เวลา ขึ้น พูด ต้อง ยิ้ม ทำ ไหว ไม่ใช่ ว่า บางที นอน มา เก้า คืน บางที ไม่ได้ นอน คืนนี้ ขึ้น มา พูด สบายมาก ต้อง พูด อย่างนั้น เลย ไม่ ใช่ โอ้ อาตมา ง่วง มา ห้า คืน สงสัย ไป ไม่ ไหว ต้อง พูด ไม่ ค่อย ออก ไอ้ คน ฟัง ก็ จะ บอก ท่าน ไป ไม่ รอด ก็ จะ หลับ กู หลับ คอย ก่อน ละ วะ ฉะนั้น อาตมา ไป พูด ที่ไหน ไม่ มี ลักษณะ หงอย ๆ มี แต่ ลักษณะ แอคทีฟ พูด นี่ ต้อง กระฉับกระเฉง อย่า ไป พูด หงอยๆ ทำ อะไร อย่า ไป ทำ หงอยๆ ทำ ให้ มัน จริงๆ เรียน ก็ อย่า เรียน หงอยๆ สอน ก็ อย่า สอน หงอย ๆ สอน ให้ มัน กระฉับกระเฉง | |
129. Thus, wisdom translates as knowledge of what should be
done first and what should be done later. And wisdom must be used in order
to bring high happiness for oneself and high peace for society. [220] |
129. เอ้า งั้น ปัญญา แปลว่า รอบรู้ อะไร ควร ทำ ก่อน อะไร ควร ทำ หลัง ปัญญา ของ พระพุทธเจ้า กับ ปัญญา ฝรั่ง นี่ ไม่ เหมือนกัน นะ ฝรั่ง นี่ มัน มี หัว คิด ดี แต่ว่า ปัญญา ที่ จะ ทำ อะไร ควร ทำ ก่อน เนี่ย บางที มัน เอา มา ทำ หลัง และ ปัญญา ต้อง เป็น ไป เพื่อ นำ สันติสุข มา ให้ ตน และ สันติภาพ มา ให้ สังคม | |
130. They say that you use however much wisdom you have. It is
called using wisdom for oneself and bringing high peace to society. |
130. เขา เรียกว่า ปัญญา ตอนนี้ ถ้า ใช้ เท่าไหร่ มี เท่าไหร่ นำ สันติสุข มา ให้ ตน เท่านั้น และ นำ สันติภาพ ไป ให้ สังคม มาก ขึ้น | |
131. The Westerners truly have wisdom, but what have they
built? In saying this I'm afraid that my life will not be safe. America is
richer than Thailand. They make weapons to sell--I don't want to say this
not because I'm afraid of dying but because I should save my life to do
profitable things in the future. Mae!--really, really, you know--If the
Westerners used wisdom in this the path in which what should be done first
is really done first, you know. |
131. นี่ ฝรั่ง มัน มี ปัญญา จริง แต่ มัน สร้าง อะไร พูด ไป แล้ว ก็ กลัวว่า ชีวิต ไม่ ปลอดภัย ไอ้ ทรัพยากร มัน มี ไม่ เท่าไหร่ อเมริกา มัน รวย กว่า เพราะ ทำ อาวุธ ขาย ไม่ อยาก พูด ไม่ใช่ กลัว ตาย แต่ว่า มัน ควรจะ เก็บ ชีวิต ไว้ ทำ ประโยชน์ ต่อไป แหม จริง ๆ นะ ถ้า ฝรั่ง มัน ใช้ ปัญญา ไป ใน ทางนี้ ที่ว่า อะไร ควร ทำ ก่อน นี่ แล้ว ขอ ถาม จริงๆ นะ | |
132. This world is really, really disorderly, you know. It's
not disorderly because people have lost their weapons, but because they have
lost the dhamma and the religion that would cause the unwholesome thoughts
to abate. This is the principle cause of this every day disorder. |
132. โลกนี้ มัน วุ่น เพราะ กิเลส ไม่ ได้ วุ่น เพราะ ขาด อาวุธ วุ่น เพราะ ขาด ธรรมะ ขาด ศาสนา ที่ จะ ลด กิเลส ฉะนั้น กิเลส เป็น ต้นเหตุ ทำ ให้ วุ่น | |
133. Someone should build something that could get rid of
unwholesome thoughts and not go inventing things in order to get rid of
