162. When he came to the hermitage |
๑๖๒. ครั้นถึงอาศรมสถาน |
He paid his obeisance and explained the situation to the ascetic. |
มัสการแจ้งความพระดาบส |
He said he had gone in and admired the status |
ว่าข้าไปชมเกียรติยศ |
Of Totsakan, ruler of Lanka. |
ท้าวทศพักตรเจ้าลงกา |
It was as delightful as seeing the heaven |
แสนสนุกดั่งได้เห็นสวรรค์ |
Of the thirty-third level. |
ในชั้นแดนดาวดึงสา |
"But one thing was remored. |
แต่ความหนึ่งเขาเล่าลือมา |
They say the great demon |
ว่าองค์พระยาอสุรี |
Went walking in the forest |
ไปเที่ยวประพาสพนาลัย |
And got the great Lady Sita |
ได้นางสีดามารศรี |
Whose figure is the delight of the world. |
ทรงโฉมประโลมโลกีย์ |
There is no woman who compares. |
ไม่มีหญิงใดเปรียบปาน |
I'd like to see her, |
ข้านี้จะใคร่เห็นองค์ |
To admire her person. |
ชมรูปชมทรงส่งสถาน |
As for the maiden Sita, |
อันนางสีดายุพาพาล |
How can she love the giant chief? |
รักใคร่ขุนมารประการใด |
O, great ascetic, |
องค์พระมหาสิทธา |
Have you ever been there? |
เคยไปเคยมาฤาหาไม่ |
Where does Totsakan |
ทศกัณฐ์ให้นางอรไท |
Keep her, O ascetic?" |
อยู่ที่แห่งใดพระมุนี ฯ |
|
ฯ ๑๐ คํา ฯ |
|
|
163. Then |
๑๖๓. เมื่อนั้น |
Narot the Great Ascetic |
พระนารทมหาฤาษี |
Listened and answered. |
ได้ฟังจึ่งตอบวาที |
"Listen, skillful monkey. |
ดูก่อนกระบี่ชาญฉกรรจ์ |
Even though I live on the island of the giant's kingdom |
ถึงกูอยู่ทวีปเมืองมาร |
I don't make friends with the demons. |
ไม่คบพวกพาลโมหันธ์ |
But I know this, Beautiful Sita |
แต่แจ้งว่าสีดาวิลาวัณย์ |
Is the wife of Rama. |
นางนั้นเป็นเมียพระรามา |
If Totsakan has stolen her and kept her |
ทศพักตรไปลักมาไว้ |
In the garden of the giants. |
ยังในอุทยานยักษา |
The lady is not happy. |
นางไม่ยินดีปรีดา |
She scolds and reviles them in all sorts of ways. |
ตัดพ้อด่าว่าทุกประการ |
You are only a monkey |
ตัวเอ็งเป็นแต่วานร |
Wandering in the forest. |
สัญจรอยู่ในไพรสาณฑ์ |
I'm curious beyond measure |
กูคิดสงสัยพ้นประมาณ |
Why you ask about the lady." |
ถามหานงคราญด้วยอันใด ฯ |
|
ฯ ๘ คํา ฯ |
|
|
164. Then |
๑๖๔. บัดนั้น |
The Son of the Wind, the courteous, |
วายุบุตรผู้มีอัชฌาสัย |
Listened, and his doubts were resolved. |
ได้ฟังสิ้นแหนงแคลงใจ |
He paid his obeisance and then explained his business. |
กราบไหว้แล้วแจ้งกิจจา |
"My name is Hanuman. |
ตัวข้านี้ชื่อหนุมาน |
I am a soldier of Naray the Refuge. |
เป็นทหารพระนารายณ์นาถา |
Now, His Highness |
บัดนี้พระองค์ทรงศักดา |
Has gathered together all the monkey soldiers, |
ประชุมโยธาวานร |
The entire city of Kishkinda, in Chompu, |
ทั้งกรุงขีดขินชมพู |
Stationed at Kantamat Mountain. |
ตั้งอยู่คันธมาทน์สิงขร |
When ready, he will have the troops |
พร้อมแล้วจะยกนิกร |
Come and fight the giants. |
ตามมาราญรอนอสุรี |
He had me come to find out news |
ตรัสใช้ข้าบาทมาฟังข่าว |
About the Queen. |
เรื่องราวองค์พระมเหสี |
To know if things are good or bad. |
ให้รู้ว่าอยู่ร้ายดี |
Now I'll take my leave." |
ข้านี้จะมัสการลา ฯ |
|
ฯ ๘ คํา ฯ |
|
|
165. Then |
๑๖๕. เมื่อนั้น |
The great ascetic, bold in piety, |
พระมหาดาบสพรตกล้า |
When he knew that he was a soldier of the Discus-bearer, |
แจ้งว่าทหารพระจักรา |
When had come in search of news of the beautiful Sita, |
มาสืบข่าวสีดาวิลาวัณย์ |
He was very happy. |
มีความแสนโสมมนัสนัก |
"Here, Totsapak the Bewildered, |
ทีนี้ทศพักตรโมหันธ์ |
With the evil giants, |
ทั้งพวกอสุราอาธรรม์ |
Are to be destroyed with the arrows of the Discus-bearer." |
จะบรรลัยด้วยศรพระจักรี |
Having thought this, he spoke eloquently. |
คิดแแล้วจึ่งกล่าวสุนทร |
"Listen, Hanuman the monkey, |
ดูก่อนหนุมานกระบี่ศรี |
Go with my blessing. |
ท่านจงไปเป็นสวัสดี |
Let no harm come to you." |
ราคีสิ่งใดอย่าบีฑา ฯ |
|
ฯ ๖ คํา ฯ |
|
|
166. Then |
๑๖๖. บัดนั้น |
The brave Son of the Wind |
วายุบุตรวุฒิไกรใจกล้า |
Bent his head and received the ascetic's blessing. |
ก้มเกล้ารับพรพระสิทธา |
He made obeisance and took his leave. Then he flew off in haste. |
ชุลีลาแล้วรีบเหาะไป ฯ |
|
ฯ ๒ คํา ฯ เชิด |
|
|