มัทรี
หน้า ๔
หล่อนอัดบุหรี่ ท่าทางใช้ความคิด พลางก้มลงติดดุมเสื้อ "มันก็ดีหรอก แต่ชั้นต้องทำงานหนักแย่ ..." The woman inhaled deeply, seeming to think, as
she slowly fastened the open buttons of her blouse. |
"โธ่ . . . ใคร ๆ เขาก็ต้องทำงานกันทั้งนั้น มีแต่คนเขาอยากมีงานทำแล้วหาไม่ได้ ฉันเป็นตำรวจนี่ก็ต้องทำงาน แล้วเธอ . . ." เขาโกรธมากแต่พยายามพูดช้า ๆ เบา ๆ เหมือนพระเทศน์ "ก็ . . . ไม่เคยทำ" "Everyone has to work. And there are
plenty of people who want to work hard and can't find work. I am a police officer,
that is my work, and you. . ." he struggled against his anger, to keep his
voice low and his words slow, like a sermon. |
"จำเริญ . . . แม่คุณ พอโตขึ้นมาหน่อยก็รีบมีผัวงั้นใช่ไหม ผัวหาเลี้ยงจนเขาเบื่อละซี เรามันเป็นยังงี้นี่นา . . . มิน่าล่ะ" เสียงเทศนาชักกลายเป็นคนในเครื่องแบบ "You never worked! But you got yourself a husband when you were
hardly an adult - maybe he just got sick of being the only one working and supporting you
and those three kids." This was sounding less like a sermon, more like the
words of a man in a police uniform. |
น้ำตาร่วงเผาะ หล่อนมองเขาอย่างขลาด ๆ ก่อนจะเปลี่ยนสรรพนามอ้อนวอน "ให้หนูไปบวชเถอะ" Tears began to drip down the woman's cheeks.
She looked at him with something that might be fear, changed her tone of voice to a
supplicating one as she said, |
คราวนี้นายตำรวจหมดความอดทน ทุบโต๊ะดังปังและผลุดลุกขึ้นยืน สองมือเท้าโต๊ะ หน้าถมึงทึง "เล่นเอาตัวรอดง่าย ๆ ยังงี้เอง คนอะไรไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคม" This was it. The lieutenant rose, glaring
at her and slapping the table loudly with the flat of his hands, barely able to suppress
his rage as he said, |
หญิงสาวผวาออกจากเก้าอี้ ถอยกรูดไปชิดฝา มือตะครุบชายพกเกือบไม่ทัน เหงื่อเย็นทะลักใต้ตาใต้จมูก เรียงเป็นเม็ดยิบ ทุกสิ่งในห้องเงียบ ข้าวราดแกงเย็นชืด แมลงวันตอม เสียงสะอื้นค่อย ๆ ดัง The woman sprang from her chair, shuffled
backward until she reached the wall. Sweat appeared on her face, trickled down from
her eyes and her nose. The room had become absolutely quiet; flies buzzed over the
cold rice and curry. Then she began to sob.
|
"คนเขาบวชกันเยอะแยะ ทำไมไม่มีใครว่า" หล่อนบ่นอย่างดื้อรั้น คล้ายกับไม่เข้าใจ สิ่งที่นายตำรวจเทศนา Lots of men get to be monks,
lots of them! Why doesn't anybody yell at them?" She didn't seem to have
understood any of his sermon.
|
"ก็ . . . นั่นเขาไม่มีห่วง เขาไม่ได้ปัดสวะให้พ้นตัวอย่างเรานี่ . . . มีที่ไหนกัน จะทิ้งลูกไปบวช พูดง่าย ๆ จะหนีความรับผิดชอบโดยใช้ศาสนาบังหน้า ว่างั้นเถอะ ถ้าลูกมันเต็มอกเต็มใจไปทุกข์ยากอยู่ข้างถนนแล้วจะแสดงว่าแม่มันตัดกิเลสได้งั้นรึ" นายตำรวจเน้นเสียงดุเด็ดเผ็ดมันโต้หล่อน "But those men aren't escaping their
responsibilities, holding up religion in front of their faces like you! Even if your
poor children went willingly to be left at the roadside, how do you think that would show
their mother to be a good Buddhist?"
|
"แล้วทีผู้ชายทำไมทำได้" ดูเหมือนหล่อนไม่ยอม "ใคร . . . ใครเขาทำกันยังงั้น หา" "ก็ . . . พระเวสสันดร" "Then why do men get to do
it?" |
นายตำรวจใหญ่ของเรางง เขาไม่แน่ใจว่าหล่อนพูดเรื่องอะไร แต่ค่อย ๆ ขยับเก้าอี้ ลงนั่งมองหญิงสาวอยู่ครู่ใหญ่ แล้วผายมือให้หล่อนนั่งลงตามเดิม ส่วนตัวเองก้มลงเขียนอะไรบางอย่างบนกระดาษอย่างเงียบ ๆ แล้วเรียกผู้ใต้บังคับบัญชาเข้ามา Our big police officer is stunned. He is
not sure what the woman is talking about. But slowly, he sits down in his chair and
stares at her. He extends his arm, motions for her to sit down again. He picks
up his pen, writes quietly, his shoulders hunched, head down. He calls one of his
men into the room. |
"เอาหนังสือกับผู้ต้องหาไปส่งหมอ ... ได้ผลยังไงแล้วเอากลับมารายงานอั๊ว" "Take this form and the accused, and send her to the doctors. And when they come up with some kind of result, I want a report." |
|
main
|
page
1 |
page
2 | page
3 | page 4 |
Printer-friendly
Text |
|
Wetsandorn
Chadok |Kan
Matsii |
Short
Story |
Thai
Literature |