other human beings. [225] I ask you truly--has anyone here seen the movie
about nuclear destruction? Why did they build it? Then they say that whoever
presses the button first--it would be all over. Really, you know, it's not
at all necessary. |
133. ฉะนั้น ทุกวันนี้ มัน ควรจะ สร้าง อะไร ขึ้น มา เพื่อ ทำลาย กิเลส ไม่ เอา มัน สร้าง ขึ้น มา ทำลาย เพื่อน มนุษย์ ด้วยกัน ถาม จริง ๆ นี่นะ ใคร ดู หนัง เรื่อง ไอ้ นิวเคลียร์ ล้าง โลก บ้าง เคย ดู ไม๊ มัน สร้าง ทำไม แล้ว มัน ถาม ว่า ใคร กด ปุ่ม ก่อน ตอน จบ จริง ๆ นะ มัน ไม่ ได้ จำเป็น เลย | |
134. Now they are in the process of building a new one. When
this kind explodes, buildings, you know, will not be destroyed. Glass would
not be broken, but all the people would die. They make ones that don't
destroy material things but cause people to die out. |
134. นี่ มัน จะ สร้าง มา ใหม่ อีกแล้ว นะ เวลา นี้ มัน กำลัง สร้าง ใหม่ ลง ตึ้ง มา นี่ ระเบิด ชนิด นี้ บ้านเรือน นะ ไม่ เสียหาย กระจก ก็ ไม่ แตก แต่ คน ตาย เรียบ มัน ทำ ระบบ ไม่ ให้ เสีย ทรัพยากร แต่ ให้ คน เนี่ย สลบ และ ตาย | |
135. Look at this! Should this be done first? I ask the
students. |
135. ดู ดิ อันนี้ ควรทำ ก่อน ไหม เนี่ย ถาม นักศึกษา หน่อย | |
136. I [Rev.] once went to a museum of science. There they had
the Apollo 12 space capsule which had gone to the moon. [230] |
136. อาตมา ไป ดู ไอ้ พิพิธภัณฑ์ วิทยาศาสตร์ ไป ดู อะพอลโล ๑๒ ที่ ขึ้น โลก พระจันทร์ อันนั้น น่ะ ไป ได้ ดู เขา ถอด ออก มา หมด ไป ดู ๆ | |
137. Nowadays they can plant trees in the air--they don't have
to have soil to plant them in. I ask why they even had to think of doing
that. They say that they will do it in order to go plant things on the moon. |
137. แล้ว ก็ ไป ดู สวน หนึ่ง มัน สร้าง เดี๋ยวนี้ นะ มัน ปลูก ต้นไม้ กลาง อากาศ ไม่ ต้อง มี ดิน ปลูก ถามว่า ทำไม ต้อง คิด ทำ อย่างนี้ มัน บอกว่า เพื่อ จะ ได้ ไป ปลูก ใน โลก พระจันทร์ | |
138. I ask truly, between taking these really evil unwholesome
thoughts, you know. Taking the really evil, unwholesome thoughts out of our
hearts, and taking ourselves from here to the moon--of these two, what
should be done first? Which one? We who are Buddhists should take the really
evil, unwholesome thoughts out first. Because these are what causes disorder
to happen. |
138. ถาม จริง ๆ ระหว่าง เอา กิเลส ชั่ว ๆ สอง อย่าง นะ เอา กิเลส ชั่วๆ ออก จาก ใจ เรา กับ เอา ตัวเรา ออกไป โลกพระจันทร์ เนี่ย สอง อย่างนี้ อันไหน ควร ทำ ก่อน เรา มัน พวก พระพุทธเจ้า นะ เรา ก็ ว่า น่า จะ เอา กิเลส ชั่ว ๆ ออก ก่อน เพราะว่า อะไรๆ มัน เกิด วุ่น ขึ้นมา | |
139. The police and the villagers don't get along. What
provokes them to do this? The unwholesome thoughts of the police and the
unwholesome thoughts of the villagers. Do you see it? |
