sound.gif (1078 bytes)บุรุษผู้นั้นเล่าให้เขาฟังว่า คณะสันติชนและสำนักหนังสือพิมพ์หลายสำนัก รวบรวมเงินเฉพาะงวดแรกได้ถึงห้าหมื่นบาทและเสื้อผ้าอีกหลายพันชิ้น รวมกันเข้ากันเป็นเงินตั้งแสนบาท บุรุษผู้นี้บอกแก่เขาว่า เงินและสิ่งของซึ่งมีราคามากมายเหล่านี้ ไม่ได้มาจากเศรษฐีหรือหรือคนมั่งคั่งหรือพวกคนใหญ่โตที่ไหน แต่มาจากคนธรรมดาสามัญที่เดินอยู่ตามถนน ที่ยืนโหนรถเมล์และรถรางที่นั่งพุ้ยข้าวต้มหรือกินข้าวราดแกง ที่อาศัยอยู่ตามบ้านเล็กเรื่อนน้อย เงินและสิ่งของเหล่านี้ส่วนมากมาจากกรรมกรหรือคนงานที่ยากจนมาจากเยาวชน ผู้หญิง เสมียน พนักงาน ลูกจ้างมาจากคนธรรมดาสามัญทั้งไทยและจีน มาจากสิ่งที่บุรุษผู้นั้นสรุปเรียกว่า "ประชาชน" The gentleman told Am that the pacifists and newspapers had come together to collect fifty thousand baht in just its first installment, as well as several thousand pieces of clothing.   Together, it was worth one hundred thousand baht.   He went on to say that these valuable gifts didn't come from the rich or the powerful, but from normal, everyday people, people who walked the streets, or who stood in the buses or trolleys, the coolies who slurped up rice soup and workers who ate rice and curry, people who lived in small homes.  That money and clothes came from poor laborers and workers, from the youth, women, clerks, officials, and employees, from your normal, everyday people, both Thai and Chinese, from a thing that gentleman called "the people".
sound.gif (1078 bytes)  ทั้งหมดที่บุรุษผู้นั้นเล่าให้เขาฟัง เป็นความรู้ใหม่และเป็นความสำนึกใหม่ อ่ำบอกกับภรรยาขณะที่ในมือถือยอดผักบุ้งและนัยน์ตาจ้องจับอยู่ที่ยอดผักบุ้งนั้น "เหมือนกับผักบุ้งที่ข้ามืออยู่นี้ที่แม่ไปเก็บมาจากในคู ที่ขึ้นอยู่ทั่วไปทุกหนทุกแห่งนี่แหละคือประชาชน นิ่มเอ๋ย มันเหมือนกับความฝัน เมื่อเขาบอกว่าข้าว่าเงินและสิ่งของที่มีราคานับแสนที่จะส่งไปช่วยพี่น้องอีสานของเรานี้ได้มาจากคนงานจนๆคนธรรมดาสามัญอย่างแกกับข้านี่แหละ ไม่ใช่ได้มาจากพวกเศรษฐีและจากพวกท่านที่มีอำนาจ มีอิทธิพลอะไรดอก คนอย่างข้าเพิ่งรู้จักประชาชน และข้าก็จะจำไว้จนตายมันมีกำลัง มันทำให้ข้ามีกำลังมันทำให้คนอย่างแกกับข้า อย่างอ้ายหนูอีหนูเป็นมนุษย์ที่มีค่าและคุณคนนั้นแกว่า มีค่ายิ่งกว่าพวกมั่งมีที่ไปคอยกอบโกยข้าวตามท้องนาของเราเสียอีก" Everything that the gentleman said was new to Am, and he was just beginning to realize what it meant. His eyes stared at the morning glory he held in his hand.  "It's like this piece of morning glory, that your mother picked from the ditch, that grows up all over the place, every which way, in every little comer, this is like the people. Nim, it was like a dream when that man told me that the money and clothes -- over one hundred thousand baht worth! -- came from poor workers, normal people like you and me. It didn't come from rich people, or those people in power with lots of influence.  Folks like you and me. I'm just realizing what the people are, and I'm gonna remember until I die.   They have power.  They make me have power.  It makes people like you and me, like our children, become humans that aren't worthless.  And that guy said that we have worth even more than the wealthy who are waiting to gather up our rice."