139. ตำรวจ กับ ชาวบ้าน ไม่ ถูกกัน เพราะ อะไร ยุ ให้ กัด กัน ล่ะ กิเลส ตำรวจ กับ กิเลส ชาวบ้าน เห็น ม๊ะ | |
140. And why do students and teachers not get along? [235]
They can't get along because of these unwholesome thoughts. |
140. เพราะ ฉะนั้น ลูกศิษย์ ครูบาอาจารย์ มัน เกิด จาก กิเลส ทั้งนั้น น่ะ | |
141. We should take the evil out first. |
141. น่า จะ เอา กิเลส ออก ก่อน | |
142. They went to the moon and then the man who took the
spacecraft up to the moon came back and died of what? He died of alcoholism.
They could take him out to the moon, but they couldn't take the very evil
unwholesome thoughts away or take the alcohol out of his mouth. |
142. นั่น มัน ไป เอา โลกพระจันทร์ แล้ว คน ที่ นำ เอา ยานอวกาศ ไป โลกพระจันทร์ กลับมา เป็นอะไร ตาย เป็น โรค แอลกอฮอลิซึ่ม ตาย มัน เอา ตัว มัน ออกไป โลกพระจันทร์ ได้ แต่ วัน เอา กิเลส ชั่ว ๆ เอา เหล้า ออก จาก ปาก มัน ไม่ ได้ | |
143. Thus if the Westerners used just a little of their
thinking in this area of getting rid of unwholesome thoughts--they should
build a technological machine. |
143. งั้น ถ้า ฝรั่ง มัน ใช้ ความคิด มัน ใน เรื่อง มา ทำลาย กิเลส สักนิด มัน น่า จะ สร้าง เครื่อง เทคโนโลยี | |
144. Nowadays they build this machine and that machine. In
America the faucets are all controlled by computers. Put your hands under
it--you don't have to turn the faucet on--just poke your hands under it and
the water flows. When you remove your hands, it stops. It's already to this
point. You don't have to open doors. [240] Some cars have remote controls.
You can be outside and just press a button and the air conditioning will
turn on. The inside of the car will be nice and cool when you are ready to
get in. |
144. เดี๋ยวนี้ มัน สร้าง เครื่อง อะไรต่ออะไร พิสดาร ใน อเมริกา ก๊อกน้ำ มัน ใช้ ระบบ คอมพิวเตอร์ หมด จะ ล้าง มือ ไม่ ต้อง เปิด ก๊อก เพียง ยื่น มือ ไป น้ำ ก็ ไหล พอ ดึงออก หยุด ขนาดนี้ ขนาดนี้ แล้ว รถ ไม่ ต้อง ไป เปิด ประตู สตาร์ท ปัง รถ จอด กลาง แดด มัน ร้อน มัน มี ที่ สตาร์ท อยู่ ข้างนอก มัน มี รีโมทร์ อยู่ ข้างนอก เลย กด ปรื๊ด พรืด ติด แล้ว ใน รถ แอร์ เป่า เย็น พอ เปิด ประตู เย็น พอดี ไอ้ อย่าง บ้านเรา พอ ตากกแดด ร้อน ๆ ที ตาย กว่า จะ เปิด ได้ มึน เลย | |
145. They are clever at--Ay--science. They are really, really
clever, you know. But they don't have the wisdom to help unwholesome
thoughts be abated. |
145. โอ้ย มัน เก่ง เรื่อง วิทยาศาสตร์ นี่ มัน เก่ง จริง ๆ นะ แต่ว่า มัน ไม่ ได้ มี ปัญญา ที่ จะ ช่วย ลด กิเลส | |
146. They should build a technological machine--a machine to
suck out unwholesome thoughts. Take a really bad child and have him go into
the unwholesome thought sucking machine. Phap phap phap phap
--"That's it, your son is fine." There's a man who drinks and is a playboy.
His wife takes him into the sucking machine--phap phap phap phap
--"That's it--your husband will be good from now on." |
146. มัน น่า จะ สร้าง เครื่องเทคโนโลยี สัก เครื่อง หนึ่ง คือ เครื่อง ดูด กิเลส ลูก ชั่ว ๆ พอ เข้า เครื่อง ดูด กิเลส พับ ๆๆๆๆ ออก มา เรียบร้อย ผัว กิน เหล้า เจ้า ชู้ เมีย พา เข้า เครื่อง ดูด พับ ๆๆๆๆ ออก มา เรียบ ร้อย | |
147. If they are able to do it, I [Rev.] would sell the temple
and buy one. [245] Then I would be the first monk to get into it and be
sucked. Once the sucking is finished the unwholesome thoughts that I used to
have, the passion that I used to have toward the opposite sex, well--I would
be like a dog seeing ripe rice in a field.5 It would give a
feeling of peace, not having anything to make us hot hearted, you know. |
147. ถ้า มัน ทำ ได้ อาตมา จะ ขาย วัด ซื้อ มา สัก เครื่อง หนึ่ง แล้ว จะ เข้า ดูด เป็น องค์ แรก ถ้า ดูด เสร็จ แล้ว กิเลส ที่ เคย มี ราคะ ที่ เคย มี เห็น เพศ ตรงข้าม ก็ เหมือน หมา เห็น ข้าวเปลือก ซะ สบายใจ ไม่ ต้อง ตะกาย แกรก แกรก ให้ มัน ร้อนอกร้อนใจ | |
148. If the Westerners could do it, I [Rev.] would fall at
their feet and kowtow three times. I would sing the praises of the
Westerners! |
148. แหม จริง ๆ นะ ถ้า มัน ผลิต ได้ อาตมา จะ กราบ ตีน ฝรั่ง ซัก สาม ที แล้ว จะ ร้อง " ฝรั่ง สาระนัง คัจฉามิ " | |
149. But they can't do this. Thus, we have to continually obey
our lord Buddha. He has wisdom that leads to the real happiness of the
individual and the real peace for the people of the world by giving people a
way to get rid of unwholesome thoughts through meditation commands. [250]
This is what the Buddha showed us, you know. |
149. นี่ มัน ก็ ทำ ไม่ ได้ เรา จึง ต้อง กราบ พระพุทธเจ้า ของ เรา ต่อไป เพราะ พระองค์ มี ปัญญา เพื่อ สันติสุข ของ พระองค์ จริง ๆ แล้ว ก็ เพื่อ สันติภาพ ของ ชาวโลก จริง ที่ มา ช่วย แนะแนว ทำลาย กิเลส ดูด กิเลส ออก ด้วย ศีล สมาธิ ปัญญา ที่ พระองค์ ทรง แสดง นะ | |
150. If they could make a machine and were selling them for 5
billion baht each, I would be glad to buy one. Then I would have the
government employees sucked out first--and of those, the police would be
sucked out first. I guarantee that if the police went in--phap phap phap
phap --they would come out and bravely say. "Sleep in peace, people. I
will protect you." |
150. จริงๆ นะ ถ้า มัน ทำ มา ได้ เครื่อง ละ ห้าพัน ล้าน ก็ ยินดี ยุ ให้ รัฐบาล ซื้อ และ มา ดูด พวก ข้าราชการ เป็น ชุด แรก โดย เฉพาะ กรม ตำรวจ นี่ ดูด ก่อน เพื่อน นะ จริง ๆ รับรอง พอ ตำรวจ เข้า เครื่อง ดูด พับ ๆๆๆ ออกมา แล้ว ประกาศ อย่าง ผึ่งผาย " หลับ เถิด ผอง ไทย ข้า จะ คุ้มภัย ให้ " เรื่อง ใคร ดีด ไข่ ไม่ มี อีกแล้ว ประชาชน ก็ จะ รัก ตำรวจ | |
151. Now the people can't get along with the police. The
people break laws. They lack the dhamma commandments and like to do wrong.
Accordingly, the police catch them. Then they have unwholesome thoughts.
"You give me a little, and I'll arrest you regularly." Give me a lot and
I'll only give you a few problems."[255] |
151. ที่ ตำรวจ กับ ประชาชน เข้า กัน ไม่ ได้ ประชาชน มัน ก็ เลว ไร้ ศีลธรรม ชอบ ทำ ผิด กฏหมาย ตำรวจ ก็ จะ ตาม จับ แล้ว มี กิเลส เอง ให้ ข้า มาก จับ น้อย เอ็ง ให้ ข้า น้อย จับ มาก มัน ยุ่ง อยู่ อย่างนี้ | |
152. They live in this sort of confusion because they lack
wisdom--knowledge of what should be done first and what should be done
later. What should be done? What does not have to be done? |
152. เพราะ มัน ขาด ปัญญา กัน รอบรู้ อะไร ควร ทำ ก่อน อะไร ไม่ ต้อง ทำ อะไร ควร ทำ อะไร ไม่ ต้อง ทำ | |
153. Between study and love, which one should come first? Your
mouths say. "study." I ask you truly--are you tuning in yet? Have you ever
written a note or two? Have you ever made an appointment to go see a movie
late at night? [260] Then go do--Ay--a thing that doesn't have to be done
and a thing that should be done at a later time--go ahead and do it? Let's
be careful! If we are interested in things like this and are going to live
in lust and not graduate--such a person is disappointing, you know. If you
butter both sides of a piece of bread it will be all wet and soggy, and you
won't be able to eat it. Let's tell them to take the two together. It will
join with the unwholesome thoughts and be there all the time. Afraid the
unwholesome thoughts will make you sad? You have to try to conserve things
and have it all go together. |
153. ระหว่าง เรียน กับ รัก อัน ไหน ควร ทำ ก่อน ปาก ก็ เรียน ถาม จริง ๆ ติดต่อ ไว้ แล้ว หรือ ยัง เคย เขียน จดหมาย บ้าง ไหม เคย นัด ไป ดูหนัง รอบ ดึก บ้าง ไหม เนี่ย เลว ไป ทำ ไอ้ สิ่ง ที่ ไม่ ต้อง ทำ และ สิ่ง ที่ ควร ทำ ทีหลัง เอา ไป ทำ แล้ว ระวัง เถอะ ถ้า ไม่ สนใจ เรื่องนี้ แล้ว มัน จะ ร่าน ไป เรื่อย เรียน ไม่ จบ แล้ว ก็ กลาย เป็น คน เสียหาย นะ จะ ให้ ขนม ปัง ทา เนย สด สอง หน้า มัน เปรอะ มือ แฉะ กิน ไม่ได้ เชื่อเหอะ แม้น เขา ว่า เอา สอง อย่าง พร้อมกัน ไป จะ ต่อรอง กับ กิเลส อยู่เรื่อย กลัว กิเลส จะ เศร้าหมอง พยายาม ถนอม ให้ มัน ไป ด้วยกัน (ฮา) | |
154. Aw la. In summary, wealth of personhood is a thing that
gives human beings happiness. Wealth of possessions is a thing that gives
human beings happiness. But the Buddhist religion, well, doesn't say, "Don't
have wealth of possessions." Rather, it teaches to us to produce a lot and
use a little. [265] Then give the excess to other people--that kind of
material wealth is good. |
154. เอาหละ ก็ สรุป เลย ว่า มนุษย์สมบัติ ก็ คือ เครื่อง ปลื้มใจ สำหรับ มนุษย์ ทรัพย์สมบัติ มัน ก็เ ป็น เครื่อง ปลื้มใจ สำหรับ มนุษย์ แต่ พระพุทธศาสนา ก็ ไม่ได้ บอกว่า อย่า เอา ทรัพย์สมบัติ แต่ ท่าน กลับ บอกว่า ให้ ผลิต ให้ มาก ไอ้ ทรัพย์สมบัติ เนี่ย บริโภค แต่ น้อย ใช้จ่าย แต่ น้อย แล้ว เหลือ เจียด ช่วย ผู้อื่น ผลิต ให้ มาก ทำ ให้ มาก หา ให้ มาก ด้วย วิธี ที่ สุจริต แล้ว มา กิน อยู่ ใช้จ่าย แต่ น้อย แล้ว เหลือ เจียด ช่วย ผู้อื่น เจ้า ทรัพย์ เนี่ย หา อย่างนั้น ก็ ดี | |
155. Now we have only the type who do a little and want a lot.
They don't do anything but want it all. It's a cause of excessively high
tastes. |
155. ทีนี้ ก็ มี แต่ ประเภท ทำ น้อย อยาก ได้ มาก ไม่ ทำ แล้ว จะ เอา ทั้ง หมด รายได้ ต่ำ รสนิยม สูง | |
156. If they don't have money they go rent a refrigerator--go
make a down payment and then pay by installments. Then they rarely have
anything to put in the refrigerator. They have it for 1-7 days. After that,
they don't have anything left in the refrigerator--only water and oranges
rolling around. |
156. เงิน ก็ ไม่ มี ไป เช่า ตู้เย็น ไป ดาวน์ ไป ผ่อนส่ง มา ของ ก็ ไม่ ค่อย จะ มี ใส่ ตู้เย็น จะ มี ก็ แต่ วันที่ ๑ ถึง ๗ เท่านั้น แต่ จากนั้น ก็ ไม่ มี เหลือ เหลือ แต่ น้ำ กับ ส้มกลิ้ง ขลุกขลัก ๆ | |
157. Aw la! Now, may blessings be upon the faculty, teachers,
professors, and undergraduate students who intended to listen well
throughout. [270] |
157. เอาละ วันนี้ ก็ ขอ อวยพร ให้ คณะ ครู อาจารย์ นิสิต นักศึกษา ที่ ตั้งใจ ฟัง มา ด้วย ดี ตลอด | |
158. May everyone get both material wealth and wealth of
personhood--they give convenience and comfortableness. Wealth of humanity
gives happiness, calmness. and coolness. |
158. ก็ ขอให้ ทุกคน ได้ ทั้ง ทรัพย์สมบัติ และ มนุษย์สมบัติ ทรัพย์สมบัติ ให้ ความ สะดวก สบาย มนุษย์สมบัติ ให้ ความ สุข สงบ เย็น | |
159. May everyone get both convenient comfortableness and, added to that, happiness, calmness, and coolness throughout every day and night. | 159. ขอให้ ทุกคน ได้ ทั้ง ความ สะดวกสบาย และ ก็ บวก กับ ความ สุข สงบ เย็น ตลอดไป ทุก ทิวา ราตรี กาลเทอญ....... |
1To show respect for a teacher with
pressed hands in a prayer-like fashion.
2The term "villagers" as
used in this section refers to all people who are not
monks. 4Idiomatic expression referring to heroin shaped into capsule form and the new-found religiosity of near brain-dead drug addicts who enter (or are placed into) the monkhood. 5Idiomatic expression which, in this context, means that Phra Phayom would not act on his sexual desire anyway since he is a monk. |